หลินหยุนไม่ได้พูดอะไรมาก นั่งขัดสมาธิลง แล้วก็บำเพ็ญฝึกฝนต่อ
โรงเตี๊ยมเยว่หลายแห่งนี้ราคาไม่ใช่ถูก ๆ แต่สภาพแวดล้อมในการบำเพ็ญก็ถือว่าเหมาะสมคู่ควรต่อราคานี้จริง ๆ
ไม่พูดก็คงไม่ได้ สถานที่แห่งนี้ถือได้ว่าเป็นสถานที่บำเพ็ญฝึกฝนที่ยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว ที่หลินหยุนพบเจอหลังจากที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมา
ทะเลสาบเยว่หยา เขาได้ทุ่มทุนมหาศาล เพื่อจัดวางค่ายกลรวมพลังขนาดใหญ่และมีระดับสูงสุด รวมถึงค่ายกลพิทักษ์ที่มีทั้งเชิงรุกและเชิงรับ
แต่โลกมนุษย์มีชี่ทิพย์ที่เบาบางอย่างมาก ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับโลกคุนชางแล้ว แตกต่างกันลิบลับ
ภายใต้การควบคุมของค่ายกลรวมพลัง ก็จะแข็งแกร่งกว่าภายในโลกคุนชางเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
แต่เมื่อเปรียบเทียบกับสถานที่แห่งนี้ภายใต้การควบคุมของค่ายกลรวมพลังนั้น ก็ถือว่ามีความแตกต่างกันไม่น้อยเลยทีเดียว
เขาไม่คิดที่จะสิ้นเปลืองเวลาอะไรอีก
เห็นหลินหยุนบำเพ็ญฝึกฝนต่อ คู่ดวงตาที่สวยงามของซิงเฟยก็เป็นประกายขึ้น ทำปากมุ่ย หันหลังแล้วก็เดินออกไปจากวิมาน
เมื่อออกมาจากวิมาน ก็หยิบยันต์สื่อสารของตนเองออกมา แล้วก็พิมพ์เนื้อหาลงไปพร้อมกับใบหน้าที่หม่นหมอง
จากนั้นก็ออกจากโรงเตี๊ยม มุ่งหน้าไปยังเมืองเทียนหยุน
ทางใต้ของเมือง หอเยว่หลาย
ซิงเฟยก้าวเดินเข้าไป แล้วก็เลือกหาที่นั่งภายในห้องโถง
ไม่นาน เงาร่างที่คุ้นเคยร่างหนึ่งก็เดินเข้ามาด้านใน
เมื่อเห็นซิงเฟย คนที่มานั้นก็รีบเดินเข้ามาหา และนั่งลงฝั่งตรงข้าม
“เฟยเฟย วันนี้มาหาฉัน คือต้องการที่จะไปเดินเล่นในสำนักของพวกเราใช่ไหม? ”
“ฉันว่าอย่าเลยดีกว่า”
“เพราะว่าก่อนหน้านี้หลินหยุนเพื่อนของเธอคนนั้น ได้มีปัญหาไม่พอใจกันกับศิษย์พี่เจียง”
“ถ้าหากเธอจะไปที่สำนัก ก็ควรจะให้ศิษย์พี่เจียงพาไปจะดีกว่า”
“ฉันพาไปไม่ได้หรอก! ”
เห็นใบหน้าที่เย็นชาของซิงเฟยแล้ว ติงหลิงก็หนักใจ
แต่ว่าเธอก็ได้เตรียมใจมาก่อนแล้ว ในตอนนี้เหมือนจะทำเป็นมองไม่เห็น แกล้งหลอกลวงตบตาซิงเฟยอยู่
แต่ซิงเฟยนั้นไม่ยอมปล่อยให้เธอเปลี่ยนเรื่องพูดได้ง่ายดายอย่างนี้ พลันเงยหน้าขึ้น แล้วก็มองไปที่ติงหลิงด้วยสายตาที่เย็นชา
ติงหลิงตกใจ จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “เฟยเฟย เธอเป็นอะไรไป? ใครทำให้เธอโมโหขนาดนี้ด้วย? ”
ซิงเฟยยิ้มเยาะ และพูดว่า “ติงหลิง เธอใช้ได้เลยนะ! เมื่อเข้าไปอยู่ในสำนักเทียนหยุนแล้ว เพื่อนเก่าอย่างฉันนี้ เห็นสมควรจะเลิกคบก็เลิกคบเลย ใช่ไหมล่ะ? ”
ซิงเฟยไม่เปิดโอกาสให้ติงหลิง โดยพูดต่อทันทีว่า “ยังจะมาทำเป็นเล่นตบตากับฉันอีก! เธอกล้าพูดไหมล่ะว่าเรื่องที่คุณชายเซียวยู่บ้าบออะไรนั้นมาหาเรื่องพวกเรานั้น เธอเอง
ไม่รับรู้? ”
“ฉันเองก็ไม่ได้จะขอร้องอะไรเธอ แต่ในฐานะที่เป็นเพื่อนรักที่เติบโตด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก เธอบอกให้ฉันทราบก่อนล่วงหน้า ก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรไม่ใช่เหรอ? ”
“เมื่อเธอปีนป่ายขึ้นบนต้นไม้ใหญ่สูงเสียดฟ้าแล้ว ก็มองไม่เห็นคนตัวเล็กอย่างฉันแล้วใช่ไหมล่ะ! ”
“พวกเรามีความสัมพันธ์กันมานานหลายปี วันนี้ฉันว่าพวกเรายุติลงกันเพียงเท่านี้เถอะ! ”
ติงหลิงได้ยินดังนั้นก็ลุกยืนขึ้นทันที ใบหน้าอันงดงามของเธอก็เต็มไปด้วยความเคร่งเครียดอย่างหนัก
แต่เห็นว่าบริเวณโดยรอบมีผู้คนอยู่กันจำนวนไม่น้อย จึงสูดหายใจลึก แล้วก็นั่งลงไปอีกครั้ง
กัดฟันพูดกับซิงเฟยว่า “คิดไม่ถึงว่าเธอจะโกรธเคืองฉัน! ฉันเคยบอกกับเธอไปตั้งนานแล้วว่า ให้พวกเธอรีบหนีไป! แต่เธอฟังไหมล่ะ? ”
“ตอนที่ฉันกลับไปยังสำนัก เจียงเผิงนั้นระแวดระวังตัวอย่างกับอะไร! ”
“เธอรู้ไหมว่าเขาพูดอย่างไรกับพวกเรา? ”
“เขาพูดว่าเขายุติเรื่องแล้ว จากนั้นก็บอกว่าจะพาพวกเราไปดูละคร! ”
“เมื่อพวกเรามาถึงทางใต้ของเมืองแล้ว ถึงจะรู้ว่า ที่จริงแล้วเขายังไม่ได้ยุติเรื่องดังกล่าวลง! ”
“จากนั้นอีกไม่นาน จางเซียวยู่ก็ปรากฏตัวแล้ว! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...