ถ้าหากฉันไม่ได้อยู่ด้วยกันกับหลินหยุนเป็นเวลานานขนาดนี้ รู้ดีว่าคนผู้นี้นอกจากจะชอบทำตัวเย่อหยิ่งแล้ว ไม่มีความคิดหรือการกระทำอะไรที่ผิดแปลกไป ไม่แน่อาจจะคิดแบบนั้นก็เป็นได้
ซิงเฟยครุ่นคิดชั่วครู่ และพูดขึ้นว่า “ตอนนี้หลินหยุนเอาชนะจางเซียวยี่ได้แล้ว เธอคิดว่า เจียงยี่นั้นจะลงมือเองไหม? คนผู้นั้นมีพลังบำเพ็ญระดับไหนกันแน่? ”
“เธอไม่รู้หรอกว่า หลินหยุนชอบที่จะพักอาศัยอยู่ที่เมืองเทียนหยุนนี้อย่างมาก ตอนนี้เขาไม่คิดที่จะจากที่นี่ไป ฉันเองก็หมดปัญญา! ”
“ดังนั้น ฉันอยากจะรู้ว่า หลังจากที่จางเซียวยู่พ่ายแพ้ต่อหลินหยุนแล้ว เจียงยี่ที่เป็นพี่ชายของเจียงเผิงนั้น จะมีแผนการลงมืออะไรบ้างไหม! ”
ติงหลิงขมวดคิ้วและพูดว่า “ฉันบอกกับเธอตั้งนานแล้วว่า! เธอควรจะรักษาระยะห่างกับหลินหยุนเอาไว้จะดีที่สุด! ”
“ถ้าหากเธอเชื่อฟังที่ฉันพูด ตอนนี้ก็รีบออกไปจากเมืองเทียนหยุนซะ ตอนนี้หลินหยุนผู้นั้นกำลังเล่นอยู่กับไฟ! ”
“นอกจากนี้ ฉันจำเป็นต้องบอกกับเธอว่า ศิษย์พี่เจียงยี่แข็งแกร่งกว่าศิษย์พี่จางเซียวยู่มาก อีกทั้งยังโหดเหี้ยมมากกว่าด้วย! ”
“เมื่อเขาลงมือ หลินหยุนจะต้องตายอย่างแน่นอน เธอเองก็จะได้รับความเดือดร้อนไปด้วย เมื่อถึงตอนนั้นอย่าได้หาว่าฉันไม่เตือนเธอนะ! ”
ซิงเฟยส่งเสียงฮึในใจ พูดในใจว่าถ้าหากเจียงยี่ลงมือจริง ๆ นั้น ก็สมบูรณ์แบบเลย!
ตอนนี้เธอกังวลว่าผู้อาวุโสคนไหนของสำนักเทียนหยุนจะเป็นผู้ลงมือ
หากเป็นอย่างนั้นแล้วไม่ใช่บอกว่าหลินหยุนจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้
เพียงแต่เมื่อหลินหยุนเอาชนะเขาได้ สภาพเหตุการณ์ก็จะเปลี่ยนแปลงไป
เมื่อถึงตอนนั้น หลินหยุนจะก็เป็นที่ดึงดูดเป็นจุดสนใจของทั้งสำนักเทียนหยุน
ซิงเฟยสูดหายใจลึก ท่าทางของเธอเริ่มจริงจังมากขึ้น
มองไปที่ติงหลิงและพูดขึ้นว่า “เสี่ยวหลิง ฉันมีเรื่องขอร้องหนึ่งเรื่อง! เธอจะต้องรับปากกับฉัน! ”
ติงหลิงพลันเหลือบตาขาวใส่ และพูดว่า “หยุดก่อน! ฉันรู้ว่าเธอจะพูดอะไร? แต่ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่ช่วยเหลือเธอ แต่เป็นเพราะฉันไม่สามารถช่วยเหลือเธอได้! ”
“ฉันจะบอกเธอว่า ฉันก็เป็นเพียงแค่ลูกศิษย์ธรรมดาคนหนึ่งในสำนักเทียนหยุน เพียงแต่ถนัดในการเข้าสังคมและเข้ากับคนได้ง่าย ดังนั้นก็ถือว่ามีเพื่อนฝูงมากมาย แต่ก็จำกัดแค่ในโลกแดนฝึกพลังเท่านั้น! ”
“เธอคิดว่าฉันเป็นใครกันล่ะ? ”
“พวกลูกศิษย์ขั้นยาทองเหล่านั้น ฉันไม่สามารถเข้าถึงและไปพบเจอกับพวกเขาได้เลย”
“เธอต้องการที่จะให้ฉันช่วยจับตามองความเคลื่อนไหวของเจียงยี่ใช่ไหม? ”
“เธอประเมินค่าฉันสูงเกินไปแล้ว! ”
“อย่าพูดเลยว่าจะสำเร็จ เจียงเผิงผู้นั้นเธอคิดว่าเขาโง่เขลานักหรือไง เขาก็ยังระมัดระวังตัวฉันอยู่ด้วยเหมือนกัน! ”
“สรุปแล้ว เรื่องนี้ฉันไม่สามารถที่จะช่วยเหลือเธอได้! ”
“ฉันเองก็จะเตือนเธอไว้เป็นครั้งสุดท้าย ไม่ว่าหลินหยุนนั้นจะไปจากที่นี่หรือไม่ และตกลงจะทำอะไร เธอนั้น รีบหนีไปซะ! ”
ซิงเฟยขมวดคิ้ว “ฉันไม่เชื่อว่าเธอจะไม่มีวิธีการอะไรบ้างเลย! ”
“ฉันเองก็ไม่ได้ใช้ให้เธอทำอะไรสักหน่อย เธอก็แค่ช่วยฉันจับตาดูเอาไว้ก็เท่านั้น! ”
“ถ้าหากไม่ได้จริง ๆ ฉันก็จะไปจากที่นี่! ”
ติงหลิงพูดอะไรไม่ออก โดยที่ไม่ได้พูดจาอะไรเพิ่ม
สงบเงียบลงไปชั่วครู่ จึงพูดขึ้นอย่างจำใจว่า “ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่ก็แล้วกัน แต่เธอก็อย่าตั้งความหวังอะไรไว้มาก! ”
ซิงเฟยได้ยินดังนั้นก็ยิ้มหัวเราะขึ้น “ตกลง! นี่ถึงจะเป็นเพื่อนรักของฉัน! เท่านี้แล้วกัน ฉันขอตัวไปก่อน! ”
พูดจบ ก็เดินจากไป
กลับมาถึงโรงเตี๊ยม
หลินหยุนมั่นคงหนักแน่นจริง ๆ โดยที่ยังคงบำเพ็ญฝึกฝนอยู่
แต่ อีกด้านหนึ่งนั้น
เมื่อติงหลิงกลับไปถึงสำนักก็รีบไปที่วิมานของเจียงเผิง แต่เจียงเผิงกลับไม่อยู่
เวลานี้เจียงเผิง และจางเซียวยู่ที่มีอาการบาดเจ็บสาหัส กำลังอยู่ในวิมานของเจียงยี่
เห็นจางเซียวยู่สีหน้าขาวซีดอย่างที่สุด และยังไอจามอย่างไม่หยุดด้วย เจียงยี่เองก็สีหน้าเคร่งเครียด หน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างหนัก
ผ่านไปชั่วครู่ พลันหันหน้ากลับมา มองไปที่จางเซียวยู่และพูดขึ้นว่า “เซียวยู่ แม้แต่นายเองก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของไอ้คนนั้นเหรอ? ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...