จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1238

เพียงแค่นึกถึงภาพเหตุการณ์ที่ตนเองจินตนาการขึ้นมานั้น เจียงยี่ก็ควบคุมความตื่นเต้นในจิตใจเอาไว้ไม่ได้

ทั้งโลกใบนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีชีวิต ล้วนจะต้องหมอบคลานอยู่ภายใต้ฝ่าเท้าของตนเองทั้งหมด

นั่นจะเป็นสภาพการณ์แบบไหนกัน?

เมื่อถึงตอนนั้น ตนเองก็ขึ้นเป็นฮ่องเต้!

ฮ่องเต้!

ฮ่องเต้ที่แท้จริง!

โดยที่มีทรัพยากรทั้งโลกเป็นสิ่งที่คอยค้ำจุน ตนเองก็ยังสามารถกลับมายังโลกคุนชางได้ตลอดเวลา เมื่อถึงตอนนั้นก็จะครอบครองทรัพยากรที่มากมายนับไม่ถ้วน นั่นคงจะไม่มีผู้ใดที่สามารถมาหยุดยั้งตนเองได้อีกแล้ว

สักวันหนึ่ง ต่อให้เป็นโลกคุนชาง ก็จะกลายมาเป็นสิ่งของภายในกำมือของเขาทั้งหมด!

แล้วจะไม่ทำให้เขาฮึกเหิมเร่าร้อนได้อย่างไรกันล่ะ?

คิดถึงตรงนี้ เจียงยี่ก็สูดหายใจยาว นั่งขัดสมาธิลง ทำการบำเพ็ญฝึกฝนต่อไป

เมื่อเขาบรรลุขั้นยาทองระดับสี่แล้ว การที่จะไปสังหารไอ้หนุ่มในเมืองเทียนหยุนนั้น ก็แค่เรื่องจิ๊บจ๊อยเท่านั้น

ที่สำคัญก็คือ คนที่จำเป็นจะต้องสังหารนั้น คืออีกคนหนึ่ง

ก็คือเพื่อนสนิทของเขาคนนั้น ที่ชื่อว่ามู่หง!

เขาเชื่อว่า มู่หงเองก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน

ช่วงเวลานี้เป็นต้นมา เขาเองก็ได้ให้คนคอยจับตามองความเคลื่อนไหวของมู่หงอยู่ตลอดเช่นกัน

ข่าวคราวที่ส่งกลับมาก็คือ เมื่อมู่หงกลับถึงสำนักฉีซานก็รีบเก็บตัวบำเพ็ญฝึกฝนทันที

เพราะว่ามีเพียงแค่บรรลุขั้นยาทองระดับสี่ จึงจะมีโอกาสสังหารฝ่ายตรงข้ามได้ และก็มีโอกาสที่จะครอบครองโลกภายนอกนั้นได้แต่เพียงผู้เดียว

เจียงยี่คิดได้ถูกต้อง เขาต้องการจะฆ่ามู่หง

มู่หงในเวลานี้ ก็กำลังยกระดับพลังบำเพ็ญอย่างบ้าคลั่ง เพื่อหวังที่จะเข้าสู่ขั้นยาทองระดับสี่ให้ได้โดยเร็วยิ่งขึ้น

เมื่อถึงตอนนั้น เรื่องแรกที่เขาจะทำก็คือฆ่าเจียงยี่

อีกทั้ง เขาก็เชื่อว่า เจียงยี่คงจะไม่นำประสบการณ์ที่น่าเหลือเชื่อบอกเล่าให้กับบุคคลที่สามอย่างแน่นอน

เพราะว่าคงไม่มีใครจะสามารถละทิ้งโอกาสที่ดีที่สุดในการขึ้นเป็นราชาแห่งโลกนี้ไปได้

ส่วนหลินหยุนที่อยู่ในวิมานในเวลานี้กลับไม่ได้คิดอะไรไปมากมายขนาดนั้น โดยกำลังบำเพ็ญฝึกฝนอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

บำเพ็ญฝึกฝนไปพลาง และก็รอเจียงยี่ปรากฏตัวขึ้นไปพลาง

แต่รอมาสองวันแล้ว ก็ยังเงียบเชียบ และก็ยังไม่มีใครมาหาเรื่องสร้างปัญหากับเขาเลย

หลินหยุนคิดขึ้นได้ กอปรกับ รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ซิงเฟยได้ไปสืบเสาะมานั้น ก็สามารถที่จะยืนยันได้ถึงการคาดคะเนของเขา

เจียงยี่ก็กำลังอยู่ในการเก็บตัวบำเพ็ญฝึกฝน......

ถ้าเปลี่ยนเป็นตัวเขาเองแล้ว เขาก็จะทำแบบนี้เช่นกัน

เพราะสิ่งดึงดูดล่อใจในภายนอกนั้นมันช่างมากมายยิ่งนัก

คิดถึงตรงนี้ หลินหยุนก็รู้ได้ว่า ในช่วงเวลาอันสั้นนี้ น่าจะไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรแล้ว

ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดของเขาก็คือ ตามหาสมบัติล้ำค่าสูงสุดให้ได้มากขึ้น

แต่ก็เหมือนกับที่ซิงเฟยเคยพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่า สมบัติล้ำค่าสูงสุดในแบบที่เขาต้องการนั้นมีอยู่น้อยมาก

ต่อให้ยังคงมีอยู่ ก็คงจะเป็นสมบัติลับของแต่ละสำนักใหญ่ ใครก็คงจะไม่นำออกมาง่าย ๆ หรอก

ส่วนเขาเองคิดที่อยากจะได้สมบัติล้ำค่าทั้งสองชิ้นที่เย่เยว่หลงเหลือเอาไว้ให้กับตนเอง

เมื่อพลังบำเพ็ญของเขาเพิ่มสูงขึ้นถึงขั้นยาทองระดับสี่แล้ว อันที่จริงหลายสิ่งหลายอย่างก็สามารถกระทำได้โดยง่ายดาย

เพียงแต่ตอนนี้ยังนำมาไม่ได้เท่านั้น

แน่นอนว่าไม่ใช่จะไม่มีวิธีการอะไรอย่างอื่นเลย

ครุ่นคิดชั่วครู่

หลินหยุนหันหน้ามองไปที่ซิงเฟย และกระซิบพูดขึ้นว่า “ฉันอยากจะเปิดร้านค้าแห่งหนึ่ง เธอมาช่วยฉันขายของ ดีไหม? ”

ซิงเฟยนึกว่าตนเองได้ยินผิดไป “อะไรนะ? นายจะเปิดร้านค้าเหรอ? ”

หลินหยุนพยักหน้า “ถูกต้อง! ฉันต้องการหลอมยา จำเป็นจะต้องมีสมบัติล้ำค่าสูงสุด! ”

เรื่องนี้ไม่ใช่ความลับอะไร

โดยจากลักษณะท่าทางของหลินหยุนก่อนหน้านี้ รวมถึงวิธีการปฏิบัติต่อพวกสมบัติล้ำค่านั้น ซิงเฟยเข้าใจอย่างชัดเจนว่า หลินหยุนคาดหวังเป็นอย่างมาก!

นั่นคือการมุ่งเป้าหมายไปยังขั้นยาทองระดับฟ้าเลยทีเดียว

ดังนั้นได้ยินหลินหยุนพูดแบบนี้แล้ว ซิงเฟยก็แค่ตกใจเล็กน้อย ไม่ถึงกับไม่เข้าใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์