ได้ยินที่มู่เฉินพูด สายตาของทุกคนในสถานที่แห่งนี้ ต่างก็จับจ้องมาที่หลินหยุนกันทั้งหมด
อยากจะดูว่า เด็กหนุ่มธรรมดาทั่วไปคนหนึ่ง ตกลงจะทำการตัดสินใจอย่างไรกันแน่
จะเกิดความโมโห หรือว่าจะต่อรองเพิ่มจำนวนมากขึ้น หรือว่าจะตอบรับข้อเสนอทันที!
ทุกคนต่างก็อยากรู้อยากเห็นกันอย่างมาก
ไม่เพียงแต่คนอื่นเท่านั้น เวลานี้แม้แต่ซิงเฟยเอง ต่างก็อยากรู้อยากเห็นอย่างมากเช่นกัน อยากจะดูว่าตกลงแล้วหลินหยุนจะทำการตัดสินใจอย่างไร
แต่ว่า ในใจของเธอนั้นก็เกิดความกังวลเป็นอย่างมาก
เพราะหากหลินหยุนลงมือ แล้วจริง ๆ ถ้าอย่างนั้นคงจะเกิดความอลหม่านวุ่นวาย ถึงขนาดทำให้แผนการที่พวกเธอพยายามทุ่มเทนั้นล้มเหลวลงไปทั้งหมด
ช่างเถอะ ที่จริงก็ไม่ได้พยายามอะไรเท่าไร จึงจะบอกว่าล้มเหลวทั้งหมดก็ไม่ได้
แต่แผนการเดิมที่วางไว้ได้ล้มเหลวลงทั้งหมดนั้นเป็นความจริง
ถ้าหากสถานะถูกเปิดโปงขึ้น ก็ยิ่งไม่คุ้มค่ากับการสูญเสีย
ดังนั้น จิตใจของซิงเฟยในตอนนี้จึงขัดแย้งสับสนไปหมด
แต่เธอยังคงหวังว่า หลินหยุนจะสามารถแสดงพลังอานุภาพ เพื่อขับไล่ไอ้คนหน้าด้านอย่างมู่เฉินนี้ไป
เวลานี้ สายตาของหลินหยุน ก็จับจ้องมาที่มู่เฉินแล้ว
ได้ยินเขาพูดขึ้นว่า “นายมีเงินมากใช่ไหม? ”
เมื่อได้ยินหลินหยุนพูดแบบนี้ ทุกคนต่างก็ผิดหวังกันอย่างที่สุด
ได้ยินแบบนี้ก็เข้าใจถึงความหมายแล้ว ในเมื่อถามขึ้นแบบนี้ ก็แสดงว่าเด็กหนุ่มนั่นไม่คิดจะโกรธแค้นและลงมือแล้ว
หากไม่ลงมือก็ไม่ได้เห็นเหตุการณ์ที่สนุกตื่นเต้น แล้วจะมีความหมายอะไรล่ะ?
มู่เฉินก็ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ สายตาแสดงท่าทางเยาะเย้ยออกมาแวบหนึ่ง และพูดอย่างมั่นอกมั่นใจว่า “เงินสำหรับฉันแล้ว ยังไม่ถือว่าสำคัญอะไรเท่าไร! ในเมื่อนายตอบตกลงแล้ว งั้นก็คุยกันง่ายหน่อย! ”
ขณะที่พูด
เขาก็หันหน้าไปมองที่ชายชราที่อยู่ด้านหลังคนนั้น และพูดขึ้นว่า “ลุงหยู นำน้ำชี่ทิพย์หนึ่งหมื่นหยดออกมา มอบให้กับเพื่อนผู้นี้! ”
ชายชราได้ยินดังนั้น ก็พยักหน้าเล็กน้อย แล้วก็พลิกฝ่ามือ หยิบขวดหยกออกมาหนึ่งใบ แล้วเดินตรงเข้าไปหาหลินหยุน
หลินหยุนกวาดสายตามองไปที่ฝ่ายตรงข้าม สายตาจับจ้องมาที่ตัวของมู่เฉินอีกครั้ง และพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “ในเมื่อนายมีเงินมากขนาดนี้ น้ำชี่ทิพย์หนึ่งหมื่นหยดคงไม่เพียงพอ แบบนี้แล้วกัน น้ำชี่ทิพย์หนึ่งล้านหยด หากนายนำออกมาได้ ข้อเสนอของนายเมื่อครู่นี้ ฉันก็จะตกลงทันที! ”
ได้ยินที่หลินหยุนพูด ทุกคนต่างก็พากันสูดหายใจลึกกันอีกครั้ง
สีหน้าของมู่เฉินเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน เกิดความหม่นหมองลงทันที
เขาคิดว่า คนเบื้องหน้านี้ได้ตอบตกลงแล้ว
คิดไม่ถึงว่า เขาจะมาต่อรองขอเพิ่มค่าตอบแทนขึ้น และยังจะขอเพิ่มในจำนวนที่มหาศาลด้วย
มู่เฉินหัวเราะอย่างเย็นชา และพูดเสียงแข็งขึ้นว่า “น้ำชี่ทิพย์หนึ่งล้านหยด นายช่างกล้าที่จะพูดต่อราคาจริง ๆ! ”
น้ำชี่ทิพย์จำนวนมหาศาลขนาดนี้ ไม่ต้องพูดถึงว่าทั้งตระกูล ต่อให้เป็นเก้าสำนักใหญ่ ก็ไม่ง่ายที่จะนำออกมาได้อย่างแน่นอน
คิดไม่ถึงว่าคนผู้นี้จะกล้าเอ่ยปากต้องการจำนวนมากขนาดนี้ ชัดเจนว่าเป็นการจงใจอย่างแน่นอน
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เขาเองก็ไม่ต้องไปสนใจอะไรทั้งนั้นแล้ว
นี่คือบริเวณพื้นที่ของสำนักฉีซาน และด้วยความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลมู่กับสำนักฉีซาน ตลอดจนยังมีพี่ชายของเขาอยู่อีกด้วย เขาจึงไม่มีอะไรที่ต้องกังวล
หลินหยุนพูดขึ้นว่า “หากนำออกมาได้ ก็ทำการแลกเปลี่ยนกัน หากนำออกมาไม่ได้ ก็ไสหัวไป! ”
มู่เฉินหัวเราะเสียงแข็ง “ดูไม่ออกจริง ๆ ว่า นายจะมีความกล้าหาญแบบนี้ กล้าดีอย่างไรถึงได้พูดจาหยาบคายต่อหน้าฉันอย่างนี้”
“ฉันแทบจะลืมไปแล้วว่า ครั้งก่อนนั้นโดยที่ไม่รู้ว่าเมื่อไรที่มีคนได้พูดกับฉันแบบนี้! ”
“เยี่ยมเลยเยี่ยมเลย แบบนี้ถึงจะสนุก! ”
“ลุงหยู ช่วยลงมือสั่งสอนไอ้เด็กหนุ่มนี้หน่อยสิ ทำให้เขารู้ว่าวิธีการพูดจาดี ๆ นั้นเป็นอย่างไร! ”
ชายชราผู้นั้นพยักหน้าเล็กน้อย และพูดว่า “รับทราบ คุณชาย! “
เมื่อชายชราพูดจบลง ก็หันหน้ามองไปที่หลินหยุนโดยพลัน ลมหายใจอันน่ากลัวในร่างกายได้ปะทุขึ้น แล้วก็ปล่อยหมัดชกออกไปทันที
ชายชราผู้นี้ เป็นถึงยอดฝีมือขั้นยาทองระดับสาม
ได้รับรู้สัมผัสได้ถึงลมหายใจอันน่ากลัวในร่างของชายชราผู้นี้ ทุกคนต่างก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...