จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1280

สรุปบท บทที่ 1280 ฝีมือห่างไกลกันมาก: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

อ่านสรุป บทที่ 1280 ฝีมือห่างไกลกันมาก จาก จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่

บทที่ บทที่ 1280 ฝีมือห่างไกลกันมาก คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย จูผาซู่ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ได้ยินหวงฉาวพูดแบบนี้

ทุกคนต่างก็พากันเบิกตาโพลงอย่างไม่น่าเชื่อ

สีหน้าท่าทางเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

เพราะพวกเขามองว่า

หวงฉาวกับบุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจท่านนั้น ไม่ได้มีความแตกต่างห่างไกลอะไรมากนัก

อย่างน้อย

ความแตกต่างเมื่อเปรียบเทียบระหว่างพวกเขากับหวงฉาวแล้ว

คงจะน้อยกว่ากันมาก

แต่หวงฉาวกลับไม่ได้พูดอย่างนั้น

ซึ่งทำให้พวกเขายากที่จะยอมรับได้

เพราะว่าแม้แต่หวงฉาวก็พูดแบบนี้

อย่างนั้นถ้าหากนำพวกเขาไปเปรียบเทียบกับบุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจท่านนั้นแล้ว

ก็คงจะแตกต่างห่างไกลอย่างมหาศาลเลยทีเดียวล่ะสิ?

เป็นไปได้อย่างไร?

หวงฉาวถอนหายใจเบา ๆ อีกครั้ง

แล้วก็มองไปยังทิศทางที่หลินหยุนหายตัวไป

ผ่านไปชั่วครู่

จึงพูดขึ้นว่า “พวกนายสามารถที่จะรับรู้สัมผัสถึง แดนพลังบำเพ็ญของบุตรอริยสัจท่านนี้ได้ไหม? ”

ทุกคนพลันตกใจขึ้น

จากนั้น

ก็ตั้งสติกลับคืนมาได้

นิ่งเป่ยเฉินรีบถามขึ้นว่า “ศิษย์พี่หวง จากพลังอานุภาพของอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ที่บุตรอริยสัจได้แสดงออกมานั้น เหมือนว่าจะไม่ใช่ขั้นยาทองระดับหก หรือว่าจะเป็นขั้นแดนเดียวกันกับศิษย์พี่หวงอย่างนั้นเหรอ? ”

“ใช่เลย! ”

“ถูกต้องเลย! ”

ส่วนคนอื่น ๆ ต่างก็ทยอยพากันอุทานตามขึ้นมา

เพราะว่าด้วยพลังบำเพ็ญของพวกเขาแล้ว

ไม่สามารถที่จะรับรู้สัมผัสได้ถึงพลังบำเพ็ญที่แท้จริงของหลินหยุนได้

ดังนั้น

ทำได้เพียงวินิจฉัยอย่างคร่าว ๆ จากพลังอานุภาพของอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์

ที่จริงแล้ว

หวงฉาวเองก็เช่นเดียวกัน

เขาไม่สามารถที่จะมองออกถึงพลังบำเพ็ญที่แท้จริงของหลินหยุน

แต่หลินหยุนดูเหมือนว่าจะไม่ได้เหน็ดเหนื่อยอะไรเลย

ทั้ง ๆ ที่แสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ระดับนั้นออกมา

เหมือนว่าจะไม่ได้สูญสิ้นพลังงานไปมากเท่าไร

นั่นหมายความว่าอย่างไร?

หมายความว่าภายใต้สถานการณ์ต่อสู้ที่ไม่ถึงขั้นเอาเป็นเอาตายนั้น

เขาใช้พลังอย่างเต็มที่

แต่ไม่สามารถทำลายพลังการป้องกันของฝ่ายตรงข้ามลงไปได้

และก็ไม่สามารถที่จะต้านทานพลังการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามได้

สำหรับท่านบุตรอริยสัจนั้น

ไม่ได้ออกแรงใช้พลังอะไรมาก

ง่ายดายอย่างที่สุด

ราวกับว่าเป็นการโจมตีทั่วไป

แต่เขาไม่สามารถที่จะต้านทานได้

นั่นแสดงว่า

ฝ่ายตรงข้ามน่าจะมีพลังบำเพ็ญขั้นยาทองระดับเจ็ด

อีกทั้ง

ระดับขั้นยาทองนั้น

คงจะไม่ต่ำกว่าเขาอย่างเด็ดขาด

ส่ายศีรษะเล็กน้อย

หวงฉาวพูดขึ้นว่า “บุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจท่านนี้ น่าจะมีพลังบำเพ็ญถึงขั้นยาทองระดับเจ็ดแล้ว! และถึงขนาดเป็นไปได้ว่า เป็นการหลอมยาทองระดับฟ้า”

“ซี๊ดดดด----”

ทุกคนสูดหายใจลึก

ขั้นยาทองระดับเจ็ด

แม้จะมองว่าเหนือกว่าหวงฉาวเพียงแค่ขั้นแดนเดียว

แต่กลับน่าสะพรึงกลัวมากยิ่งนัก

เพราะว่าบุตรอริยสัจท่านนี้ มีอายุน้อยกว่าหวงฉาวอีก

หวงฉาวถอนหายใจอีกครั้ง และยกมือแสดงความเคารพ พร้อมกับพูดขึ้นว่า “พวกศิษย์น้องทั้งหลาย เมืองมี่หยุนนั้น ศิษย์พี่ไม่ต้องการไปแล้ว หากพวกนายยังคงอยากที่จะไป ก็ไปกันเถอะ”

“ศิษย์พี่จะเดินทางกลับไปยังสำนักเทียนหยุนแล้ว! ”

“ขอตัวก่อน! ”

เมื่อพูดจบลง

ร่างกายก็กะพริบหายไป ย่ำขึ้นไปในอากาศแล้วก็จากไป

หลงเหลือเพียงแค่นิ่งเป่ยเฉินกับเด็กหนุ่มหัวล้านและอีกไม่กี่คน

ทุกคนต่างจ้องหน้าสบตาซึ่งกันและกัน

เด็กหนุ่มหัวล้านพูดขึ้นว่า “ทุกท่าน แล้วพวกเรายังจะไปกันอีกไหม? ”

นิ่งเป่ยเฉินเองก็เหมือนจะถูกทำร้ายจิตใจบ้างเล็กน้อย

ครุ่นคิดชั่วครู่ และพูดขึ้นว่า “ไม่ไปแล้ว! แม้แต่ศิษย์พี่หวงฉาวก็ยังไม่ไปแล้ว ศิษย์พี่หวงคงจะกลับไปสำนักเพื่อเก็บตัวบำเพ็ญฝึกฝนแล้ว ฉันว่า งานประลองยุทธเก้าสำนักในครั้งนี้ บางทีศิษย์พี่หวงอาจจะไม่เข้าร่วมก็เป็นได้! ”

เด็กหนุ่มหัวล้านพูดขึ้นว่า “คงไม่ขนาดนั้นหรอกมั้ง? ในเมื่อบุตรอริยสัจถือกำเนิดขึ้นแล้ว เชื่อว่าพระบุตร บุตรธยานะ หรือบุตรกระบี่ของสำนักศิษย์น้องโม่หยู่ ก็คงใกล้จะถือกำเนิดขึ้นเช่นกัน ศิษย์พี่หวงฉาวคงน่าจะเข้าร่วม! ”

นิ่งเป่ยเฉินส่ายศีรษะ

โดยที่ไม่ได้พูดอะไรอีก

แล้วก็ยกมือแสดงความเคารพไปยังคนอื่น ๆ

จากนั้นก็ย่ำขึ้นไปในอากาศแล้วก็จากไป

เหลืออีกไม่กี่คนต่างก็ได้ทยอยแยกย้ายกันไปเช่นกัน

ไม่นาน

ข่าวการปรากฏตัวขึ้นของบุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจ และการต่อสู้กับหวงฉาว

ก็ได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งโลกคุนชางอย่างรวดเร็ว

นี่คือข่าวดังที่ผู้คนให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก

ผู้อาวุโสได้ยินดังนั้น

ก็พยักหน้าเล็กน้อย และพูดว่า “เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง บุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจของเรา ยังไม่ได้ถือกำเนิดขึ้น”

“อะไรนะ? ”

“เป็นไปได้อย่างไร? ”

“พูดแบบนี้หมายความว่า มีคนกล้าที่จะปลอมตัวเป็นบุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจของเรา? เพื่อออกไปหลอกลวงคนอื่นอย่างนั้นเหรอ? ”

“ช่างน่าเกลียดเสียจริง! ”

“ไม่ว่าคนผู้นี้จะเป็นใคร ในเมื่อกล้าที่จะปลอมตัวเป็นบุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจของเรา ทางสำนักอริยสัจของเรานั้น ไม่มีทางที่จะปล่อยเอาไว้อย่างเด็ดขาด! ”

“ไม่อย่างนั้นแล้ว ต่อไปในอนาคต สำนักของเราจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกัน? ”

ผู้อาวุโสผมขาวได้ยินดังนั้น ก็พูดขึ้นว่า “อย่าได้ใจร้อนวู่วามไป เรื่องนี้ ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัด สำนักอริยสัจของเรานั้น แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยไปเข้าร่วมแย่งชิงความเป็นใหญ่ในโลกคุนชางเลย และยิ่งไม่เคยไปปฏิบัติลงมือกับใครอย่างไร้เหตุผลด้วย”

“ข่าวนี้จะเป็นความจริงหรือไม่ และได้มีการแพร่กระจายออกไปอย่างไรนั้น”

“อย่าได้ด่วนสรุปไปเสียก่อน”

ครุ่นคิดชั่วครู่

ผู้อาวุโสก็พูดต่อว่า ”อย่างนี้แล้วกัน ในเมื่อฝ่ายตรงข้ามได้ปรากฏตัวขึ้นโดยใช้ชื่อบุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจ ท่องตระเวนไปทั่วโลกคุนชาง อีกทั้งยังสามารถเอาชนะหวงฉาวได้ด้วย คงจะไม่ใช่ยอดฝีมือที่เก่งกาจธรรมดาคนหนึ่งเป็นแน่”

“ศิษย์น้องหญิงสาม”

“ให้ปิงซิงออกไปดูหน่อย เพื่อไปสำรวจ ความเป็นจริงของเรื่องราวทั้งหมดนี้! ”

หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งได้ยินดังนั้น ก็พยักหน้าตอบรับในทันที

“รับทราบ! ”

เมื่อพูดจบ

หญิงวัยกลางคนก็หันหลังแล้วเดินจากไป

ไม่นาน

ก็มีเส้นลำแสงได้บินเหาะออกจากยอดเขาไป

มุ่งหน้าไปยังทิศใต้

ส่วนทางหวงฉาวที่กลับมาถึงสำนักแล้ว

เวลานี้ก็ได้ถูกรองเจ้าสำนักและคนอื่น ๆ เรียกตัวไปพบที่ห้องประชุม

รองเจ้าสำนักมองไปที่หวงฉาว และรีบถามขึ้นว่า “นายได้พบเจอกับบุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจ และยังได้มีการประลองฝีมือกับเขาด้วยอย่างนั้นเหรอ? ”

หวงฉาวพยักหน้าเล็กน้อย “ใช่! ประลองฝีมือกันด้วยจริง ๆ”

รองเจ้าสำนักสูดหายใจลึก “นาย......เป็นฝ่ายพ่ายแพ้แล้ว! ”

หวงฉาวพยักหน้าอีกครั้ง “พ่ายแพ้แล้ว! ”

ผู้อาวุโสใหญ่เองก็รีบถามขึ้นว่า “บุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจนั้น แข็งแกร่งทรงพลังเหนือกว่านายอีกเหรอ? ”

หวงฉาว ในสายตาของคนอื่นแล้ว

คือยอดฝีมืออันดับหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นรุ่นหลังของโลกคุนชางนี้

โดยที่ไม่มีข้อสงสัย

ในสายตาของคนในสำนักเทียนหยุนเอง ก็เป็นแบบนี้ด้วยเช่นกัน

หวงฉาวพูดขึ้นว่า “แข็งแกร่งเหนือกว่าฉัน และ......ยังเหนือกว่ามากด้วย ฉันเชื่อว่า ต่อให้ใช้พลังเข้าสู้อย่างเต็มที่ ผู้ที่ต้องสูญเสียชีวิตนั้น ก็คงจะต้องเป็นฉัน! นอกจากว่า ฉันจะใช้วิชารักษาชีวิตที่ท่านอาจารย์ได้เคยสอนเอาไว้”

“ส่วนฝ่ายตรงข้ามไม่มีวิชาอะไรประเภทนี้”

“บางที ฉันยังคงพอมีโอกาสอยู่บ้าง! ”

“พลังบำเพ็ญของเขา อย่างน้อยน่าจะอยู่ในขั้นยาทองระดับเจ็ด”

“และยังเป็นระดับขั้นยาทองที่สูงมากด้วย”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์