ถึงทุกคนจะตกใจกับพละกำลังอันแข็งแกร่ง ที่หลินหยุนแสดงออกมา
อันที่จริงก็ยังตั้งสติไม่ได้ ยากที่จะเชื่อ
อิ่นเผิงเป็นยาทองระดับสอง เกือบถึงยาทองระดับสามอย่างไม่มีข้อจำกัด ทำไมเมื่อเผชิญหน้ากับสวะแบบนี้ ถึงเป็นฝ่ายเสียเปรียบล่ะ
ถึงจะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบจริงๆ คนที่ชื่อหลินหยุน วันนี้คงถึงจุดจบแล้ว
อิ่นเผิงมีเบื้องหลังยิ่งใหญ่ อีกทั้งยังเป็นเพื่อนคุณชายเทียนซิน
คุณชายเทียนซินจะนั่งดูดาย ไม่ทำอะไรได้อย่างไร
เป็นไปตามคาด มองหลินหยุนด้วยสายตาชั่วร้าย
ถึงขนาดที่ไม่สนใจศิษย์น้องสำนักตัวเองอย่างชื่อถง อิ่นเผิงพูดว่า “ไอ้เด็กน้อย นายรอฉันก่อนเถอะ!”
พูดจบ เขาก็เดินหันหลังออกจากห้องโถง ไปด้านหลัง
ส่วนหลินหยุนไม่ได้ลงมืออย่างหนัก ชื่อถงแค่บาดเจ็บเท่านั้น
เมื่อเห็นอิ่นเผิงออกไป เขาก็รีบตามไปด้วย
ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้หลินหยุนกับซิงเฟย พากันชี้นิ้วใส่ทั้งสองคน
ไม่นานก็มีคนจำนวนมากพากันมาอีก ล้วนเป็นคนที่มีฐานะสูง
คนที่มาแต่ละคน ล้วนสร้างความโกลาหลได้ไม่น้อย
หลินหยุนกับซิงเฟย กลับไปหาที่นั่ง
ไม่มี “แมลงวัน” มาบินรบกวนด้านหน้า ก็มีความสุขมาก
ผ่านไปไม่นาน คนที่ถูกเชิญมากันเกือบหมดแล้ว
คนของเก้าสำนักใหญ่ เป็นคนของสามสำนักใหญ่ที่มา
แน่นอนว่าไม่ใช่อัจฉริยะที่เก่งกาจของสำนัก เรียกได้ว่าแค่มีชื่อเสียงอยู่บ้างเท่านั้น
และมีสองคนจากสิบแปดสำนักเต๋า
เมื่อคนพวกนี้มาถึง ทุกคนถึงกับลืมเรื่องขัดแย้งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ไปชั่วคราว
ต่างพากันมาล้อมพวกอัจฉริยะ และพูดเยินยอ
อัจฉริยะพวกนี้ต่างมีสีหน้าหยิ่งยโส
สำหรับการเยินยอของทุกคน ได้ผลเป็นอย่างมาก ถือว่าต่างเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการ
พวกคนตระกูลใหญ่แต่ละตระกูลในเมืองกวางยักษ์ อยากใช้โอกาสนี้ ทำความรู้จักกับศิษย์อัจฉริยะของเหล่าสำนักใหญ่
ส่วนอัจฉริยะพวกนี้ ก็อยากรู้จักสภาพโดยรวมของทะเลกวางยักษ์มากยิ่งขึ้นเหมือนกัน
ได้รู้จักกับพวกตระกูลท้องถิ่นที่ทะเลกวางยักษ์ สำหรับพวกเขาแล้ว ก็มีข้อดีไม่น้อย นับได้ว่าเข้ากันได้เป็นอย่างดี
หลินหยุนกับซิงเฟย ก็กำลังมองคนพวกนั้นเหมือนกัน
ซิงเฟยพูดว่า “คนพวกนี้ ไม่ใช่อัจฉริยะที่แท้จริง ล้วนเป็นพวกที่ไม่มีคุณสมบัติเข้าร่วมงานประลองยุทธเก้าสำนัก!”
“ถึงเป็นศิษย์คนสำคัญของแต่ของสำนักตัวเอง”
“แต่ไม่ถูกให้ความสำคัญเท่าไร!”
“เป็นเพียงบทบาทเล็กๆ เท่านั้น!”
“การมาครั้งนี้”
“น่าจะมีเป้าหมายสองอย่าง!”
“อย่างแรกคือ มาชมงาน!”
“อย่างที่สองคือ ดูว่าจะเจอโชคดี ได้อะไรดีๆ ที่ทะเลกวางยักษ์หรือเปล่า!”
“สำนักแต่ละสำนัก พวกเขาไม่ได้มีอะไรเลย!”
“แต่ตอนนี้พวกเขาออกมา!”
“นั่นจึงมีความแตกต่าง!”
“คนจำนวนมากไม่ได้เกรงกลัวผลการฝึกตนของพวกเขา แต่เกรงกลัวเบื้องหลังของพวกเขา!”
“ดังนั้น ถ้ามีโอกาสจริง จะโดนพวกเขาหาผลประโยชน์ให้ตัวเอง”
หลินหยุนพยักหน้า ไม่ต้องให้ซิงเฟยอธิบาย เขาก็พอจินตนาการได้
แต่เขาแค่แปลกใจ จนถึงตอนนี้คุณชายเทียนซิน ยังไม่โผล่หน้าออกมาเลย
ดูเหมือนว่างานเลี้ยงแบบนี้
คุณชายเทียนซินคงไม่ได้จัดขึ้นเป็นครั้งแรก จึงทำให้มีอิทธิพลเช่นนี้
แต่ความหมายที่จัดงานนี้ขึ้นมาอยู่ตรงไหนกัน
ถึงจะจัดขึ้นเพื่อทำความรู้จักกับศิษย์อัจฉริยะของสำนักใหญ่จริง
แต่ส่งผลแค่กับตัวคุณชายเทียนซินเท่านั้น
สำหรับทั้งสำนักกวางยักษ์ ผลที่ใช้งานได้มีขีดจำกัดมาก
เพราะที่พึ่งพิงอาศัยใหญ่ที่สุดของคุณชายเทียนซิน รวมไปถึงทั้งสำนักกวางยักษ์ ก็คือเมืองโบราณแห่งนี้
ถ้าออกไปข้างนอก ไม่ว่าจะเป็นสำนักกวางยักษ์หรือตัวเขาเอง โดยพื้นฐานแล้ว แทบจะไม่มีอิทธิพลอะไรเลย
ทำไมยังต้องทำเรื่องแบบนี้ล่ะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...