แน่นอนว่าคนที่ลงมือคือหลินหยุน
ขณะที่ฝ่ามือของผู้อาวุโสกำลังจะเข้ามาจับซิงเฟย
หลินหยุนเคลื่อนไหว เหวี่ยงหมัดไปกระแทกผู้อาวุโส
“พลั่กก”
ผู้อาวุโสคิดไม่ถึงว่าหลินหยุนกล้าลงมือกับเขา
หัวเราะเย็นชา และกระแทกกับหมัดของหลินหยุน จนเกิดเสียงระเบิดดังสนั่น
พลานุภาพมหาศาลถาโถมเข้ามา พวกที่มีผลการฝึกตนน้อย ถึงกับยืนไม่อยู่
โดนพลังที่มองไม่เห็น ดันจนกระเด็นออกไป ยิ่งไปกว่านั้นยังมีคนที่ล้มลงกับพื้นด้วย
ผู้อาวุโสเซถอยหลังไปหลายก้าว ถึงจะทรงตัวได้อีกครั้ง
ส่วนหลินหยุน ยังยืนอยู่ที่เดิม อย่างไม่สะทกสะท้าน
ตอนนี้ ไม่เพียงแค่ผู้อาวุโส ฉวี่เทียนซิน อิ่นเผิงและคนอื่น ที่อยู่ด้านหลัง อีกทั้งคนที่อยู่ในงานนี้ ต่างพากันเบิกตาโตอย่างไม่อยากเชื่อ ไม่อยากเชื่อความจริงตรงหน้า
ผู้อาวุโสที่ติดตามฉวี่เทียนซิน ถึงบอกว่าคนอื่นไม่รู้จักก็ช่าง
คนจำนวนไม่น้อยที่รู้จักตัวตนของคนคนนี้ นี่เป็นผู้คุ้มกันของฉวี่เทียนซินตั้งแต่เล็กจนโต
และเป็นผู้อาวุโสรองของสำนักกวางยักษ์ ผลการฝึกตนยาทองระดับหก
การโจมตีเมื่อครู่ ถึงไม่ได้ใช้แรงทั้งหมด แต่นั่นเป็นพลานุภาพยาทองระดับสามแล้ว
แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าหลินหยุน กลับโดนโจมตีอย่างง่ายดายขนาดนี้
ใครจะกล้าเชื่อกันล่ะ
ตอนนี้ ไม่มีใครกล้าดูถูกหลินหยุนกับซิงเฟยอีกแล้ว
สูดหายใจลึก ผู้อาวุโสเหมือนรู้สึกว่าโดนล่วงเกิน
แววตาฉายแววโหดเหี้ยม เค้นเสียงพูดออกมาว่า “ไอ้หนุ่ม คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าผลการฝึกตนของนาย จะถึงขั้นนี้แล้ว แต่ที่นี่คือเมืองกวางยักษ์ คือสำนักกวางยักษ์ ไม่ว่านายจะมีเบื้องหลังอะไร ล้วนเปล่าประโยชน์!”
“ถ้าเป็นมังกร นายต้องรู้จักขดตัว!”
“ถ้าเป็นเสือ นายต้องรู้จักหมอบ!”
“ล่วงเกินคุณชายตระกูลฉัน มีเพียงแค่ความตายเท่านั้น!”
พูดพลาง ลมปราณบนตัวผู้อาวุโสพลุ่งพล่าน แข็งแกร่งกว่าเมื่อครู่เป็นเท่าตัว!
แววตาของผู้อาวุโสจ้องเขม็งมาที่หลินหยุน
หัวเราะแล้วพูดอย่างโมโหว่า “วันนี้ฉันจะเล่นกับเด็กน้อยอย่างนายให้เต็มที่! นานแล้วที่ฉันไม่ได้ต่อสู้อย่างเต็มกำลัง! ให้ฉันได้เห็นหน่อยสิ ว่าเด็กอย่างนายมีความสามารถอะไรบ้าง ถึงกล้ามาเหิมเกริมในสำนักกวางยักษ์ ในจวนของคุณชายตระกูลฉัน!”
ในมือผู้อาวุโสมีแสงสว่างวาบขึ้นมา
กระบี่กระดูกเล่มหนึ่ง ปรากฏขึ้นในมือเขา บนกระบี่ มีความเย็นยะเยือกแผ่ซ่านออกมาอย่างมากมาย
ความอาฆาตน่ากลัวเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีเสียงโหยหวนดังขึ้นเต็มไปหมด
แสงกระบี่กระดูกสว่างวาบขึ้นมา
ทันใดนั้น เหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละโลก เลือดปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า เลือดไหลนองเป็นน้ำ
เหมือนบนโลก หลงเหลือเพียงแค่ความอาฆาตนับไม่ถ้วน
กระดูกมากมายกองอยู่ในทะเลเลือด เหมือนเป็นกองศพมากมายจริงๆ ทุกคนตกใจจนสติกระเจิดกระเจิงทันที
แววตาของหลินหยุนวูบไหว แอบตกใจอยู่เหมือนกัน
กระบี่กระดูกเล่มนี้ ไม่ใช่ของทั่วไปจริงๆ
ภาพเหล่านั้น ก็ไม่น่าจะใช่ภาพลวงตาธรรมดาๆ
เหมือนจริงเกินไปแล้ว
เหมือนทุกสิ่งมันดูเป็นธรรมชาติ เหมือนจริงจนถึงขั้นสุดยอด
ทว่าทันใดนั้น หลินหยุนพิจารณาว่าที่มาของกระบี่กระดูกเล่มนี้ ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน
แต่ภาพเหล่านั้น สำหรับเขาแล้ว ยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสภาพจิตใจเขาได้
หรือบางที กระบี่เล่มนี้อาจเคยผ่านภาพแบบนั้นมาจริงๆ
แต่หลินหยุน เคยเห็นกองศพมากมายด้วยตาตัวเองมาแล้ว
ฉากแต่ละฉากนี้ ไม่สามารถส่งผลกระทบกับเขาได้
เขาเคยเจอเคยเห็นมาก่อน ส่งเสียงหึอย่างเย็นชาออกมา ภาพทั้งหมดสลายหายไปทันที
กระบี่เฮ่าเทียนปรากฏขึ้นในมือหลินหยุน ใช้กระบี่ผกผันส่งออกไป
พุ่งไปที่ผู้อาวุโส กระบี่ผกผันสะท้านฟ้าสะเทือนดิน
ทันใดนั้น ทั้งห้องโถงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...