หลินหยุนส่ายหน้าเล็กน้อย แล้วก็ถอนหายใจยาว
ไม่ว่าโลกไหน ไม่ว่าคนธรรมดาทั่วไป หรือว่าผู้บำเพ็ญเซียน ก็มักจะมีผู้ที่เอาความเห็นของตนเป็นใหญ่คิดว่าตนเองถูกต้องดำรงอยู่
ต้องจำใจโดยไม่มีทางหลีกเลี่ยง
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ อย่างนั้นก็ต้องทำลายจินตนาการความคิดของพวกเขาทิ้งซะ
“กร๊อบแกร๊บ----”
หลินหยุนไม่ได้พูดจาพร่ำเพรื่ออะไรอีก
มือของเขาออกแรงเล็กน้อย โดยพลังที่มองไม่เห็นได้บีบคอหอยของเสิ่นปิงชิงจนแหลกละเอียด ถึงขนาดที่ยาทองก็ยังระเบิดแหลกสลายไปด้วย
ลูกศิษย์อัจฉริยะของสำนักอริยสัจที่ยิ่งใหญ่ นางฟ้าปิงชิง ก็ได้สูญสิ้นชีวิตลงไปด้วยสภาพนี้แล้ว
ภาพเหตุการณ์นี้ ปรากฏขึ้นในสายตาของทุกคน ทำให้เกิดเสียงอุทานอย่างน่าเหลือเชื่อดังขึ้นไปทั่วทั้งท้องฟ้า
ใครก็ไม่อยากจะเชื่อว่า ในเวลานี้ สถานการณ์แบบนี้ หลินชางฉองยังจะกล้าลงมือสังหารเสิ่นปิงชิงอีก
ความกล้าหาญนี้ มันช่างกล้าบ้าบิ่นยิ่งนัก!
“เขา......เขาสังหารนางฟ้าปิงชิงแล้วจริง ๆ! ”
“ทำไมเขาถึงได้กล้าขนาดนี้.......”
“นั่นเป็นถึงหนึ่งในอัจฉริยะสูงสุดของสำนักอริยสัจเลยทีเดียว! ”
“ล่วงเกินสำนักอริยสัจ สร้างความแค้นบาดหมางเอาไว้ขนาดนี้ จะเกิดผลดีอะไรกับเขาอย่างนั้นเหรอ? ”
“ไอ้หนุ่มคนนี้เป็นบ้าไปแล้วจริง ๆ สมควรตายยิ่งนัก! ”
“แม้แต่นางฟ้าปิงชิงที่มีรูปร่างหน้าตางดงามขนาดนี้ คิดไม่ถึงว่าจะสังหารก็ลงมือสังหารเลย......”
ในเวลานี้ ผู้อาวุโสสามแห่งสำนักกวางยักษ์เห็นว่าเสิ่นปิงชิงได้เสียชีวิตลงแล้ว ก็พลันโมโหขึ้นอย่างมาก ชักกระบี่ยาวออกมาจากฝัก แล้วพุ่งฟาดฟันไปที่หลินหยุนด้วยความโกรธแค้นในทันที
“หลินชางฉอง คิดไม่ถึงว่านายจะกล้าสังหารนางฟ้าปิงชิงจริง ๆ! ”
“อย่างนั้นนายก็ไปตายซะเถอะ! ”
ตอนนี้หลินหยุนได้รับบาดเจ็บสาหัส มีสภาพที่อ่อนแออย่างมาก
ไม่ว่าอย่างไรผู้อาวุโสสาม ก็มีพลังบำเพ็ญขั้นยาทองระดับหก
ถ้าหากหลินหยุนไม่ได้รับบาดเจ็บ เขาเองก็ไม่กล้าที่จะลงมือ
แต่ในตอนนี้ เขาเชื่อว่า กระบี่ของตนเองนั้นจะสามารถสังหารหลินหยุนลงได้
แต่เขาเองก็ระมัดระวังอย่างมาก โดยที่ไม่ได้ใช้พลังบำเพ็ญทั้งหมด ใช้เพียงแค่แปดสิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น
เขายังระแวงอยู่ว่า จะยังมียอดฝีมือที่แอบปกป้องคุ้มกันหลินหยุนอยู่อย่างลับ ๆ หรือไม่
เพราะว่าประวัติความเป็นมาของหลินหยุนนั้น พวกเขาไม่ค่อยจะชัดเจน
แต่ว่าขณะที่กำลังมองกระบี่ของตนเองฟาดฟันออกไปนั้น หลินหยุนก็ยังคงไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร โดยรอบตัวเขาก็ไม่มียอดฝีมือปรากฏตัวขึ้น จึงทำให้ผู้อาวุโสสามเบาใจลงได้บ้าง
หลินหยุนสูดลมหายใจลึก ต้องการที่จะขับเคลื่อนพลังทิพย์ แต่เวลานี้เส้นเลือดลมในร่างกายได้กระจัดกระจายไปหมด มีบางจุดที่ได้แตกกระเจิงไปแล้ว ซึ่งทำให้ไม่สามารถขับเคลื่อนพลังทิพย์ได้
แม้ว่าเขาจะสามารถขับเคลื่อนได้ แต่พลังทิพย์ในร่างกายก็ได้สูญสิ้นไปแล้วเกินกว่าครึ่ง
ก่อนหน้านี้เขาได้แสดงอิทธิฤทธิ์ขึ้นนภา โดยเขาได้เผาผลาญเลือดสารจิง เพื่อฝืนที่จะใช้พลังขั้นที่สี่ ทำให้เกิดผลกระทบตามมาอย่างหนัก
ตอนนี้ เขาไม่หลงเหลือแรงพลังอีกแล้ว
แต่ต่อให้เป็นแบบนี้ ก็ไม่ใช่ว่าผู้บำเพ็ญเซียนขั้นยาทองระดับหกจะสามารถสังหารเขาลงได้
แผ่นทองเกล็ดมังกรปรากฏขึ้นมาในมือ อย่างรวดเร็ว
โดยที่ไม่มีคลื่นพลังทิพย์ใด ๆ พร้อมกับกลายร่างเป็นลำแสงสีทอง พุ่งตรงเข้าใส่ผู้อาวุโสสาม และฟาดฟันร่างของเขาจนขาดออกเป็นสองท่อน
แม้แต่ยาทองเองก็ยังไม่สามารถเอาตัวรอดหลุดพ้นออกมาจากร่างกายได้ โดยถูกฟันจนแหลกละเอียดไปพร้อมกันทั้งหมด
ผู้อาวุโสสามแห่งสำนักกวางยักษ์ ได้เสียชีวิตลงแล้ว
หลินหยุนสูดหายใจลึก ยื่นมือออกมากวักเรียก แผ่นทองเกล็ดมังกรนั้นก็กลับมาที่ในมือของเขา
สีหน้าของหลินหยุนยิ่งขาวซีดหนักไปอีก
และในขณะนั้นเอง ฉวี่เทียนซินกับผู้อาวุโสสี่ที่จับตัวซินเฟยมาได้แล้วนั้น ก็ได้เหาะเหินกลับมาอย่างรวดเร็ว
ฉวี่เทียนซินมีสีหน้าที่หม่นหมองอย่างที่สุด เขาคิดไม่ถึงอย่างมากว่า ต่อให้ในเวลานี้แล้ว หลินหยุนยังจะน่ากลัวมากขนาดนี้อีก!
ยอดฝีมือขั้นยาทองระดับหกเลยทีเดียว ก็ต้องมาเสียชีวิตลงไปอย่างนี้แล้ว!
สำนักกวางยักษ์ของพวกเขาเองก็มียอดฝีมือขั้นยาทองระดับหกเพียงไม่กี่คนเท่านั้น!
“หลินชางฉอง นายสมควรตาย! ”
“แต่ถึงขณะนี้แล้ว นายยังจะกล้าอยู่อีกเหรอ! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...