หลินหยุนกลับคืนสู่สภาพหน้าตาดั้งเดิมของตนเองแล้ว
ชุดสีขาว พลิ้วไสวราวกับหิมะ
กอปรกับเพราะการที่เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ทำให้ลักษณะท่าทางของเขาค่อนข้างจะกลัดกลุ้มไม่เบิกบานใจ จึงคล้ายคลึงกับลักษณะท่าทางของนักวิชาการ
แต่แววตาของเขา ในเวลานี้ก็ยังคงเด็ดเดี่ยว ล้ำลึก และเป็นประกายเช่นเคย
เห็นว่าเขากลับคืนสู่สภาพปกติแล้ว ซินเฟยก็ตกใจขึ้น และรีบพูดว่า “นายบ้าไปแล้วเหรอ? ”
หลินหยุนพูดว่า “ไม่เป็นไร เดิมทีคนที่รู้จักใบหน้าของฉันก็มีจำนวนไม่มากอยู่แล้ว! ”
ชะงักลงชั่วครู่ แล้วหลินหยุนก็สูดหายใจลึก สายตาแสดงความครั่นคร้าม และพูดขึ้นว่า “ในโลกคุนชางนั้น เหมือนว่าฉันจะถดถอยมากเกินไป! จิตใจที่สงสารเหมือนจะมากเกินไปหน่อย! ”
ซินเฟยตกใจ ไม่เข้าใจความหมายที่แฝงในคำพูดของหลินหยุน จึงได้ถามขึ้นว่า “หมายความว่าอย่างไร? ”
หลินหยุนส่ายศีรษะ โดยที่ไม่ได้อธิบาย
แต่มีเพียงแค่ตัวเขาเองที่เข้าใจเป็นอย่างดีที่สุด
ตั้งแต่ที่มาถึงโลกคุนชาง เขามีความรู้สึกเหมือนว่าถูกบีบบังคับอยู่ตลอดเวลา
การกระทำของเขา อ่อนแอมากเกินไป เหมือนจะสูญเสียความเป็นตัวตนของเขาไปแล้ว
เขาไม่รู้ว่ามันเกี่ยวข้องกับชาติที่แล้วหรือไม่
การบาดเจ็บสาหัสในครั้งนี้ สถานการณ์ที่ประสบพบเจอในครั้งนี้ ทำให้เขาตื่นตัวขึ้นมากแล้ว
หรือว่าจะพูดอีกอย่างหนึ่งว่า มุ่งมั่นเด็ดขาดมากขึ้น
ลำพังแค่โลกคุนชางขนาดเล็ก พวกมดแมลง พวกที่อ่อนแอ พวกที่ไม่ได้เรื่องแม้แต่จิตปฐมก็ยังไม่รู้จัก
คิดไม่ถึงว่าจะกล้าลงมือกับกษัตริย์เซียนที่ยิ่งใหญ่อย่างเขานี้ ซึ่งมันช่างเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามกษัตริย์เซียนอย่างมากที่สุด!
กษัตริย์เซียน ห้ามดูหมิ่นเหยียดหยาม!
ผู้ที่ดูหมิ่นเหยียดหยามนั้นจะต้องตาย!
ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจไปที่ทะเลกวางยักษ์
เขาอยู่ที่โลกคุนชางนี้ ไม่ใช่ช่วงเวลาแค่สั้น ๆ แล้ว
เกิดความกังวลต่อญาติสนิทที่อยู่ภายนอก และก็เป็นกังวลต่อเย่เยว่ที่ได้จากลาไปแล้ว ด้วยเช่นกัน
โดยจำเป็นที่จะต้องเร่งรีบเพิ่มขั้นพลังบำเพ็ญแล้ว
สำหรับเขาในตอนนี้ สถานที่ที่เป็นไปได้มากที่สุดนั้น ก็คือทะเลกวางยักษ์
หลังจากที่เดินทางไปยังเมืองกวางยักษ์แล้วนั้น เขาได้เกิดความสนใจกับทะเลกวางยักษ์อย่างที่สุด
เห็นว่าหลินหยุนไม่ได้ตอบ
ซินเฟยจึงพูดแทนขึ้นว่า “เวลานี้พวกเราไปที่ทะเลกวางยักษ์ มีความเสี่ยงต่ออันตรายสูงมาก เรื่องนี้ฉันคิดว่านายเองคงน่าจะรับรู้เป็นอย่างดี”
หลินหยุนพยักหน้า และพูดว่า “ฉันรู้ แต่ก็ไม่เป็นไร”
ซินเฟยได้ยินดังนั้น ก็ทำปากมุ่ย เดิมทีนายเองก็พูดแบบนี้ ดังนั้นจึงพากันเข้ามาในเมืองกวางยักษ์ แล้วผลลัพธ์เป็นอย่างไรล่ะ?
แต่ว่าคำพูดนี้ไม่ได้พูดออกมาโดยตรงอย่างแน่นอน
......
ครึ่งเดือนผ่านไป บริเวณด้านข้างของทะเลกวางยักษ์
บริเวณรอบนอกในระยะที่ห่างจากทะเลกวางยักษ์ประมาณหนึ่งร้อยลี้ ก็มองเห็นตรงด้านหน้าว่ามีเมฆดำปกคลุมอยู่อย่างหนาแน่น อีกทั้งครอบคลุมขอบเขตพื้นที่กว้างขวางอย่างน่าเหลือเชื่อ และใต้ฝ่าเท้าก็ได้กลายเป็นทะเลทรายไปแล้วด้วย
เดินหน้าต่อไปอีกหนึ่งร้อยลี้ ทะเลทรายที่กว้างใหญ่ไพศาลนั้น ก็ถูกหมอกดำปกคลุมเอาไว้ทั้งหมด
เหมือนว่าเพียงแค่ก้าวย่ำเข้าไปในทะเลทรายที่มีหมอกดำปกคลุมนั้น ก็เหมือนกับได้ก้าวข้ามผ่านไปยังอีกโลกหนึ่งอย่างไรอย่างนั้น
ต่อให้ระยะห่างยังคงมีอีกกว่าหนึ่งร้อยลี้ แต่ก็ยังคงสามารถรับรู้และสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึง ความไม่สงบสุขของโลกนั้น
เสียงสังหารดังสะเทือนเลือนลั่น ทะลุผ่านไปยังท้องฟ้าชั้นสูง
เจตนาสังหารเหมือนกับยิ่งจะแผ่กระจายออกมาอย่างไรอย่างนั้น
ต่อให้ในระยะห่างขนาดนี้ ก็ยังสามารถรับรู้และสัมผัสได้อย่างชัดเจน
อีกอย่างก็คือกลิ่นอายของพลังสังหารอันโหดเหี้ยมที่รุนแรง ซึ่งถึงขั้นที่ไม่สามารถจะรุนแรงเพิ่มขึ้นได้อีกแล้ว
ลำพังแค่กลิ่นอายของพลังสังหารอันโหดเหี้ยมนี้ ถ้าหากเป็นผู้บำเพ็ญเซียนที่มีพลังบำเพ็ญที่ค่อนข้างอ่อนแอ อยู่ที่บริเวณด้านนอกเป็นเวลานาน เป็นไปได้ที่สภาพจิตใจคงจะได้รับผลกระทบอย่างมาก
ซินเฟยสูดลมหายใจลึก และพูดขึ้นว่า “ก่อนหน้านี้เคยได้ยินถึงทะเลกวางยักษ์มาบ้าง ซึ่งก็ถือว่าพอที่จะเข้าใจสถานที่แห่งนี้เล็กน้อย แต่หลังจากที่มาถึงที่นี่จริง ๆ แล้ว และพบเห็นด้วยตาของตนเองแล้ว จึงสามารถรับรู้ได้ถึงความตื่นตะลึงอย่างแท้จริงนี้ได้! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...