จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1322

ร่างลางเอื้อมมือออกมา และคลายฝ่ามือออก

มีเลือดสดหนึ่งหยดที่มีรอยวัฏฏะค่อยๆรวมตัวกัน

เมื่อหยดเลือดค่อยๆถูกสร้างขึ้น ร่างลางนี้ก็ค่อยๆจางลง

ผ่านไปไม่นาน เลือดสารจิงก็ค่อยๆก่อตัวขึ้น ร่างลางดีดนิ้ว เลือดสารจิงก็พุ่งมาหาหลินหยุนทันที

หลินหยุนจับเอาไว้ในมือทันที

ด้านในเลือดสารจิงเต็มไปด้วยพลังชีวิต

ร่างลางพูดด้วยน้ำเสียงอิดโรย "ฉันโดนกักขังเป็นเวลานาน ตอนนี้เหลือเลือดสารจิงเพียงแค่สองหยดเท่านั้น ตอนนี้ฉันมอบเลือดสารจิงให้คุณหนึ่งหยด ถ้าหากในหนึ่งพันปี คุณยังไม่สามารถช่วยฉันออกจากสถานที่แห่งนี้ได้ ฉันคงเสียชีวิตอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน"

"ฉันหวังว่าคุณจะรักษาคำพูด อย่าทำให้ฉันต้องผิดหวัง!"

หลินหยุนเปล่งเสียงไม่พอใจออกมาและพูด "นี่คือความจริงใจของคุณเหรอ? การกระทำพวกนี้ของคุณ เมื่ออยู่ต่อหน้าฉัน มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย!"

"กร๊อบแกร๊บ!"

มีเสียงดังเกิดขึ้น เลือดสารจิงแตกสลายทันที ทำให้หมอกเลือดปกคลุมไปทั่ว หลินหยุนสะบัดมือและมันก็หายไปทันที

"มองเห็นอย่างชัดเจน คุณไม่ได้มีความจริงใจเลย!"

ร่างลางตกตะลึงทันที "คุณ……คุณมองออกได้ยังไง?"

หลินหยุนพูด "ฉันเคยพูดแล้ว การกระทำพวกนี้ของคุณ ไม่ต้องเอามาแสดงต่อหน้าฉัน ถ้าพวกเราสองคนแข็งแกร่งเหมือนเมื่อก่อน ฉันสังหารคุณให้เสียชีวิต มันก็เหมือนกันบีบมดให้ตายเท่านั้น!"

เรื่องนี้ หลินหยุนมั่นใจในตัวเองมากๆ

ร่างลางชนเผ่าโลหิตที่อยู่ด้านหน้านี้ ตอนที่เขาแข็งแกร่งที่สุดก็พึ่งฝึกฝนถึงแดนกษัตริย์เซียนเท่านั้น

ถึงแม้ลูกหลานของชนเผ่าโลหิตและชนเผ่าชะตาจะมีวิชาอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของตัวเอง และมันก็แข็งแกร่งมากๆ ไม่ใช่ยอดฝีมือแดนกษัตริย์เซียนทั่วไปสามารถต่อกรได้

แต่สำหรับหลินหยุนแล้ว เขาไม่ต่างอะไรจากมดตัวเล็กๆเลย

ถึงแม้เลือดหยดนี้จะมีพลังของเลือดสารจิงอยู่ แต่มันก็ไม่ได้เป็นเลือดสารจิงแท้ๆ เพราะด้านในยังมีวิญญาณชีวิตอยู่

ถ้าหลินหยุนใช้มันมาสร้างรากฐานแดนยาทอง มีโอกาสที่จะถูกอีกฝ่ายยืมซากคืนชีพก็ได้

สายตาของหลินหยุนเฉียบแหลมมากๆ เขาจะมองไม่ออกเหรอ

"คุณเป็นใครกันแน่?"

เป็นคำพูดเดิมอีกแล้ว

หลินหยุนพูด "สิ่งที่คุณควรทำคือตอบคำถามของฉัน! ไม่ใช่มาถามฉันแบบนี้!"

ร่างลางถอนหายใจ "ก็ได้! ดูแล้วคุณก็ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปอย่างแน่นอน ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ถ้างั้นฉันก็วางใจได้ อย่างน้อยโอกาสที่คุณจะช่วยฉันออกไปจากที่นี่ก็เพิ่มสูงขึ้น!"

"เรื่องนี้ ต้องเล่าตั้งแต่ต้น……"

ตอนนี้ ร่างลางก็ค่อยๆเล่าเรื่องทันทีออกมา

เล่าตั้งแต่ตัวเองมาถึงโลกมนุษย์ได้ยังไง สมัยโบราณกาล สถานการณ์และสำนักต่างๆบนโลกมนุษย์

ยังมีจักรพรรดิหวงตี้กับจักรพรรดิหยานตี้และความสัมพันธ์ของจักรพรรดิซือโหยว และเล่าถึงจิ่วหลีที่เขาเกลียดจนเข้ากระดูกด้วย

ในยุคโบราณกาล จักรพรรดิซือโหยวคือฮ่องเต้ของดาวไกอา หลังจากยุคบรรพกาลแล้ว จักรพรรดิซือโหยวคือบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดและเป็นฮ่องเต้ที่ปกครองยาวนานที่สุด

อ้อ ในยุคนั้น ไม่ได้เรียกว่าฮ่องเต้แล้ว แต่ขนาดนามว่ามหาจักรพรรดิ เพียงแต่มนุษย์สืบทอดมาตั้งแต่ยุคบรรพกาล ดังนั้นก็เลยเรียกว่าฮ่องเต้

อย่างไรก็ตาม ในยุคบรรพกาลนั้น เผ่ามนุษย์เคยมีช่วงเวลาที่รุ่งเรืองมากๆ ดังนั้นพวกเขาก็เลยไม่อยากอยู่ใต้บัญชาของใครไปนานๆ

เมื่อจักรพรรดิหวงตี้กับจักรพรรดิหยานตี้มีอำนาจมากขึ้น พวกเขาก็รวบรวมเผ่ามนุษย์เป็นปึกแผ่น และพวกเขาก็กลายเป็นความหวังของเผ่ามนุษย์ทันที

หลังจากนั้นก็มียอดฝีมือจากเผ่าอื่นๆแหกกฎของดาวไกอา หลังจากโดนสังหารแล้ว ในที่สุดเผ่ามนุษย์ก็กลับมามีอำนาจมากขึ้น

ในช่วงเวลานี้ ชนเผ่าโลหิตคนนี้ได้พูดเรื่องนี้กับจักรพรรดิซือโหยว พูดถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้ และคาดเดาว่าเผ่ามนุษย์น่าจะก่อกบฏ!

สุดท้ายแล้วจะเกิดสงครามครั้งยิ่งใหญ่ระหว่างเผ่ามนุษย์กับเผ่าอื่นๆ

แต่เขากลับได้รับบทลงโทษจากจักรพรรดิซือโหยว!

เนื่องจากตอนนั้นเผ่ามนุษย์อยู่ภายใต้การปกครองขอจักรพรรดิซือโหยว และเขาก็ไม่มีหลักฐานว่าเผ่ามนุษย์จะคิดก่อกบฏด้วย

จากนั้นเขาก็โดนเพื่อนร่วมงานอย่างจิ่วหลี ใช้ตะปูปราบชะตาตรึงร่างกายเขาเอาไว้ตรงนี้ และใช้ไม้กักมังกรทำเป็นกรงและกักขังเขาเอาไว้ตรงนี้

ระยะเวลา หนึ่งพันปี

แต่การกักขังครั้งนี้ นานหลายหมื่นปีแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์