จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1331

ทั้งสองคนนั่งรถเมฆไปยังทิศตะวันตกเฉียงใต้ต่อ

ยิ่งมุ่งไปข้างหน้าเท่าไหร่ ก็ยิ่งเจอคนมากขึ้นเท่านั้น

ไม่นานก็จะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายแกร่งกล้าที่เหาะเหินเดินอากาศ

และก็มีผู้บำเพ็ญเซียนจำนวนไม่น้อยเกาะกลุ่มกันมุ่งไปข้างหน้า

ดูเหมือนว่ายิ่งใกล้เวลางานประลองยุทธเก้าสำนักเท่าใด ผู้คนที่มาดูก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

ที่ชายขอบทะเลกวางยักษ์แห่งนี้

ทิวทัศน์เองก็นับว่ามีความเป็นเอกลักษณ์ไม่น้อย

มองดูแล้วรกร้างว่างเปล่า ทว่าไม่ว่าใครที่อยู่แดนสวรรค์มานาน ก็คงไม่พ้นที่จะรู้สึกเบื่อและเอียน

มีผู้บำเพ็ญเซียนไม่น้อยที่นั่งรถเมฆไปเหมือนหลินหยุนและซิงเฟย

เพียงแต่คนเหล่านี้ก็ยังมีจำนวนน้อยมากอยู่ดี

ผู้บำเพ็ญเซียนส่วนใหญ่ ล้วนแต่เหาะเหินเดินอากาศไปทั้งนั้น

กี่วันผ่านไป

เพียงอีกนิดก็จะถึงสถานที่งานประลองยุทธเก้าสำนักแล้ว

ระหว่างทาง ทั้งสองก็ได้พบกับชายหนุ่มผู้บำเพ็ญเซียนคนหนึ่งที่กำลังจะไปร่วมชมพิธี

คนคนนี้ชื่อโจวฮ่าว

อายุก็ประมาณยี่สิบต้นๆ

พลังบำเพ็ญใกล้เคียงกับซิงเฟย ต่างก็อยู่ในขั้นแดนฝึกพลังระยะหลังที่ยาทองยังไม่ถูกหล่อหลอมขึ้น

ตามที่เจ้าตัวเล่ามา ชายหนุ่มคนนี้มาจากตระกูลเล็กหนึ่งที่อยู่ทางตอนตะวันตกเฉียงเหนือ

เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเขาได้หนีออกจากบ้านมาเพียงลำพัง มาเข้าร่วมงานประลองยุทธเก้าสำนักเพื่อเปิดโลก

คนคนนี้เรียกได้ว่าไม่มีประสบการณ์การเดินทางด้านนอกเลยเสียจริง

เห็นหลินหยุนและซิงเฟยนั่งรถมา ก็พลันวิ่งตามเข้ามาหาทันที

ยังดีที่พวกเขาเป็นหลินหยุนและซิงเฟย ถ้าเป็นคนอื่น เกรงว่าคงจะลงมือฆ่าไปเสียแล้ว

เพราะนี่เป็นเรื่องต้องห้าม

ทว่าแม้ว่าคนคนนี้จะปากมากไปหน่อย แถมยังเป็นกันเองจนเกินเหตุ แต่หลินหยุนและซิงเฟยก็ไม่ได้ใส่ใจนัก

ทั้งสามคนจึงเกาะกลุ่มกันไปยังสถานที่งานประลองยุทธเก้าสำนักด้วยกัน

ตลอดการเดินทาง โจวฮ่าวคนนี้เอาแต่คุยโวไม่หยุด หลินหยุนไม่สนใจ แต่ซิงเฟยกลับพูดขัดเปิดโปงเขาอยู่บ่อยครั้ง

เพียงแต่แม้ความลับจะถูกเปิดเผย แต่โจวฮ่าวก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก

บรรยากาศอึดอัดเพียงชั่วครู่ เขาก็คุยโวเรื่องอื่นต่อ

สองวันนี้ ซิงเฟยก็รู้สึกหมดความสนใจ ไม่ฟังที่เจ้าหมอนี่คุยโวอีก โจวฮ่าวก็จึงหันมาพูดกับหลินหยุนโดยไม่หยุดแทน

“พี่หลิน นี่อย่าหาว่าฉันพูดโม้นะ”

“ถ้าไม่ใช่เพราะตาเฒ่าบ้านฉันคอยจับตาดูอยู่ตลอด ไม่งั้นด้วยพรสวรรค์ของฉัน หน้าตาของฉัน เสน่ห์ของฉัน กะแค่บุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจ หรือจะหวงฉาว หรือนิ่งเป่ยเฉินอะไรนั่นก็เทียบฉันไม่ติดเลยด้วยซ้ำ!”

หลินหยุนไม่ตอบ

ผ่านมาหลายวัน เขาเองก็เริ่มชินเสียแล้ว

ครั้งก่อนก็เป็นเพราะซิงเฟยรู้สึกเบื่อ ก็เลยตอบตกลงจะไปด้วยกันสามคน

เขาเองก็ไม่ได้มีความเห็นอะไร

หลายวันมานี้ เขาก็ไม่ได้พูดอะไรที่ไม่จำเป็นด้วย

จะมาขับไสไล่ส่งเอาป่านนี้ก็คงจะไม่ได้

เห็นหลินหยุนไม่ตอบอะไร โจวฮ่าวเองก็ไม่ใส่ใจนัก ยังคงพูดโวน้ำลายกระเซ็นว่า “นี่ดูสิ ฉันพูดขนาดนี้พี่ก็ยังไม่เชื่ออยู่ดี ฉันจะแอบเล่าให้ฟังนะ ตอนที่ฉันยังเด็ก ก็คือตอนเพิ่งเกิด มีปรมาจารย์ท่านหนึ่งเคยทำนายดวงชะตาให้ฉันด้วยล่ะ”

“ท่านบอกว่าดวงวาสนาฉันดีมากๆ!”

"เมื่อโตขึ้นแล้วก็จะได้เป็นบุคคลไร้เทียมทานที่มีชื่อเสียงกึกก้องไปทั่วหล้าโลกคุนชางเชียวนะ”

“พ่อฉันยังบอกกับฉันอีกนะ”

“ว่าตอนพิธีจับเสี่ยงทายครบขวบปีของฉัน ของที่วางอยู่ตรงหน้าฉันมีเป็นพันชิ้น แต่ตอนนั้นฉันจับของเพียงชิ้นเดียว”

“ของที่เก่งกาจที่สุด”

“ฮิฮิ พี่หลิน แม่นางซิง พวกพี่อยากรู้ไหม ว่าฉันจับได้อะไร”

หลินหยุนหลับตานั่งสมาธิต่อไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์