จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1332

ซิงเฟยมองหลินหยุนด้วยแววตาแปลกประหลาดครู่หนึ่ง

หลินหยุนเองก็เผยสีหน้าไม่คาดคิดเล็กน้อย

นี่นับว่าเป็นตำนานลับจริง

เรื่องนี้ พวกเขาสองคนเองก็เพิ่งจะรู้เมื่อไม่นานมานี้เช่นกัน

และพวกเขาก็รู้จากคุณชายเทียนซิน

ทั้งคู่เองก็คิดไม่ถึง ว่าโจวฮ่าวคนนี้ที่เอาแต่พูดโวจะรู้ตำนานลับเรื่องนี้จริงๆด้วย

ทันใดนั้น

สายตาของซิงเฟยที่มองโจวฮ่าวก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

หลินหยุนพยักหน้าให้เธอ

ซิงเฟยเข้าใจทันที พลันหันไปถามโจวฮ่าวว่า “แล้วเผ่าสาปฟ้านี่ยังไง? ทำไมถึงพูดว่าเผ่ามนุษย์เราต้องคำสาปของพวกเขา?”

โจวฮ่าวเอ่ยว่า “เผ่าสาปฟ้าในสมัยโบราณกาล คนในเผ่าทุกคนต่างก็เป็นมหาปุโรหิต มีความสามารถในการสื่อสารกับฟ้า จำนวนคนในเผ่ามีไม่เยอะ แต่ตำแหน่งกลับสูงมาก”

“พวกเขาเป็นบริวารของจักรพรรดิชือโหยว”

“จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกเขาจะอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับเผ่ามนุษย์!”

“หลังจากที่จักรพรรดิหยานตี้และหวงตี้ก่อสงครามขึ้น พวกเขาเองก็กลายเป็นศัตรูของเผ่ามนุษย์ไปโดยปริยาย!”

“จนท้ายที่สุดเผ่าสาปฟ้าก็ถูกขจัด”

“แต่ก่อนที่พวกเขาจะสูญสิ้น เผ่ามนุษย์ก็ต้องคำสาปเลือดของพวกเขา”

“รู้ไหมว่าคำสาปเลือดคืออะไร?”

“พูดไปพวกพี่ก็คงไม่รู้ ความหมายของมันก็คือคำสาปทางสายเลือดยังไงล่ะ!”

“ฉะนั้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เผ่ามนุษย์ของเราจึงไม่มีผู้บำเพ็ญเพียนจิตปฐมอีกต่อไป”

นี่เป็นข้อมูลที่ค่อนข้างจะเกินคาด

ที่รู้มาจากฉวี่เทียนซินก็มีเกี่ยวพันกับเผ่าสาปฟ้าบ้างเล็กน้อย

แต่ไม่มากเท่าที่โจวฮ่าวเล่ามาขนาดนี้

ฉวี่เทียนซินไม่ได้เล่ารายละเอียดพวกนั้นมาจนหมด กลับพูดรวบรัดเพียงคร่าวๆเท่านั้น

แม้ว่าฉวี่เทียนซินเองก็ได้เอ่ยถึงคำสาปของเผ่าสาปฟ้า

ทว่ากลับไม่ได้พูดออกมาอย่างมั่นอกมั่นใจและฟังดูมีเหตุมีผลแบบโจวฮ่าว

เห็นซิงเฟยและหลินหยุนไม่ตอบ และเงียบลงกันทั้งคู่

โจวฮ่าวก็ยิ้มเหอะๆ เอ่ยว่า “พี่หลิน แม่นางซิง พวกพี่รู้ไหมว่าเหตุผลที่แท้จริงที่ฉันมางานประลองยุทธเก้าสำนักนี่คืออะไร?”

ซิงเฟยอดถามไม่ได้ว่า “อะไร?”

โจวฮ่าวสูดหายใจเข้าลึก และตอบว่า “ฉันจะเข้าไปยังส่วนลึกของสุดหล้าทะเลต่างหากล่ะ! ส่วนงานประลองยุทธเก้าสำนักนี่ก็แค่ทางผ่าน มาดูให้สนุกก็แค่นั้น!”

ซิงเฟยได้ยินดังนั้นก็เบิกตาโพลง พลันเอ่ยเสียงตกใจว่า “นายว่าอะไรนะ? นายก็......นายจะเข้าไปในส่วนลึกของสุดหล้าทะเลงั้นเหรอ? นายอยากรนหาที่ตายหรือไง?”

“เล่าลือกันว่าส่วนลึกของสุดหล้าทะเลนั้นอันตรายยิ่ง ผู้ใดที่เข้าไปต่างต้องตายสถานเดียว!”

“นายกล้าเข้าไปหรือไง?”

โจวฮ่าวกลับยืดอกเอ่ยอย่างมั่นใจว่า “หากต้องการกลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่ง เขย่าโลกคุนชาง และอยู่เหนือคน ก็ต้องทำเรื่องที่คนอื่นทำไม่ได้อยู่แล้วสิ!”

“ฉันคิดมานานแล้วล่ะ!”

“จะเป็นผู้ที่แข็งแกร่งไร้เทียมทานได้ยังไงน่ะเหรอ?”

“แน่นอนว่าก็ต้องบำเพ็ญเซียนให้เข้าสู่แดนจิตปฐมให้ได้ยังไงล่ะ!”

"ด้วยระดับของฉันในตอนนี้ จะให้ไปต่อกรกับบุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจ หรือบุตรธยานะแห่งสำนักธยานะ หรือจะเทพสังหารหลินชางฉองก็ต้องไม่ไหวอยู่แล้วล่ะ”

“แต่ฉันสามารถสู้ความอดทนกับพวกเขาได้นี่!”

"ขอเพียงแค่ฉันแก้คำสาปทางสายเลือดนี่ได้ แล้วกลายเป็นผู้บำเพ็ญเซียนจิตปฐมแล้วล่ะก็ ต่อให้เป็นบุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจ หรือบุตรธยานะแห่งสำนักธยานะ หรือจะเทพสังหารหลินชางฉองอะไรก็ช่าง สุดท้ายก็ต้องตกเป็นผู้พ่ายแพ้สยบต่อฉันอยู่ดี!”

ซิงเฟยเผยแววอึ้งตะลึงอีกครั้ง “ทะเยอทะยานไม่เบาเลยนี่!”

โจวฮ่าวหัวเราะฮ่าๆ เอ่ยว่า “ก็แหงอยู่แล้วสิ ก็ท่านปรมาจารย์ที่เคยทำนายดวงชะตาให้ฉันตอนเด็กเคยบอกไว้นี่ ว่าฉันจะกลายเป็นเจ้าเหนือหัวของโลกคุนชาง ฉันเองก็ต้องพยายามเพื่อเป้าหมายนี้อยู่แล้ว!”

หลินหยุนเอ่ยเสียงเรียบว่า “นายพูดเรื่องพวกนี้ให้พวกฉันฟัง เพราะต้องการให้พวกฉันเข้าไปในสุดหล้าทะเลนั่นพร้อมกับนาย?”

โจวฮ่าวได้ยินดังนั้น ก็ชูนิ้วโป้งให้หลินหยุน แม้ว่าหลินหยุนจะไม่ค่อยชอบพูด แต่ก็เดาได้ไม่ผิด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์