ซิงเฟยมองหลินหยุนด้วยแววตาแปลกประหลาดครู่หนึ่ง
หลินหยุนเองก็เผยสีหน้าไม่คาดคิดเล็กน้อย
นี่นับว่าเป็นตำนานลับจริง
เรื่องนี้ พวกเขาสองคนเองก็เพิ่งจะรู้เมื่อไม่นานมานี้เช่นกัน
และพวกเขาก็รู้จากคุณชายเทียนซิน
ทั้งคู่เองก็คิดไม่ถึง ว่าโจวฮ่าวคนนี้ที่เอาแต่พูดโวจะรู้ตำนานลับเรื่องนี้จริงๆด้วย
ทันใดนั้น
สายตาของซิงเฟยที่มองโจวฮ่าวก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
หลินหยุนพยักหน้าให้เธอ
ซิงเฟยเข้าใจทันที พลันหันไปถามโจวฮ่าวว่า “แล้วเผ่าสาปฟ้านี่ยังไง? ทำไมถึงพูดว่าเผ่ามนุษย์เราต้องคำสาปของพวกเขา?”
โจวฮ่าวเอ่ยว่า “เผ่าสาปฟ้าในสมัยโบราณกาล คนในเผ่าทุกคนต่างก็เป็นมหาปุโรหิต มีความสามารถในการสื่อสารกับฟ้า จำนวนคนในเผ่ามีไม่เยอะ แต่ตำแหน่งกลับสูงมาก”
“พวกเขาเป็นบริวารของจักรพรรดิชือโหยว”
“จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกเขาจะอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับเผ่ามนุษย์!”
“หลังจากที่จักรพรรดิหยานตี้และหวงตี้ก่อสงครามขึ้น พวกเขาเองก็กลายเป็นศัตรูของเผ่ามนุษย์ไปโดยปริยาย!”
“จนท้ายที่สุดเผ่าสาปฟ้าก็ถูกขจัด”
“แต่ก่อนที่พวกเขาจะสูญสิ้น เผ่ามนุษย์ก็ต้องคำสาปเลือดของพวกเขา”
“รู้ไหมว่าคำสาปเลือดคืออะไร?”
“พูดไปพวกพี่ก็คงไม่รู้ ความหมายของมันก็คือคำสาปทางสายเลือดยังไงล่ะ!”
“ฉะนั้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เผ่ามนุษย์ของเราจึงไม่มีผู้บำเพ็ญเพียนจิตปฐมอีกต่อไป”
นี่เป็นข้อมูลที่ค่อนข้างจะเกินคาด
ที่รู้มาจากฉวี่เทียนซินก็มีเกี่ยวพันกับเผ่าสาปฟ้าบ้างเล็กน้อย
แต่ไม่มากเท่าที่โจวฮ่าวเล่ามาขนาดนี้
ฉวี่เทียนซินไม่ได้เล่ารายละเอียดพวกนั้นมาจนหมด กลับพูดรวบรัดเพียงคร่าวๆเท่านั้น
แม้ว่าฉวี่เทียนซินเองก็ได้เอ่ยถึงคำสาปของเผ่าสาปฟ้า
ทว่ากลับไม่ได้พูดออกมาอย่างมั่นอกมั่นใจและฟังดูมีเหตุมีผลแบบโจวฮ่าว
เห็นซิงเฟยและหลินหยุนไม่ตอบ และเงียบลงกันทั้งคู่
โจวฮ่าวก็ยิ้มเหอะๆ เอ่ยว่า “พี่หลิน แม่นางซิง พวกพี่รู้ไหมว่าเหตุผลที่แท้จริงที่ฉันมางานประลองยุทธเก้าสำนักนี่คืออะไร?”
ซิงเฟยอดถามไม่ได้ว่า “อะไร?”
โจวฮ่าวสูดหายใจเข้าลึก และตอบว่า “ฉันจะเข้าไปยังส่วนลึกของสุดหล้าทะเลต่างหากล่ะ! ส่วนงานประลองยุทธเก้าสำนักนี่ก็แค่ทางผ่าน มาดูให้สนุกก็แค่นั้น!”
ซิงเฟยได้ยินดังนั้นก็เบิกตาโพลง พลันเอ่ยเสียงตกใจว่า “นายว่าอะไรนะ? นายก็......นายจะเข้าไปในส่วนลึกของสุดหล้าทะเลงั้นเหรอ? นายอยากรนหาที่ตายหรือไง?”
“เล่าลือกันว่าส่วนลึกของสุดหล้าทะเลนั้นอันตรายยิ่ง ผู้ใดที่เข้าไปต่างต้องตายสถานเดียว!”
“นายกล้าเข้าไปหรือไง?”
โจวฮ่าวกลับยืดอกเอ่ยอย่างมั่นใจว่า “หากต้องการกลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่ง เขย่าโลกคุนชาง และอยู่เหนือคน ก็ต้องทำเรื่องที่คนอื่นทำไม่ได้อยู่แล้วสิ!”
“ฉันคิดมานานแล้วล่ะ!”
“จะเป็นผู้ที่แข็งแกร่งไร้เทียมทานได้ยังไงน่ะเหรอ?”
“แน่นอนว่าก็ต้องบำเพ็ญเซียนให้เข้าสู่แดนจิตปฐมให้ได้ยังไงล่ะ!”
"ด้วยระดับของฉันในตอนนี้ จะให้ไปต่อกรกับบุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจ หรือบุตรธยานะแห่งสำนักธยานะ หรือจะเทพสังหารหลินชางฉองก็ต้องไม่ไหวอยู่แล้วล่ะ”
“แต่ฉันสามารถสู้ความอดทนกับพวกเขาได้นี่!”
"ขอเพียงแค่ฉันแก้คำสาปทางสายเลือดนี่ได้ แล้วกลายเป็นผู้บำเพ็ญเซียนจิตปฐมแล้วล่ะก็ ต่อให้เป็นบุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจ หรือบุตรธยานะแห่งสำนักธยานะ หรือจะเทพสังหารหลินชางฉองอะไรก็ช่าง สุดท้ายก็ต้องตกเป็นผู้พ่ายแพ้สยบต่อฉันอยู่ดี!”
ซิงเฟยเผยแววอึ้งตะลึงอีกครั้ง “ทะเยอทะยานไม่เบาเลยนี่!”
โจวฮ่าวหัวเราะฮ่าๆ เอ่ยว่า “ก็แหงอยู่แล้วสิ ก็ท่านปรมาจารย์ที่เคยทำนายดวงชะตาให้ฉันตอนเด็กเคยบอกไว้นี่ ว่าฉันจะกลายเป็นเจ้าเหนือหัวของโลกคุนชาง ฉันเองก็ต้องพยายามเพื่อเป้าหมายนี้อยู่แล้ว!”
หลินหยุนเอ่ยเสียงเรียบว่า “นายพูดเรื่องพวกนี้ให้พวกฉันฟัง เพราะต้องการให้พวกฉันเข้าไปในสุดหล้าทะเลนั่นพร้อมกับนาย?”
โจวฮ่าวได้ยินดังนั้น ก็ชูนิ้วโป้งให้หลินหยุน แม้ว่าหลินหยุนจะไม่ค่อยชอบพูด แต่ก็เดาได้ไม่ผิด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...