ที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ขนาดเล็กและแคบมาก
และยังดูเป็นสถานที่ที่รกร้างมากด้วยเช่นกัน
ที่บอกว่ามันเล็กและแคบ เพราะที่แห่งนี้เปรียบเสมือนเป็นคอหอย
ทว่า ณ ที่แห่งนี้ ตำแหน่งทางด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันออกเฉียงใต้คือทะเลกวางยักษ์ ส่วนทางด้านทิศตะวันตกก็เป็นผืนทะเลทรายแห่งความตาย
ทะเลทรายแห่งความตายผืนนี้ ก็ไม่มีอะไรให้ต้องพูดถึง
ข้างในนั้นมีภูติทรายนับไม่ถ้วน ซึ่งน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก
นับว่าเป็นอีกสถานที่หนี่งที่เข้าไปแล้วก็ไม่อาจกลับออกมาได้
เพียงแต่แค่ไม่เข้าไป ไม่ว่าจะอยู่ใกล้แค่ไหนก็จะไม่มีอันตรายใดๆทั้งสิ้น
และสถานที่งานประลองยุทธเก้าสำนัก ก็คือตำแหน่ง “คอหอย” ที่ว่านั่นเอง
ผ่านคอหอยอันนี้ ก็สามารถเข้าไปยังสุดหล้าทะเลได้
ที่แห่งนี้ ตอนต้นก็ได้เกริ่นไปแล้วว่าเป็นสถานที่ประกอบพิธีบวงสรวงในสมัยโบราณกาล
แม้กระทั่งฮ่องเต้ก็ต้องมาเยือนที่แห่งนี้ด้วยตัวเอง
ทว่าจะไม่ได้เข้าไปยังสุดหล้าทะเล
มีเพียงเผ่าสาปฟ้า หรือผู้ที่ได้รับอนุญาตจากเผ่าสาปฟ้าแล้วเท่านั้นจึงจะสามารถเข้าไปยังสุดหล้าทะเลได้
ที่นี่มีแท่นบูชาขนาดใหญ่
ใหญ่ประมาณไหนเหรอ?
บนแทนนั่นมีทั้งหมดเก้าชั้น
ชั้นล่างสุด ก็มีเนื้อที่เท่ากับอาณาเขตของคอหอย
จากนั้นก็ต่อขึ้นไปทีละชั้นๆ
กลายเป็น “ยอดเขา” ที่สูงประมาณพันจั้ง
ตอนที่ทั้งสามมาเยือนถึงบริเวณใกล้เคียง ก็มีศิษย์เก้าสำนักมาขวางทางไปอีกครั้งทันที
มีจำนวนคนทั้งหมดเก้าคน
และพวกเขาเหล่านั้นต่างก็เป็นผู้บำเพ็ญเซียนแดนยาทองระดับสาม
นับว่าแข็งแกร่งมากแล้ว!
เก้าคนร่วมมือกัน อย่าว่าแต่ยอดฝีมือแดนยาทองระดับสี่ ถึงเป็นระดับห้า ก็สามารถประมือได้อย่างสูสี
ศิษย์สำนักใหญ่เหล่านี้ ไม่ได้ง่ายเหมือนอย่างที่เห็นแน่ ๆ
พวกเขาต่างเป็นอัจฉริยะ
และก็เป็นผู้ที่สามารถสู้รบข้ามระดับได้
ไม่มีผู้ใดกล้าละเลยพลังแบบนี้
มีผู้พิทักษ์ที่เปรียบเสมือนลูกรักสวรรค์อยู่ที่นี่ ย่อมไม่มีใครกล้าแสดงท่าทีอะไรอยู่แล้ว
อันที่จริง
เหตุผลที่ส่งผู้บำเพ็ญเซียนระดับสามมา
ก็เพราะต้องการจะแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความยิ่งใหญ่ของเก้าสำนัก
หรือไม่งั้น
ถึงแม้ว่าจะเปลี่ยนเป็นคนธรรมดาเก้าคนมาแทนก็ไม่มีใครริอาจมาเหิมเกริม
นอกเสียจากว่าใช้ชีวิตจนเอียนแล้ว
ตอนที่พวกเขาสามคนมาถึง ก็มีคนมารวมตัวกันไม่น้อยแล้ว
ที่นี่คือบริเวณนอกสุด ยังห่างจากแท่นบูชานั่นอีกประมาณสิบลี้
ร้อยกว่าคนที่อยู่ด้านหน้า ก็คงน่าจะต้องการเข้าไปยังแท่นบูชานั่น
ฝูงคนรวมตัวกันเรียงเป็นแถวยาว
หลังจากที่ซิงเฟยเก็บรถเมฆเสร็จ ทั้งสามคนก็เข้าไปต่อแถวตามลำดับ
เหล่าคนที่มาต่อแถวที่นี่ เห็นได้ชัดว่าต่างเป็นเจ้าขุนมูลนาย
ตัวตนย่อมต้องไม่ใช่คนธรรมดา
มีหลายคนในนั้น ที่มีกลิ่นอายฉกาจเป็นอย่างมาก
ลองสัมผัสรับรู้ดูเล็กน้อย
ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในขั้นแดนยาทองกันทั้งนั้น
กระทั่งมีคนมากมายที่เป็นยอดฝีมือแดนยาทองระดับสี่และระดับห้า
และยังมียอดฝีมือแดนยาทองระดับหกอยู่ในนั้น
เพียงแต่ ณ เวลานี้
ผู้แข็งแกร่งเหล่านี้ ในวันวาน พวกเขาอาจเป็นบุคคลระดับเจ้าเหนือหัวเลยก็ว่าได้
ตอนนี้กลับประพฤติตัวสงบเสงี่ยมมากๆ
มารวมตัวกันต่อแถวอย่างโดยดี ไม่แสดงท่าทีทะนงตนเลยแม้แต่น้อย
ประหนึ่งเป็นเหมือนคนธรรมดาทั่วไป
ตรงด้านหน้าสุด ก็ไม่มีใครพล่ามวาจาไร้สาระที่ไม่จำเป็น
เมื่อจ่ายเงินจำนวนหนึ่ง ก็จะได้แผ่นหยกแสดงตัวตนแผ่นหนึ่ง
จากนั้นก็จะสามารถเข้าไปยังด้านในได้
ดูเหมือนว่าคนที่มาต่อแถวที่นี่ ต่างรู้ดีว่าต้องจ่ายเงินเท่าไหร่ จึงจะสามารถซื้อแผ่นหยกแสดงตัวตนนั่นได้
ฉะนั้นก็จึงไม่จำเป็นต้องมากความอะไร
ไม่นาน พวกหลินหยุนก็มาถึงด้านหน้า
โจวฮ่าวที่อยู่หน้าสุด มาถึงก็ยื่นน้ำชี่ทิพย์แสนหยดไปเลยทีเดียว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...