จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1382

สรุปบท บทที่ 1382 พบเจอฉินชิงถงอีกครั้ง: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

อ่านสรุป บทที่ 1382 พบเจอฉินชิงถงอีกครั้ง จาก จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่

บทที่ บทที่ 1382 พบเจอฉินชิงถงอีกครั้ง คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย จูผาซู่ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

เธอในขณะนี้ ได้มองเห็นอนาคตที่สดใสไร้ที่สิ้นสุดของตัวเอง และถึงขนาดที่เริ่มคิดจินตนาการเกี่ยวกับอนาคตของตัวเองอย่างไร้ขอบเขตด้วยแล้ว

เธอมีเรื่องราวมากมายที่ต้องการจะกระทำ ซึ่งทนไม่ไหวอยากที่จะลงมือกระทำในทันทีเลย

แต่ตอนนี้ยังคงไม่ได้ เธอจำเป็นต้องอดทน รอให้หลังจากทุกอย่างยืนยันชัดเจนอย่างแน่นอนก่อนแล้วถึงจะลงมือได้!

ขณะนั้นเอง สี่เยว่กวาดสายตามองไปที่ทุกคน ท้ายที่สุดได้มองไปที่สามเยว่ และพูดขึ้นว่า “พี่สาม คำพูดของพี่สองตอนอยู่ที่สุดหล้าทะเลนั้น ได้พูดขึ้นต่อหน้าของพวกเราทุกคน ตอนนี้ เธอลองพูดความคิดเห็นของตัวเองมาสิ! ”

สามเยว่ได้ยินดังนั้นก็ตกใจขึ้นโดยพลัน แทบจะตั้งตัวไม่ทัน ซึ่งเธอคิดไม่ถึงว่า สี่เยว่จะถามคำถามแบบนี้ขึ้น แต่เธอก็พลันตั้งสติกลับคืนมาและนึกขึ้นได้ว่า สี่เยว่นั้นต้องการที่จะทำอะไร

โดยคิดที่จะอาศัยช่วงเวลาที่สองเยว่ยังกลับมาไม่ถึงที่สำนัก ดำเนินการตัดสินใจเรื่องสำคัญให้เสร็จเรียบร้อย

ทันใดนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะขึ้น โดยมองไปที่สี่เยว่และพูดขึ้นว่า “สี่เยว่ ดูเหมือนว่าที่เธอคิดจะขึ้นเป็นเจ้าสำนักแทนนั้น ช่างมุ่งมั่นแน่วแน่มากเสียจริงเลย! ”

“แต่ก็ชัดเจนอยู่ว่า สองเยว่นั้นยังคงมีชีวิตอยู่! ”

“การที่เธอคิดจะขึ้นเป็นเจ้าสำนักแทนนั้น เกรงว่าจะไม่สำเร็จเสียแล้ว! ”

“และเธอเองก็ไม่มีคุณสมบัติที่เพียงพอ! ”

“ฉันขอกล่าวเตือนเธอหน่อยแล้วกันว่า ควรจะรู้จักตนเองให้มากขึ้นกว่านี้จะเป็นการดีที่สุด เพื่อจะได้ไม่ต้องทำเรื่องอะไรที่ไม่ดีกับทุกคนขึ้น! ”

“ไม่อย่างนั้นแล้ว เกรงว่าสำนักที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้ คงจะต้องประสบกับการสั่นคลอนขึ้นบ้างอย่างแน่นอน! ”

ในคำพูดดังกล่าวนี้ แฝงไปด้วยการข่มขู่คุกคามอย่างหนัก

ความหมายแฝงก็คือ ต่อให้จะทำการลงมือ มีการแบ่งแยกเกิดขึ้นจริง ก็พร้อมทุกเมื่อ!

สรุปได้ว่า สี่เยว่ไม่มีทางที่จะได้ขึ้นเป็นเจ้าสำนักแทนอย่างเด็ดขาด!

ลักษณะนิสัยของสามเยว่ ไม่เหมือนกับสองเยว่ ที่คิดไตร่ตรองมากมาย

ได้ยินที่สามเยว่พูด สี่เยว่ก็หัวเราเยาะ และพูดขึ้นอย่างเยาะเย้ยว่า “เธอคิดว่า ฉันต้องการแค่ตำแหน่งเจ้าสำนักอย่างนั้นเหรอ? ”

“อย่างนั้นเธอเองก็คิดอย่างง่ายดายกับฉันมากเกินไปแล้ว! ”

“ฉันจะถามเธอหน่อย! ”

“ความสัมพันธ์ระหว่างหลินชางฉอง กับสำนักหยุนเยว่ของพวกเรา ตอนนี้ยังคงเป็นเรื่องลับอยู่อีกไหม? ”

“ถ้าอย่างนั้นในครั้งนี้ สำนักอริยสัจไม่สามารถสังหารหลินชางฉองได้! ”

“เธอคิดว่าตอนนี้พวกเขาจะปล่อยให้เรื่องมันยุติจบลงเพียงเท่านี้ไหมล่ะ? ”

“ส่วนสองเยว่ก็กำลังอยู่ในการต่อสู้ที่ชุลมุนนั้น! ”

“จะสามารถมีชีวิตรอดปลอดภัยกลับมาได้หรือไม่ ก็ยังไม่อาจล่วงรู้ได้! ”

“เธอคิดว่า เรื่องนี้จะจบลงเพียงเท่านี้อย่างนั้นเหรอ? ”

“ตอนนี้ ฉันจะต้องทำการกำหนดตัดสินใจปัญหาของสำนักหยุนเยว่ว่า ใครจะขึ้นมาเป็นผู้นำ จากนั้นค่อยมาปรึกษากันว่าพวกเราจะดำเนินการต่อไปอย่างไรกันดี”

“หรือเธอคิดว่า สำนักหยุนเยว่นั้นจะสามารถเทียบเท่ากับสำนักอริยสัจ สำนักเทียนหยุน รวมไปถึงสำนักฉีซานได้อย่างนั้นเหรอ? ”

“ถึงเวลานั้น เมื่อสำนักของเราตกต่ำลงก็จะมีคนอื่นมาซ้ำเติม และคนที่จ้องจะฉกฉวยโอกาสก็จะยิ่งมีมากขึ้นไปอีก! ”

“เธอบอกกับฉันมาสิว่า เธอสามารถยืนหยัดสำนักของเราเอาไว้ได้ไหม? ”

คำพูดของสี่เยว่นั้นไม่ได้มีความเกรงใจกันเลย ซึ่งก็เป็นเรื่องจริงทั้งหมด!

เป็นเช่นนั้นจริง เมื่อได้ยินที่เธอพูดแล้ว ทุกคนในสถานที่นั้น รวมถึงสามเยว่ด้วย ก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปดูย่ำแย่กันทั้งหมด

แต่สามเยว่ก็ได้พูดขึ้นด้วยความเย็นชาว่า “ไม่ว่าอย่างไร ทุกอย่างก็จะต้องรอให้พี่สองกลับมาก่อนแล้วค่อยทำการตัดสินใจ! ”

เมื่อสามเยว่พูดจบ สิบเยว่ที่อยู่ด้านหลังก็พูดขึ้นว่า “ถูกต้อง ฉันได้ส่งข้อความให้กับพี่สองแล้ว เชื่อว่าอีกไม่นานพี่สองก็คงจะตอบกลับมา! ”

“รอให้พี่สองกลับมาถึง ค่อยทำการตัดสินใจก็ยังไม่สายเกินไปนัก! ”

“พี่สี่ คุณใจร้อนเกินไปแล้ว! ”

เมื่อสิบเยว่พูดจบ ห้าเยว่และอีกหลายคนที่อยู่ด้านข้างก็กำลังคิดที่จะพูดโต้แย้งขึ้น

สี่เยว่พลันส่ายมือไปมา โดยที่ไม่ให้ห้าเยว่และอีกหลายคนพูดขึ้น พร้อมกับสายตาได้จ้องมองไปที่สามเยว่และสิบเยว่และพูดขึ้นว่า “วันนี้พวกเธอเห็นด้วยก็เห็นด้วย ไม่เห็นด้วยก็ต้องเห็นด้วย! ”

“ถ้าหากไม่ได้จริง ๆ อย่างนั้นก็อย่าได้กล่าวโทษกันที่ฉันจะต้องลงมือแล้ว! ”

ได้ยินที่สี่เยว่พูด สามเยว่กับสิบเยว่และคนอื่น ๆ ก็มีสีหน้าที่ย่ำแย่ในทันที

หากจะลงมือจริง ๆ แล้ว พวกเธอเองนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของสี่เยว่เลย

ยิ่งไปกว่านั้น สามเยว่ที่มีพลังบำเพ็ญแข็งแกร่งที่สุด เวลานี้ร่างกายก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส

เธอบ้าคลั่งอย่างที่สุด และก็ระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างที่สุดเช่นกัน

โดยลืมไปแล้วว่าตอนนี้อยู่ในสถานการณ์อะไร!

ลืมไปแล้วว่าผู้อาวุโสร่วมสำนักก็อยู่กันทั้งหมด

ลืมไปแล้วว่าสำนักหยุนเยว่ไม่สามารถที่จะให้ผู้ชายเข้ามาด้านในได้

และลืมไปแล้วว่าทำไมหลินหยุนถึงได้มาปรากฏตัวขึ้นที่นี่!

จิตในของเธอนั้นเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและเกลียดชังอย่างที่สุด

ชักกระบี่ยาวในมือออกมาจากด้าม พลังบำเพ็ญขั้นยาทองระดับสามได้ปะทุขึ้น พร้อมกับฟาดฟันกระบี่ตรงเข้าใส่หลินหยุนทันที

หลินหยุนลอยลงมาถึงพื้น โดยที่ไม่ได้ลงมืออะไร แต่กระบี่ยาวของฉินชิงถงก็ไม่สามารถพุ่งเข้าฟาดฟันได้เช่นกัน เพราะว่าสี่เยว่ที่อยู่ด้านหลังของเธอนั้น ได้ลงมือ ใช้พลังที่มองไม่เห็นจับตัวเธอเอาไว้อย่างกะทันหัน

ฉินชิงถงตื่นตกใจอย่างมาก หันหน้ามองไปที่สี่เยว่ และตะโกนพูดเสียงดังว่า “ท่านอาจารย์ ทำไมท่านถึงต้องขัดขวางฉันด้วย? วันนี้ฉันจะต้องสังหารคนผู้นี้ให้จงได้! ”

“ท่านอาจารย์ ท่านยังจำได้ไหมว่า ครั้งแรกที่ฉันได้พบกับท่านอาจารย์ แล้วบอกกับท่านอาจารย์ว่ามีคนผู้หนึ่งที่ทำร้ายฉันท่านยังจำได้ไหม? ”

“ก็คือเขานั่นเอง! ”

“ท่านอาจารย์ วันนี้ฉันจะต้องสังหารเขาให้จงได้! ”

ขณะที่พูด ฉินชิงถงก็ชูกระบี่ยาวขึ้น แล้วหันหลังกลับไปฟาดฟันเข้าใส่หลินหยุน

ในขณะนั้นเอง สองเยว่ก็ส่งเสียงฮึขึ้นอย่างเย็นชา ลมหายใจที่ทรงพลังก็พัดโหมขึ้น ทำให้ฉินชิงถงกระเด็นลอยออกไปไกล

กระแทกเข้ากับเสาของตำหนักอย่างรุนแรง และกระอักเลือดออกมาในทันที

แต่สายตาของเธอนั้น ยังคงจับจ้องไปที่ตัวของหลินหยุนอยู่

แววตาที่โกรธแค้นและเกลียดชัง ไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย

สี่เยว่มองไปที่เธอด้วยสายตาที่เยือกเย็น ส่งเสียงฮึอย่างเย็นชาและพูดขึ้นว่า “กำเริบยิ่งนัก! ”

ฉินชิงถงตกใจ จากนั้นก็โมโหขึ้น “ท่านอาจารย์ ขออภัยที่ลูกศิษย์เสียมารยาทไร้ความเคารพ ในเมื่อวันนี้ได้พบเจอกับคนผู้นี้แล้ว จำเป็นต้องสังหารเขาให้ได้ หวังว่าท่านอาจารย์จะไม่ขัดขวางการแก้แค้นของลูกศิษย์! ”

ขณะที่พูด ฉินชิงถงก็พลันลุกยืนขึ้น แล้วพุ่งเข้าไปสังหารหลินหยุนอีกครั้งในทันที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์