จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1387

สรุปบท บทที่ 1387 ข้อความฝากจากเย่เยว่: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

อ่านสรุป บทที่ 1387 ข้อความฝากจากเย่เยว่ จาก จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่

บทที่ บทที่ 1387 ข้อความฝากจากเย่เยว่ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย จูผาซู่ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ชั่ววินาทีที่เห็นภาพตัวเอง ใจของหลินหยุนก็พลันถูกสะกิดขึ้นมาอีกครั้ง

ทว่านั่นไม่ได้รั้งให้เขาหยุดอยู่ที่นี่

ชายหนุ่มยืนมองอยู่ที่เดิมเพียงชั่วครู่ ก็ก้าวขาเดินไปยังชั้นสองเลยทันที

ที่นี่คือห้องสมุด

มีชั้นวางหนังสืออันเล็กที่ประณีตสวยงาม และเปลนอนเล็กๆที่ถูกแขวนไว้

วินาทีที่เห็นเปลนอน หลินหยุนก็พลันเผยรอยยิ้ม

ยิ้มเพราะรู้ดี

ว่านี่คือสิ่งที่เธอชอบมากที่สุด

เย่เยว่มักจะชอบนอนบนเปลคนเดียวอย่างเงียบสงบ บ้างก็เหม่อลอย บ้างก็อ่านหนังสือ เหมือนว่านี่จะเป็นงานอดิเรกหลักของเธอไปแล้ว

ดังนั้นตอนที่เห็นเปลนอนอันเล็กนั่น หลินหยุนจึงได้ยิ้มออกมา

พลันยิ่งรู้สึกคิดถึงหญิงสาวคนนั้น

เขาก้าวขาเดินไปยังโต๊ะหนังสืออันเล็กที่อยู่หน้าเปลนอน บนนั้นมีหนังสือเก่าเล่มหนึ่งถูกวางไว้

และยังมีกระดาษสีเหลืองอีกไม่กี่แผ่น

หลินหยุนหยิบหนังสือเก่าขึ้นมา แล้วพลิกเปิดเบาๆ

บนนั้นมีแต่ตัวอักษรเล็กทว่าดูสวยงามสบายตาเต็มไปหมด

มันคือลายมือของเย่เยว่

วินาทีที่เห็นตัวหนังสือเล็กเหล่านี้ หลินหยุนก็ยิ่งรู้สึกคุ้นเคย

เสมือนว่าเขาไม่เคยอยู่ใกล้เย่เยว่ถึงเช่นนี้มาก่อนเลย

กระทั่งวิญญาณของเย่เยว่เมื่อครั้งก่อน ก็ไม่อาจให้ความรู้สึกคุ้นเคยเทียบกับตอนนี้ได้

หนังสือเล่มนี้ คือสมุดบันทึกประจำวันของเย่เยว่

คือสิ่งที่เธอได้พบเจอหลังจากที่เกิดใหม่

คือทุกประสบการณ์ที่เธอได้พบเห็น

และคือความคิดถึงอันลึกซึ้งของเธอที่มีต่อหลินหยุน

ทุกหน้าจะมีชื่อของเขา มีความคิดถึงและเสน่หาที่มีต่อเขา

หลินหยุนเปิดดูคร่าวๆไปสองหน้า ก็เก็บหนังสือเข้าไปในถุงเก็บของของเขาอย่างเบามือ

ตอนนี้ ไม่ใช่เวลาที่เขาจะมามัวอืดอาด

หลินหยุนกวาดตามองทั่วทั้งชั้นสอง

ก่อนจะส่ายหัวเบาๆ แล้วก้าวเดินขึ้นไปยังชั้นสามต่อ

เมื่อมาถึงตรงปากบันไดชั้นสาม พลันมีค่ายกลแกร่งกล้าอันหนึ่งขัดขวางอยู่ตรงหน้า

เพียงแต่ค่ายกลนี้ สำหรับหลินหยุนแล้ว แน่นอนว่าไม่ใช่ปัญหา

ไม่นาน หลินหยุนก็ก้าวเดินขึ้นไปยังชั้นสามต่อ

ก่อนจะมาถึงชั้นสามที่เป็นชั้นสุดท้าย

ชั้นสาม คือห้องส่วนตัวของเธอ

มีเตียงนอนนุ่มหนึ่งเตียง ตรงหน้าต่างมีโต๊ะแปดเหลี่ยมหนึ่งตัว บนโต๊ะก็มีกระดาษแผ่นหนึ่งถูกวางไว้

เมื่อเห็นกระดาษแผ่นนี้ หรือถ้าจะพูดให้ถูก คือเมื่อเห็นตัวอักษรบนกระดาษแผ่นนี้แล้ว หลินหยุนก็พลันเผยแววซาบซึ้งอีกครั้ง

เพราะบนกระดาษแผ่นนี้ คือข้อความของเย่เยว่ถึงเขา

บนกระดาษ มีจี้หยกสีขาวอันหนึ่งทับวางไว้

หลินหยุนเดินเข้าไปทีละก้าว ยื่นมือหยิบจี้หยกขึ้นมา ก่อนจะใช้ญาณสัมผัสเล็กน้อย ทันใดนั้น จี้หยกก็พลันปลดปล่อยขุมพลังที่น่าพรั่นพรึงออกมา

ทำให้หลินหยุนต้องรีบเก็บพลังทิพย์ทันที

นี่คือของวิเศษเพื่อการโจมตีเพียงครั้งเดียวที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยผู้บำเพ็ญเซียนแดนจิตปฐม

เพียงแต่นี่น่าจะเป็นของที่ผู้บำเพ็ญเซียนที่เพิ่งบรรลุแดนจิตปฐมได้ไม่นานทิ้งเอาไว้

นี่ก็แปลว่า

ตอนนั้นที่เย่เยว่จากไป พลังบำเพ็ญเซียนของเธอ ต้องบรรลุแดนจิตปฐมแล้วอย่างแน่นอน

หลินหยุนเก็บจี้หยกสีขาว

แล้วหยิบกระดาษบนโต๊ะขึ้นมาดู

เห็นเพียงบนนั้นเขียนไว้ว่า:

หยุน เห็นตัวหนังสือประหนึ่งพบหน้า

ตอนที่นายมาถึงที่นี่ ฉันก็คงน่าจะจากไปแล้วล่ะ!

ฉันไม่รู้ว่านายจะมาได้จริงๆหรือเปล่า แต่ยังไงฉันก็หวังว่านายจะมานะ ฉันหวังว่านายจะเห็นร่องรอยเหล่านี้ที่ฉันทิ้งไว้ให้

พวกเราแยกจากกันนานเกินไป......

ฉันรู้ว่าเป้าหมายของนายคืออะไร และยิ่งเข้าใจถึงเจตจำนงของนาย

ดังนั้น ฉันจึงเก็บจี้หยกอันหนึ่งทิ้งไว้ที่นี่ บางทีนายอาจไม่ได้ใช้มัน หรือบางทีก็อาจจะได้ใช้

นอกเหนือจากนี้ ก็คือของล้ำค่าสองชิ้นที่ฉันหามาได้ในหลายปีมานี้

นี่คือของล้ำค่าที่สามารถหล่อหลอมยาทองระดับเทพขึ้นมาได้

ฉันคิดว่านายคงต้องการมันมากแน่ ๆ

อีกอย่างหนึ่งก็คือ แม้ว่าฉันจะหานายไม่เจอ ทว่าฉันกลับสามารถมองเห็นเงาของนายได้ทุกที่บนดาวไกอาแห่งนี้

กล่องไม้ถูกเปิดออก พลันปรากฏของล้ำค่าสองชิ้นที่อยู่ข้างใน

ไข่หนึ่งใบ

ดูแล้วเหมือนเป็นไข่ แต่กลับเป็นหญ้าวิเศษชนิดหนึ่ง

หญ้าลูกมังกร

ส่วนอีกชิ้นหนึ่ง คือหินหนึ่งก้อนขนาดเท่ากำปั้นมือ

มีสีภายนอกเป็นสีแดงโลหิต

ทันทีที่เห็นหินก้อนนี้ เจียซินที่อยู่ในหลิงไถของหลินหยุนก็พลันปริปากถามว่า “นี่คือหินตัวกลางของเผ่าสาปฟ้าของเรานี่! มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”

“เย่เยว่คนนี้ คือภรรยานายงั้นเหรอ?”

“หล่อนเป็นใครกันแน่?”

“หล่อนไปจากที่นี่แล้วงั้นเหรอ?”

“อีกอย่าง พวกนายสองคนคือใครกัน?”

เธอรู้ตั้งนานแล้ว ว่าหลินหยุนต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ ๆ

แม้พลังบำเพ็ญจะไม่สูง แต่กลับกำลังจะหล่อหลอมยาทองระดับเทพ

นี่เป็นสิ่งที่ชายหนุ่มผู้บำเพ็ญเซียนธรรมดากล้าคิดสักที่ไหน

ตอนนี้เมื่อมาถึงสำนักหยุนเยว่ เห็นทุกสิ่งที่หญิงสาวนามว่าเย่เยว่คนนั้นทิ้งไว้ให้

หญิงสาวที่ชื่อเย่เยว่คนนี้เองก็ไม่ธรรมดาเอามากๆ!

ไม่เพียงแค่มีพลังบำเพ็ญแดนจิตปฐม

ยิ่งไปกว่านั้นคือรู้ว่าหลินหยุนจะหล่อหลอมยาทองระดับเทพ จึงได้เก็บของล้ำค่าทิ้งไว้ให้สองชิ้น

และของล้ำค่าสองชิ้นนี้ ก็หามาได้อย่างยากยิ่ง

โดยเฉพาะหนึ่งในนั้น ที่เป็นหินตัวกลางของเผ่าสาปฟ้า

หินตัวกลางที่ว่า ก็คือตัวกลางที่เผ่าสาปฟ้าใช้สื่อสารกับบนฟ้า

สมบัติล้ำค่าแบบนี้ แน่นอนว่าก็ต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้ว!

วินาทีที่เห็นหินตัวกลางก้อนนี้ เจียซินก็ไม่อาจนิ่งเฉยต่อไปได้อีก

เธอสูดหายใจเข้าลึกด้วยสันหลังเย็นเยียบ ก่อนจะเอ่ยว่า “หลินหยุน นายจะใช้หินตัวกลางของเผ่าฉันหล่อหลอมยาทองไม่ได้เด็ดขาด! หินตัวกลางนี้สำคัญกับเผ่าฉันมาก!”

หลินหยุนได้ยินดังนั้น ก็อดปริปากเอ่ยเสียงเรียบไม่ได้ว่า “ก็เป็นเพียงของล้ำค่าที่มีพลังแห่งกฎเกณฑ์ต้าเต๋าเท่านั้น หมื่นจักรวาล ของแบบนี้จะว่ามากก็ไม่มาก แต่จะว่าน้อยก็ไม่ถือว่าน้อยเกินไป”

“แทนที่จะเก็บไว้ให้เธอ เอามาเพิ่มพลังบำเพ็ญให้ฉันยังจะดีกว่าเสียอีก!”

“ที่มากไปกว่านั้น ของสิ่งนี้คือสิ่งที่ภรรยาฉันเก็บไว้ให้ ฉันไม่มีกงการอะไรที่จะต้องมอบให้เธอ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์