จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1388

สรุปบท บทที่ 1388 รวมทัพ: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

สรุปเนื้อหา บทที่ 1388 รวมทัพ – จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่

บท บทที่ 1388 รวมทัพ ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จูผาซู่ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เขากับเจียซิน ได้ทำสัญญากันไว้แต่แรกแล้ว

หรือถ้าจะให้พูดตรงๆ ก็คือข้อแลกเปลี่ยน

เขาไม่มีหน้าที่อะไร ที่จะต้องมอบหินตัวกลางก้อนนี้ให้อีกฝ่าย

หลินหยุนถือหินตัวกลางไว้ในมือ พลันนั่งขัดสมาธิลงบนเตียงโดยปราศจากความลังเลใดๆ จากนั้นก็เริ่มทำการหล่อหลอมยาทองขึ้นอีกครั้ง

ในหินตัวกลางก้อนนี้ มีกฎเกณฑ์ของต้าเต๋าคงอยู่

ดังนั้นหลินหยุนจึงหล่อหลอมยาทองได้เร็วกว่าครั้งก่อน

เร็วกว่ากระทั่งสามถึงสี่เท่า

ในขณะที่หลินหยุนกำลังหล่อหลอมยาทอง นอกสำนักหยุนเยว่ในตอนนี้ มีผู้แข็งแกร่งจำนวนมากมุ่งมารวมตัวกันทางนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ

นำโดยสำนักอริยสัจ

พร้อมทั้งสำนักเทียนหยุน และยอดฝีมือแห่งสำนักฉีซาน

นอกจากสามสำนักใหญ่นี้ กระทั่งสำนักเต๋าเฉินเซียวเอง ก็มีการมาเยือนของผู้แข็งแกร่ง

ผู้ที่เป็นหัวหอก ย่อมเป็นเจ้าสำนักยอดฝีมือแดนยาทองระดับเก้าแห่งสำนักอริยสัจ

จากนั้นก็เป็นเจ้าสำนักเทียนหยุน

ยอดฝีมือแดนยาทองระดับเก้าสองคน

ตามหลังด้วยเสิ่นฉง เฉินฉางเฟิง และยังมีผู้อาวุโสหนึ่งท่านของสำนักเต๋าเฉินเซียว ผู้อาวุโสหนึ่งท่านของสำนักฉีซาน และรองเจ้าสำนักแห่งสำนักเทียนหยุน

ยอดฝีมือแดนยาทองระดับแปดห้าคน

นอกจากยอดฝีมือชั้นยอดเจ็ดคนนี้แล้ว ก็มีบุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจ บุตรธยานะแห่งสำนักธยานะ บุตรกระบี่แห่งสำนักกระบี่เป่ยโต่ว และหวงฉาวแห่งสำนักเทียนหยุน

คนเหล่านี้เองก็ต่างปรากฏตัวที่นี่

นอกจากผู้บำเพ็ญเซียนจากเก้าสำนักใหญ่ ยังมีที่มากกว่านั้นคือเหล่าผู้บำเพ็ญเซียนจากสิบแปดสำนักเต๋า

และยังมีผู้บำเพ็ญเซียนอิสระ

ณ ตอนนี้ ทางด้านฝั่งนี้นั้นอื้ออึงเอิกเกริก

ยังมีผู้แข็งแกร่งจำนวนไม่น้อยที่กำลังมุ่งหน้ามา

หนึ่งในนั้นมีผู้บำเพ็ญเซียนฉกาจสองคน พวกเขาแต่งกายด้วยเสื้อคลุมยาวสีดำทั้งตัว บนศีรษะสวมหมวกสาน

มองเห็นใบหน้าไม่ชัด

สองคนนี้ต่างมีพลังบำเพ็ญแดนยาทองระดับแปด

ทันทีที่เห็นสองคนนี้ สายตาของคนไม่น้อยก็พลันจับจ้องมาที่พวกเขา

วิหารผนึกวิญญาณ!

การแต่งกายแบบนี้ คือสัญลักษณ์ที่ชัดเจนที่สุดของวิหารผนึกวิญญาณ

คิดไม่ถึงเลย ว่ากระทั่งผู้แข็งแกร่งของวิหารผนึกวิญญาณเองก็ยังมา

ณ ตอนนี้ ก็ยังคงมีผู้แข็งแกร่งกำลังมุ่งมาอย่างไม่ขาดสาย

ไม่นาน ก็มีลำแสงสว่างปรากฏขึ้น นั่นคือผู้บำเพ็ญเซียนแห่งสำนักสุริยัน

ผู้ที่นำอยู่หน้าสุด คือผู้บำเพ็ญเซียนแดนยาทองระดับเจ็ด

คนคนนี้มีคนรู้จักไม่มาก แต่ก็ไม่อาจนับว่าน้อย

เขาคือฉิวหรง เจ้าสำนักแห่งสำนักสุริยัน ที่กักตัวฝึกฝนมาเป็นเวลายาวนาน

เขาออกมาแล้ว!

ทว่าที่ทำให้ทุกคนต่างคาดไม่ถึงคือ เขาฝึกฝนพลังบำเพ็ญไปจนถึงขั้นแดนยาทองระดับเจ็ดแล้ว!

ไม่ใช่แดนยาทองระดับหก

ผู้บำเพ็ญเซียนบางส่วนที่รู้จักหรือมีความสัมพันธ์บางส่วนกับสำนักสุริยัน ณ เวลานี้ ตอนที่มองไปยังฉิวหรงต่างก็รู้สึกหนังตากระตุก

พลันรู้สึกสันหลังเย็นเยียบ

“นี่คือฉิวหรง!”

“เขากักตัวฝีกฝนออกมาแล้ว”

“แต่กลิ่นอายบนตัวเขา ทำไมถึงได้แกร่งกล้าขนาดนี้?”

“ก็นี่มันแดนยาทองระดับเจ็ด!”

“เจ้าหมอนี่ ซ่อนไว้ลึกเกินไปหรือเปล่า!”

“ทุกคนต่างนึกว่า ที่เขากักตัวฝึกฝนก็เพื่อที่จะบรรลุแดนยาทองระดับหก แต่กลับไม่มีใครคาดคิด ว่าเดิมทีเขาก็มีพลังบำเพ็ญแดนยาทองระดับหกอยู่แล้ว ที่เขาต้องการบรรลุคือแดนยาทองระดับเจ็ดต่างหาก!”

เจ้าหมอนี่เจ้าเล่ห์เกินไปแล้ว

ทันใดนั้น ก็มีคนบางส่วนกำลังมุ่งมาทางสำนักหยุนเยว่ จากทิศทางเดียวกันกับสำนักสุริยัน

เงาร่างนับสิบนั้น พวกเขามาจากเมืองมี่หยุน

หนึ่งในนั้นมีเจ้าเมืองมี่หยุน และผู้บำเพ็ญเซียนของตระกูลฉิน

เจ้าสำนักเทียนหยุนเอ่ยถามว่า “ตาแก่ วันนี้ เราจะลงมือสุดกำลังจริงๆเหรอ?”

เจ้าสำนักอริยสัจตอบว่า “ส่วนตัวฉันไม่ต้องการให้ลงมือสุดกำลัง!”

ได้ยินคำพูดของเขา เจ้าสำนักเทียนหยุนก็อดแค่นเสียงขำไม่ได้ เบะปากเอ่ยว่า “ตาแก่อย่างนายนี่ จอมปลอมเสมอต้นเสมอปลายเสียจริงๆ!”

“ถ้าจะให้พูดในตอนนี้ ว่าใครที่ต้องการให้สำนักหยุนเยว่สูญสิ้นมากที่สุด ฉันว่าทั้งโลกคุนชางนี่ นอกจากนาย นอกจากสำนักอริยสัจของพวกนาย ก็หาใครออกมาไม่ได้อีกแล้ว!”

เพราะหลินชางฉองงั้นเหรอ?

นั่นมันก็แค่ข้ออ้างเท่านั้น!

สำนักอริยสัจมีเหตุผลที่ต้องฆ่าหลินชางฉองเสียที่ไหน!

ทว่า

เมื่อเทียบกับฆ่าหลินชางฉอง สิ่งที่พวกเขาอยากทำมากกว่านั้น คือการขจัดสำนักหยุนเยว่ให้สิ้นซากต่างหาก!

นี่อาจจะหลอกคนอื่นได้

แต่ใช้ไม่ได้กับเจ้าสำนักเทียนหยุน

เพราะแค่สำนักหยุนเยว่อยู่ต่ออีกหนึ่งวัน ก็ทำให้ตำแหน่งเจ้าเหนือหัวของสำนักอริยสัจยิ่งสั่นคลอน

จุดนี้ ไม่มีข้อโต้แย้งใดๆทั้งสิ้น!

หากพูดถึงในโลกคุนชางนี่ จะมีสำนักไหนที่สามารถทำให้ตำแหน่งเจ้าเหนือหัวของสำนักอริยสัจสั่นคลอนได้ นั่นก็ย่อมไม่พ้นสำนักหยุนเยว่แน่นอน

แม้ดูทรงแล้วสำนักหยุนเยว่จะกำลังถดถอยลงทุกที

ทว่าก็ไม่อาจทำให้สำนักอริยสัจเบาใจได้!

มีเพียงสถานการณ์เดียวเท่านั้นที่จะทำให้พวกเขาสบายใจได้จริงๆ นั่นก็คือสำนักหยุนเยว่สูญสิ้นไปซะ!

ได้ยินเจ้าสำนักเทียนหยุนพูดดังนั้น เจ้าสำนักอริยสัจเองก็ไม่ได้อธิบายอะไร กลับยอมรับตรงๆ เห็นเพียงเขาถอนหายใจเบาๆ พลันปริปากเอ่ยอย่างจนใจเล็กน้อยว่า “นี่ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้!”

“ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ก็เป็นแบบนี้มาโดยตลอด!”

“ผลประโยชน์ของตัวเอง จะแบ่งครึ่งให้ผู้อื่นได้อย่างไรกัน!”

“นี่คือโอกาสอันดีเยี่ยม!”

“อย่างน้อย เราก็สามารถสืบสาวได้ว่า สำนักหยุนเยว่นั้นยากแท้หยั่งถึงเพียงใดได้ไม่ใช่หรือ?”

“ไม่งั้น ก็ต้องอยู่กับภัยคุกคามแบบนี้ต่อไป นี่จะเป็นตัวแปรที่ใหญ่ที่สุดสำหรับโอกาสของเราในอนาคต”

“เราจะปล่อยตัวแปรที่ไม่อาจควบคุมนี้ไว้ไม่ได้เด็ดขาด!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์