มาเร็วกว่าที่คิดจริงๆ
จากที่เธอคาดการณ์ เสิ่นฉงและเฉินฉางเฟิงต่างได้รับบาดเจ็บไม่เบา
แม้ว่าสำนักอริยสัจจะอยากเคลื่อนไหวขนาดไหน ก็ต้องใช้เวลาระยะหนึ่งอยู่ดี
แต่นี่กลับเป็นเวลาสั้นๆสองวันเท่านั้น
ค่อยยังชั่ว!
ที่เธอเตรียมการไว้นานแล้ว ให้สี่เยว่พาคนบางส่วนและของล้ำค่าไปจากที่นี่!
สำนักหยุนเยว่รู้ดีมาโดยตลอด ว่าตั้งแต่ต้นจนจบสำนักอริยสัจไม่เคยหยุดใจแคบกับพวกเธอเลย
เพียงแต่แค่ไม่เคยแสดงออกมาก็เท่านั้น
ทว่าก็เหมือนเรื่องราวก่อนหน้าที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แม้สำนักอริยสัจจะทำอย่างหลบซ่อนและระมัดระวังตัวขนาดไหน ก็ไม่อาจที่จะปิดบังทุกคนได้!
ดังนั้นเธอถึงได้ร้อนรนขนาดนี้
ทันทีที่กลับมาถึงสำนัก สิ่งแรกที่เธอทำก็คือเนรเทศสี่เยว่ออกไป
และให้เธอนำของล้ำค่าสามชิ้นที่สำคัญที่สุดของสำนักติดตัวไปด้วย
สีหน้าของสองเยว่หม่นหมองยิ่งกว่าสิ่งใด ผ่านไปเนิ่นนาน เธอจึงจะถอนหายใจยาวอย่างขุ่นเคือง พร้อมทั้งหันกลับไปมองหอว่างหยุนครู่หนึ่ง
ด้านในนั้นเงียบสงัด
เพราะมีค่ายกลอันแกร่งกล้า ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่อาจรับรู้ออกมาได้
สองเยว่ละสายตา ก่อนจะเอ่ยเสียงขรึมว่า “เมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นเราไปดูกันหน่อยเถอะ!”
พูดเสร็จ ก็ก้าวขาออกไปทันที
หมอกขาวที่ลอยอยู่เหนือหุบเขาแบ่งออกเป็นสองฟากในพริบตา
สองเยว่เดินออกมาเพียงผู้เดียว
ส่วนพวกสามเยว่และห้าเยว่ก็ไม่มีใครตามมา
เมื่อเห็นคนนับพันที่อยู่นอกหุบเขา และสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่แข็งแกร่งที่แฝงอยู่ในอากาศ สายตาของสองเยว่พลันจับจ้องไปยังเจ้าสำนักอริยสัจและเจ้าสำนักเทียนหยุน
จากนั้นก็มองไปยังเสิ่นฉงที่ยืนอยู่หน้าสุด
สองเยว่เอ่ยปากเสียงเย็นว่า “ทุกท่าน นี่คือต้องการจะทำลายล้างสำนักหยุนเยว่งั้นหรือ?”
แม้น้ำเสียงของเธอจะเยือกเย็นไปหน่อย ทว่าก็ฟังไม่ออกว่าแฝงอารมณ์ใด
ฟังไม่ออกว่าเกรี้ยวโกรธ และฟังไม่ออกว่าข่มขู่หรือไม่
ประหนึ่งเป็นเพียงประโยคคำถามที่เย็นชา
เสิ่นฉงแค่นยิ้มเสียงยิ้ม เอ่ยว่า “สหายสองเยว่ เหตุใดจึงต้องจงใจถามทั้งที่รู้คำตอบอยู่แล้ว? เรานั้นมาเพื่อหาหลินชางฉองนั่นต่างหาก!”
“หลินชางฉองรอดชีวิตจากในสุดหล้าทะเล”
“ทว่าหลังจากนั้นก็กลับมาที่สำนักหยุนเยว่พร้อมสหายสองเยว่!”
“จุดนี้ สหายสองเยว่คงไม่คิดจะปฏิเสธหรอกนะ?”
“หลินชางฉองนั่นคือใคร?”
“คือมารร้าย!”
“ฆ่าคนตาไม่กะพริบ!”
“มันฆ่าเหล่าศิษย์อัจฉริยะและผู้อาวุโสของสำนักเทียนหยุน ฆ่าศิษย์ของสำนักฉีซาน สำนักสิบแปดเต๋าเองก็มีคดีอำมหิตที่มันเคยก่อมาก่อน!”
“มันก็คือมารร้ายที่ทุกคนต้องฆ่า!”
“สหายสองเยว่ สำนักหยุนเยว่ของพวกท่าน ในวันนี้กลับมีความสัมพันธ์ที่ไม่อาจบอกคนกับมารร้ายนั่น!”
“เธอไม่อยากให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลกับเหล่าสหายทั้งโลกคุนชางนี่เลยหรือ?”
ฝีปากของเสิ่นฉง นับว่าเก่งกาจเสียจริง
นิยามหลินหยุนเป็นมารร้ายอีกครั้ง พูดถึงเหตุฆาตกรรมที่หลินหยุนเคยก่อ
พร้อมทั้งเชื่อมโยงหลินหยุนกับสำนักหยุนเยว่ให้ดูมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น
สองเยว่แค่นยิ้มเสียงเย็น ก่อนจะปริปากเอ่ยเสียงเรียบว่า “ที่แท้ก็เพราะเรื่องนี้นี่เอง เรื่องนี้ก็ไม่ได้มีอะไรมาก หลินชางฉองผู้นี้ คือเจ้าพระคุณแห่งสำนักหยุนเยว่ของเรา!”
“คือคนของสำนักหยุนเยว่!”
“ทุกท่าน วันนี้หากมีเรื่องอะไร ก็สามารถเอ่ยกับสำนักหยุนเยว่มาได้เลย!”
“ดูจากท่าทางของทุกท่านในวันนี้ เดาว่าก็คงไม่คิดจะจบง่ายๆด้วยเสินะ เมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็ไม่จำเป็นต้องหลบๆซ่อนๆอีก!”
สองเยว่พูดเสร็จ ก็มองไปยังเจ้าสำนักอริยสัจและเจ้าสำนักเทียนหยุนที่ลอยอยู่กลางอากาศ ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบว่า “ผู้อาวุโสทั้งสองท่าน หากจะลงมือจริงๆ ก็หวังว่าทั้งสองท่านจะตัดสินใจเสียสักที!”
“ไม่งั้นสุดท้ายแล้วคนที่เสียเปรียบอาจจะเป็นพวกท่านเอง!”
“หากเป็นเช่นนั้นก็คงไม่ดีนัก!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...