ชั่วขณะหนึ่ง เสียงตะโกนคำว่าสำนักมารดังลั่นทะลุหมอกเมฆ
ภาพลักษณ์ของสำนักหยุนเยว่ที่อยู่ในใจของทุกคนเองก็พลันเปลี่ยนไป
ทว่าแววตาสีหน้าของสองเยว่กลับยังคงหนักแน่นดังเดิม
เธอมองไปยังฝูงคนที่อยู่ตรงหน้า พลางปริปากเอ่ยเสียงเรียบว่า “ทุกท่าน นอกจากคนที่มาดูเอาสนุก หรือพวกที่ต้องการจะฉวยโอกาส หากมีใครที่มีหนี้แค้นกับเจ้าพระคุณของสำนักเราจริงๆ ก็ให้ก้าวออกมาซะ!”
“แสดงตัวออกมาให้ฉันดูว่าพวกท่านคือใครกันแน่!”
“พวกท่านเองก็ลองมาอธิบายอย่างละเอียด ว่าเพราะเหตุผลอะไร ถึงได้มีหนี้แค้นกับเจ้าพระคุณของเรา!”
“ต่อหน้าสหายมากมายขนาดนี้ เรามาลองดูกันดีๆ ว่าตกลงใครถูกใครผิดกันแน่!”
พูดเสร็จ สายตาของเธอก็จับจ้องไปยังสำนักเทียนหยุน พลันเอ่ยเสียงเย็นว่า “ก่อนหน้านี้ ที่โลกภายนอกเล่าลือกันอย่างอื้ออึง ก็คือหนี้แค้นระหว่างเจ้าพระคุณสำนักเราและสำนักเทียนหยุน!”
“สหายของสำนักเทียนหยุนเล่ามาก่อนเถอะ!”
เธอไม่รีบ
ตอนนี้ ไม่ว่าจะสำนักหยุนเยว่ หรือหลินหยุน
สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับพวกเขาก็คือเวลา
หลินหยุนเข้าไปในหอว่างหยุน ยังไงก็ต้องหล่อหลอมยาทองต่อเพื่อทวีพลังบำเพ็ญแน่ ๆ
ก่อนที่จะเข้าไปในหอว่างหยุน พลังบำเพ็ญของหลินหยุนก็พอที่จะสู้รบกับสี่เยว่ได้อย่างสูสี
แค่นี้ก็สามารถบ่งบอกถึงพลังที่แท้จริงของหลินหยุนได้แล้ว
หากหลินหยุนสามารถบรรลุไปอีกขั้นได้
งั้นก็ยังมีโอกาสแน่นอน!
โอกาสนี้ ไม่ใช่การพลิกผันสถานการณ์ แต่คือโอกาสรอดชีวิตไปจากที่นี่!
แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว!
เพียงแค่ท่านเจ้าพระคุณมีชีวิตรอด สามารถหนีไปจากที่นี่ได้ งั้นเธอก็ไม่ใช่คนบาป!
สี่เยว่เองก็พาคนส่วนหนึ่งและของล้ำค่าสามสิ้นหนีไปแล้ว!
สำนักหยุนเยว่ก็จะยังไม่ถือว่าสูญสิ้น!
ดังนั้น แม้ว่าพวกเธอจะต้องตายที่นี่ แต่มันก็คุ้มค่าแล้ว
ดังนั้นในใจเธอตอนนี้มีเพียงความกังวลเล็กน้อยเท่านั้น
ทว่ากลับไม่ได้เกรงกลัว
ยืดเยื้อเวลาได้อีกนานเท่าไหร่ ก็ยืดเยื้อเวลาให้นานได้เท่านั้น
ได้ยินเธอกล่าวดังนั้น รองเจ้าสำนักเทียนหยุนก็ก้าวออกมาหนึ่งก้าว เอ่ยเสียงเย็นว่า “สหายสองเยว่ เรื่องพวกนี้ ยังต้องอธิบายละเอียดอีกงั้นเหรอ? หลินชางฉองนั่นมาที่เมืองเทียนหยุนของเรา เพียงแค่มีเรื่องผิดใจกับศิษย์ของสำนักเราเล็กน้อย เลยถือตัวว่าตนเป็นยอดอัจฉริยะ มีพลังบำเพ็ญอันแกร่งกล้า แล้วลงมือฆ่าเจียงเฉิง ศิษย์อัจฉริยะสำนักเรา!”
“เรื่องนี้ใครๆก็รู้!”
“จากนั้นผู้อาวุโสไม่กี่ท่านของสำนักเรา ก็หาคนผู้นี้จนพบเพื่อจะถามไถ่ต้นตอ ทว่ามันกลับคลุ้มคลั่ง จิตใจอำมหิต!”
“ใช้กลอุบายหลอกล่อผู้อาวุโสของสำนักเรา!”
“ทำให้ผู้อาวุโสเหล่านั้นต้องถึงแก่ความตาย!”
“จากนั้นฉันก็ออกตามจับมันด้วยตัวเอง เพื่อจะถามไถ่ว่าสำนักเรามีเรื่องอาฆาตแค้นอะไรกับมันกันแน่!”
“ทว่าคนผู้นี้กลับร้ายกาจและเจ้าเล่ห์เป็นที่สุด ดันหนีไปเสียก่อน!”
“ตอนนั้น เรายังไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ของเจ้าคนอมิตรนี่กับสำนักหยุนเยว่ และยิ่งไม่มีทางรู้ ว่ามันจะมีตำแหน่งสูงส่งในสำนักหยุนเยว่ถึงเพียงนี้!”
“ตอนนี้เป็นฉันเสียมากกว่าที่อยากถามสหายสองเยว่!”
“เจ้ามารร้ายหลินชางฉองนั่น ที่ลงมือกับสำนักเทียนหยุนของเราบ่อยครั้งขนาดนี้ ฆ่าศิษย์อัจฉริยะของเราไม่พอ ยังฆ่าเหล่าผู้อาวุโสของสำนักเราอีก!”
“ตกลงนี่เป็นการกระทำส่วนตัวของหลินชางฉอง หรือเป็นความต้องการของสำนักหยุนเยว่กันแน่?”
“สำนักเทียนหยุน ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับสำนักหยุนเยว่มาก่อน แต่สำนักหยุนเยว่กลับลงมือกับสำนักเทียนหยุนของเรา!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...