จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1393

สรุปบท บทที่ 1393 ค่ายกลฮู่ซานถูกทำลาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

สรุปเนื้อหา บทที่ 1393 ค่ายกลฮู่ซานถูกทำลาย – จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่

บท บทที่ 1393 ค่ายกลฮู่ซานถูกทำลาย ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จูผาซู่ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ครั้งนี้ หลังจากที่หมอกขาวถูกสลาย เห็นได้ชัดว่าใช้เวลาฟื้นฟูนานขึ้นกว่าเดิม

ทว่า ค่ายกลกลับยังคงไม่ถูกทำลาย

จากนั้น ผู้คนที่อยู่ด้านหลังก็พลันเริ่มการโจมตีขึ้นอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง

ทุกครั้งหลังการโจมตี ค่ายกลก็จะสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

จนกระทั่งหลังการโจมตีครั้งที่สิบ พวกสามเยว่และห้าเยว่ที่อยู่ในมุมอื่นๆของค่ายกลต่างเผยสีหน้าซีดเผือด

โดยเฉพาะสามเยว่

ที่กระอักเลือดออกมาอย่างต่อเนื่อง

เดิมทีเธอก็ได้รับบาดเจ็บหนักอยู่แล้ว

ตอนนี้ให้เธอมาคุ้มกันตำแหน่งค่ายกล หลังถูกโจมตีซ้ำแล้วซ้ำเล่า อาการบาดเจ็บก็ยิ่งสาหัสกว่าเดิม

ทันใดนั้น สองเยว่ก็แล่นมาที่ข้างกายของสามเยว่

เธอปลดปล่อยพลังบำเพ็ญ รีบอุดช่องโหว่ตรงตำแหน่งของสามเยว่ทันที

นี่ทำให้ค่ายกลที่เดิมทีสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงมั่นคงขึ้นเล็กน้อย

ทว่า การโจมตีจากภายนอกก็ยังคงดำเนินอย่างต่อเนื่อง

เจ้าสำนักอริยสัจเผยแววตายะเยือก ก่อนจะแผดเสียงเย็นว่า “ทุกท่าน อย่าได้หยุดโจมตี ค่ายกลนี้กำลังจะทลายลงแล้ว!”

“บูม--”

“บูม--”

“บูม--”

ผ่านการโจมตีไปอีกหกครั้ง

ค่ายกลก็พลันระเบิดเสียงทุ้มดังสนั่น

หมอกขาวถูกสลายไปจนหมดสิ้น

ค่ายกลฮู่ซานที่ถูกสืบสานมาเป็นเวลานานนับไม่ถ้วน จนในที่สุดก็ไม่อาจฝืนทนต่อไปได้ แหลกสลายออกเป็นเสี่ยงๆ

หมอกขาวสลาย

สภาพที่แท้จริงของหุบเขาก็พลันปรากฏแก่สายตา

ส่วนตรงหน้าหุบเขา ม่านลึกลับของสำนักหยุนเยว่ก็ถูกเปิดเผยในที่สุด

สำนักหยุนเยว่นั้น ประหนึ่งแดนสวรรค์

พลังทิพย์เองก็นับว่าเข้มข้นเป็นอย่างมาก

ตอนนี้ค่ายกลได้ถูกทลายลง

พลังทิพย์ที่เข้มข้นนั่นก็พลันโชยชายออกมา

เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังทิพย์ที่เข้มข้นปานนี้ ทำให้คนไม่น้อยเริ่มหวั่นไหวใจสั่น

ต่างเผยแววกระหายที่ปิดไม่มิด

ที่แบบนี้ นับได้ว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการบำเพ็ญเซียนอย่างแน่นอน

สำนักหยุนเยว่ถูกสืบสานมาเป็นเวลานานนับไม่ถ้วน เพียงแต่ช่วงระยะเวลาพันปีมานี้ ถึงเพิ่งจะหลุดออกจากตำแหน่งเจ้าเหนือหัวไป ไม่ว่ายังไงก็ย่อมต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้ว

สำนักแบบนี้ มีรากฐานที่หยั่งรากลึกและแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก

ยังไงก็ต้องมีของดีมากจนนับไม่ถ้วนแน่ๆ สำหรับคนอย่างพวกเขา แม้จะได้มาเพียงเล็กน้อย ก็นับว่าบุญโขสุดๆแล้ว

ทว่า ตราบใดที่ยังมีสำนักอริยสัจ สำนักเทียนหยุน ฯลฯ ที่เป็นพวกยอดผู้ทรงอิทธิพลแบบนี้ ยังจะมีส่วนของพวกเขาเหลืออยู่สักที่ไหนกัน?

ค่ายกลถูกทลาย

สองเยว่เองก็พาพวกสามเยว่และห้าเยว่ลอยตัวอยู่เหนืออากาศ

พลันมองไปยังเจ้าสำนักอริยสัจและเจ้าสำนักเทียนหยุนด้วยสีหน้าเคร่งขรึมกว่าเดิม

เจ้าสำนักเทียนหยุนมองไปยังสองเยว่ เอ่ยเสียงเย็นว่า “สหายสองเยว่ ตอนนี้ ยังมีโอกาสกลับใจ หากเธอยอมมอบตัวหลินชางฉองนั่น ทางเราก็จะไม่ลงมือกับผู้บำเพ็ญเซียนของสำนักหยุนเยว่อีก!”

สองเยว่แค่นยิ้มเสียงเย็น เอ่ยว่า “ท่านคิดว่า แค่ทำลายค่ายกลของสำนักเราลงได้ ก็คือคว้าชัยชนะอยู่ในมือแล้วงั้นเหรอ?”

“หากท่านคิดแบบนี้จริงๆ งั้นก็นับว่าช่างไร้เดียงสายิ่งนัก!”

“สำนักหยุนเยว่ของเราสืบสานมาเป็นเวลานานนับไม่ถ้วน รากฐานของเรานั้นไม่ใช่สิ่งที่พวกท่านจะหยั่งถึงได้!”

“ส่วนเรื่องอื่น ก็ไม่จำเป็นต้องมากความอะไรอีก หากอยากจะฆ่าเจ้าพระคุณสำนักเรา ก็ข้ามศพเราไปเสียก่อนเถอะ!”

ทันใดนั้น เจ้าสำนักเทียนหยุนเองก็ปริปากเอ่ยว่า “สหายสองเยว่ พวกเราต่างรู้ดี ว่าสำนักหยุนเยว่ย่อมต้องมีท่าไม้ตายมากกว่านี้อยู่แล้ว”

เมื่อเงาสีเขียวสว่างวาบขึ้น ก็จะต้องมีผู้แข็งแกร่งหนึ่งคนถูกดูดกลืนชีวิตด้วยทุกครั้ง

จากนั้นร่างกายก็จะถูกลากไปยังหุบเขา

เหล่ายอดฝีมือแดนยาทองระดับสาม ระดับสี่ ระดับห้า ระดับหกนับสิบ ไม่มีใครรอดพ้นไปได้

แม้กระทั่งผู้อาวุโสใหญ่ของสำนักเทียนหยุนที่อยู่ในขั้นแดนยาทองระดับเจ็ดก็ถึงแก่ความตายในพริบตา

มียอดฝีมือแดนยาทองระดับแปดไม่กี่คนด้านหน้าที่สำแดงอิทธิฤทธิ์อย่างบ้าคลั่ง โจมตีใส่หุบเขาไม่ยั้ง

นี่จึงจะพอถ่วงเวลาให้ตัวเองถอยกลับมาได้สำเร็จ

ทว่าแววตาของพวกเขาเองก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

น่ากลัวเกินไปแล้ว

ในหุบเขาลึกไม่เห็นเหวแห่งนี้ มีบางสิ่งบางอย่างที่ทรงพลังอยู่มากมาย!

หากไม่ใช่เพราะพวกเขาแข็งแกร่งพอและมีไหวพริบดี ถ้าเข้าไปพัวพันกับเงาสีเขียวนั่น เกรงว่าก็คงไม่มีทางรอดพ้นออกมาได้แน่ ๆ!

ชั่วขณะหนึ่ง ทั่วทุกสารทิศพลันเงียบสงัด

แม้แต่เจ้าสำนักอริยสัจและเจ้าสำนักเทียนหยุนก็รู้สึกหนังตากระตุกไม่หยุด

คนอื่นอาจจะมองไม่ออกว่าพวกเงาสีเขียวนั่นคืออะไร ทว่าพวกเขาที่เป็นยอดฝีมือแดนยาทองระดับเก้านั้นมองออกแล้ว

นั่นคือสัตว์ดุร้ายที่เร็วว่องไว่ดุจสายฟ้าแลบ

สัตว์ดุร้ายที่กลืนกินพลังทิพย์โดยเฉพาะ

ฉกาจและแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก

อีกทั้งยังว่องไวจนน่าเหลือเชื่อ

ซ้ำแต่ละตัวนั้นยังเก่งกาจถึงขีดสุด

ผู้บำเพ็ญเซียนแดนยาทองระดับเจ็ดลงไปไม่อาจต่อกรกับมันได้ด้วยซ้ำ

ทั้งคู่เผยสีหน้าเคร่งขรึม พลันสบตากันครู่หนึ่ง ต่างอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียวสันหลัง

สำนักหยุนเยว่ ช่างยากแท้หยั่งถึงจริงๆ!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์