ครั้งนี้ หลังจากที่หมอกขาวถูกสลาย เห็นได้ชัดว่าใช้เวลาฟื้นฟูนานขึ้นกว่าเดิม
ทว่า ค่ายกลกลับยังคงไม่ถูกทำลาย
จากนั้น ผู้คนที่อยู่ด้านหลังก็พลันเริ่มการโจมตีขึ้นอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง
ทุกครั้งหลังการโจมตี ค่ายกลก็จะสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
จนกระทั่งหลังการโจมตีครั้งที่สิบ พวกสามเยว่และห้าเยว่ที่อยู่ในมุมอื่นๆของค่ายกลต่างเผยสีหน้าซีดเผือด
โดยเฉพาะสามเยว่
ที่กระอักเลือดออกมาอย่างต่อเนื่อง
เดิมทีเธอก็ได้รับบาดเจ็บหนักอยู่แล้ว
ตอนนี้ให้เธอมาคุ้มกันตำแหน่งค่ายกล หลังถูกโจมตีซ้ำแล้วซ้ำเล่า อาการบาดเจ็บก็ยิ่งสาหัสกว่าเดิม
ทันใดนั้น สองเยว่ก็แล่นมาที่ข้างกายของสามเยว่
เธอปลดปล่อยพลังบำเพ็ญ รีบอุดช่องโหว่ตรงตำแหน่งของสามเยว่ทันที
นี่ทำให้ค่ายกลที่เดิมทีสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงมั่นคงขึ้นเล็กน้อย
ทว่า การโจมตีจากภายนอกก็ยังคงดำเนินอย่างต่อเนื่อง
เจ้าสำนักอริยสัจเผยแววตายะเยือก ก่อนจะแผดเสียงเย็นว่า “ทุกท่าน อย่าได้หยุดโจมตี ค่ายกลนี้กำลังจะทลายลงแล้ว!”
“บูม--”
“บูม--”
“บูม--”
ผ่านการโจมตีไปอีกหกครั้ง
ค่ายกลก็พลันระเบิดเสียงทุ้มดังสนั่น
หมอกขาวถูกสลายไปจนหมดสิ้น
ค่ายกลฮู่ซานที่ถูกสืบสานมาเป็นเวลานานนับไม่ถ้วน จนในที่สุดก็ไม่อาจฝืนทนต่อไปได้ แหลกสลายออกเป็นเสี่ยงๆ
หมอกขาวสลาย
สภาพที่แท้จริงของหุบเขาก็พลันปรากฏแก่สายตา
ส่วนตรงหน้าหุบเขา ม่านลึกลับของสำนักหยุนเยว่ก็ถูกเปิดเผยในที่สุด
สำนักหยุนเยว่นั้น ประหนึ่งแดนสวรรค์
พลังทิพย์เองก็นับว่าเข้มข้นเป็นอย่างมาก
ตอนนี้ค่ายกลได้ถูกทลายลง
พลังทิพย์ที่เข้มข้นนั่นก็พลันโชยชายออกมา
เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังทิพย์ที่เข้มข้นปานนี้ ทำให้คนไม่น้อยเริ่มหวั่นไหวใจสั่น
ต่างเผยแววกระหายที่ปิดไม่มิด
ที่แบบนี้ นับได้ว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการบำเพ็ญเซียนอย่างแน่นอน
สำนักหยุนเยว่ถูกสืบสานมาเป็นเวลานานนับไม่ถ้วน เพียงแต่ช่วงระยะเวลาพันปีมานี้ ถึงเพิ่งจะหลุดออกจากตำแหน่งเจ้าเหนือหัวไป ไม่ว่ายังไงก็ย่อมต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้ว
สำนักแบบนี้ มีรากฐานที่หยั่งรากลึกและแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก
ยังไงก็ต้องมีของดีมากจนนับไม่ถ้วนแน่ๆ สำหรับคนอย่างพวกเขา แม้จะได้มาเพียงเล็กน้อย ก็นับว่าบุญโขสุดๆแล้ว
ทว่า ตราบใดที่ยังมีสำนักอริยสัจ สำนักเทียนหยุน ฯลฯ ที่เป็นพวกยอดผู้ทรงอิทธิพลแบบนี้ ยังจะมีส่วนของพวกเขาเหลืออยู่สักที่ไหนกัน?
ค่ายกลถูกทลาย
สองเยว่เองก็พาพวกสามเยว่และห้าเยว่ลอยตัวอยู่เหนืออากาศ
พลันมองไปยังเจ้าสำนักอริยสัจและเจ้าสำนักเทียนหยุนด้วยสีหน้าเคร่งขรึมกว่าเดิม
เจ้าสำนักเทียนหยุนมองไปยังสองเยว่ เอ่ยเสียงเย็นว่า “สหายสองเยว่ ตอนนี้ ยังมีโอกาสกลับใจ หากเธอยอมมอบตัวหลินชางฉองนั่น ทางเราก็จะไม่ลงมือกับผู้บำเพ็ญเซียนของสำนักหยุนเยว่อีก!”
สองเยว่แค่นยิ้มเสียงเย็น เอ่ยว่า “ท่านคิดว่า แค่ทำลายค่ายกลของสำนักเราลงได้ ก็คือคว้าชัยชนะอยู่ในมือแล้วงั้นเหรอ?”
“หากท่านคิดแบบนี้จริงๆ งั้นก็นับว่าช่างไร้เดียงสายิ่งนัก!”
“สำนักหยุนเยว่ของเราสืบสานมาเป็นเวลานานนับไม่ถ้วน รากฐานของเรานั้นไม่ใช่สิ่งที่พวกท่านจะหยั่งถึงได้!”
“ส่วนเรื่องอื่น ก็ไม่จำเป็นต้องมากความอะไรอีก หากอยากจะฆ่าเจ้าพระคุณสำนักเรา ก็ข้ามศพเราไปเสียก่อนเถอะ!”
ทันใดนั้น เจ้าสำนักเทียนหยุนเองก็ปริปากเอ่ยว่า “สหายสองเยว่ พวกเราต่างรู้ดี ว่าสำนักหยุนเยว่ย่อมต้องมีท่าไม้ตายมากกว่านี้อยู่แล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...