บทที่ 1413 โกลาหลวุ่นวาย – ตอนที่ต้องอ่านของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
ตอนนี้ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1413 โกลาหลวุ่นวาย จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ท่านหงกระวนกระวายร้อนใจอย่างมาก จึงได้รวบรวมยอดฝีมือนักบู๊ทั้งหมดเพื่อมาสังหารสัตว์ประหลาดดุร้ายตนนี้ โดยสำนักชางฉอง ที่เป็นสำนักใหญ่อันดับหนึ่งของจีนนั้น แน่นอนว่าจะต้องเข้าร่วมในการศึกครั้งนี้ด้วย
นายท่านหลิน รวมถึงลูกศิษย์ทั้งสองคนของหลินหยุน ก็คือซูหนัน และซูจื่อเหลียง ตลอดจนคาร์นอตวิลเลียม ก็ยังได้นำพายอดฝีมืออีกหลายสิบคน เข้าร่วมการปิดล้อมสังหารครั้งนี้ด้วย
แต่กลับต้องเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บสาหัสกันนับไม่ถ้วน
ยอดฝีมือเกือบร้อยคนเพียงแค่ปะทะซึ่ง ๆ หน้า ก็ต้องเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บสาหัสกันไปกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว
มีเพียงแค่นายท่านหลิน ซูจื่อเหลียง และซูหนันทั้งสามคนนี้ที่เป็นยอดฝีมือพลังบำเพ็ญขั้นแดนยาทองที่ต่างก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ยังเอาชีวิตรอดออกมาได้ แม้แต่คาร์นอตวิลเลียม หากไม่ได้รับการช่วยชีวิตจากซูจื่อเหลียง และซูหนันแล้ว ก็คงจะต้องจบชีวิตลงที่ทะเลหนานไห่แล้ว
แต่การพ่ายแพ้อย่างย่อยยับในครั้งนี้นั้น ได้เกิดความน่าเหลือเชื่อขึ้นอย่างมาก คิดไม่ถึงว่าจะทำให้ ทะเลหนานไห่สงบเงียบลงได้แล้ว
สัตว์ประหลาดดุร้ายตนนั้นได้หายสาบสูญไปแล้ว
แต่ว่าในขณะที่ทุกคนยังไม่ทันได้เฉลิมฉลองกันนั้น ยอดฝีมือที่แข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อก็ปรากฏตัวขึ้น
คนผู้นี้อายุยังน้อย ประมาณยี่สิบหกยี่สิบเจ็ดปีเห็นจะได้ โดยประกาศว่าตนเองชื่อหลงอ้าว
เมื่อปรากฏตัวขึ้นก็มายังสำนักชางฉอง ท้าประลองกับยอดฝีมือของสำนักชางฉอง ซึ่งมีความกำเริบเสิบสาน และเผด็จการเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังประกาศว่าจะยึดครองสำนักชางฉองให้เป็นของตนเองอีกด้วย
นายท่านหลินได้รับบาดเจ็บน้อยที่สุดจากทะเลหนานไห่ซึ่งก็ไม่ปล่อยเหตุการณ์นี้เอาไว้อย่างแน่นอน พร้อมกับลงมือในทันที
แต่ตอนที่ปะทะกับเด็กหนุ่มหลงอ้าวนั้น เพียงกระบวนท่าเดียวก็ต้านทานเอาไว้ไม่อยู่แล้ว จึงได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกครั้ง
จากนั้นซูจื่อเหลียงและซูหนันก็ลงมือพร้อมกัน แต่ก็ยังคงพ่ายแพ้ให้กับเด็กหนุ่มหลงอ้าวนั้น
ทว่า การลงมือในครั้งนี้ทำให้นายท่านหลินและพวกเขานั้นรับรู้เรื่องหนึ่งขึ้น
นั่นก็คือเด็กหนุ่มคนนี้ไม่ใช่คนอื่นไกล ซึ่งก็คือสัตว์ประหลาดดุร้ายที่หลงอ้าวนั้นแปลงกายมานั่นเอง
นายท่านหลินและคนอื่น ๆ ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนต้องระเห็จกลับไปยังทะเลสาบเยว่หยา
อาศัยค่ายกลของทะเลสาบเยว่หยา จึงสามารถอดทนยืนหยัดต่อไปได้อย่างมั่นคง
เวลานี้ ทะเลสาบเยว่หยาได้ถูกปิดล้อมเกือบหนึ่งเดือนแล้ว
หลงอ้าวนั้นก็ยังคงปล่อยพลังโจมตีเข้าใส่ค่ายกลอยู่ทุกวัน
ค่ายกลของทะเลสาบเยว่หยาใกล้จะถึงขั้นพังทลายลงแล้ว
“ตูม----”
“ตูม----”
“ตูม----”
ที่ทะเลสาบเยว่หยา เขาร่างของเด็กหนุ่มคนหนึ่งลอยอยู่ในอากาศ โดยมีท่าทางโมโหเป็นอย่างมาก
ปล่อยพลังอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์เข้าใส่ค่ายกลของทะเลสาบเยว่หยาอย่างไม่หยุดยั้ง
โดยที่ยอดเขาเกิดการสั่นสะเทือนไปทั้งหมด
ค่ายกลก็ยิ่งจะสั่นคลอนอย่างรุนแรงมากขึ้น ถึงขนาดที่ว่าแทบจะพังทลายลงแล้ว
หลงอ้าวดุด่าขึ้นด้วยความโกรธแค้น “ไอ้พวกมดแมลง รอให้ฉันจัดการกับเกราะกำบังนี้ของพวกนายออกเสียก่อน แล้วฉันจะลงมือจัดการกับพวกนายให้ทุกข์ทรมาน เหมือนกับตายทั้งเป็น! ”
เมื่อพูดจบ หลงอ้าวก็ยื่นมืออกมา จับหญิงสาวคนหนึ่งที่ไม่มีพลังบำเพ็ญเอาไว้
แล้วเขาก็อ้าปากกว้าง จับหญิงสาวคนนี้ยัดใส่เข้าไปในปาก
เด็กหนุ่มหญิงสาวนับพันคนที่อยู่ปลายเขาบริเวณทะเลสาบเยว่หยาในเวลานี้ ต่างก็ถูกหลงอ้าวจับตัวมาอยู่ที่ตรงนี้เพื่อกินเป็นอาหาร
มองเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว ผ่านค่ายกล ทุกคนต่างก็โกรธแค้น แต่กลับทำอะไรไม่ได้เลย
เมื่อค่ายกลพังทลายลง พวกเขาเองก็ต้องประสบกับสภาพเช่นเดียวกันกับพวกคนที่อยู่ปลายเขาเหล่านั้น และอาจจะทรมานน่าสงสารมากกว่าเสียด้วย
สีหน้าของทุกคนต่างก็ขาวซีดไปกันหมด โดยที่ทุกสายตาจับจ้องมากันที่นายท่านหลิน
ตอนนี้นายท่านหลินเป็นผู้มีพลังบำเพ็ญสูงที่สุด โดยถึงขั้นยาทองระดับสามแล้ว ซึ่งถือเป็นระดับขั้นสูงสุด
ขั้นแดนนี้ แม้ว่าหลินหยุนเองเห็นแล้วก็คงต้องถึงกับตกใจขึ้นเช่นกัน
สำหรับซูจื่อเหลียงกับซูหนัน ก็ถึงขั้นยาทองระดับสองแล้ว
เวลานี้นายท่านหลิน กลายเป็นบุคคลที่เป็นเสาหลักของทุกคน
ซูจื่อเหลียงพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่ย่ำแย่ว่า “นายท่านหลิน......พวกเรา คงคิดจะทำอะไรไม่ได้อีกแล้วล่ะ คนผู้นี้มีพลังบำเพ็ญที่แข็งแกร่งมากนัก ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่พวกเราจะรับมือได้ ฉันว่า......ต่อให้เป็นอาจารย์ ก็คงจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนผู้นี้เช่นกัน”
หลินหยุนล้ำลึกเกินที่จะคาดการณ์ได้ แต่ก็คงจะเทียบเท่าไม่ได้กับหลงอ้าวผู้นี้
“ที่ฆ่าคนโดยไม่กะพริบตา! ”
“ยิ่งในตอนนี้แล้ว เขาก็ยิ่งจะไม่ปล่อยพวกเราเอาไว้แน่! ”
“หมดหนทาง ทำได้เพียงยืนหยัดได้นานเท่าไรก็เท่านั้นแล้ว! ”
ซูจื่อเหลียงพูดขึ้นว่า “เมื่อพิจารณาจากระดับของค่ายกลนี้แล้ว ฉันว่าคงจะยืนหยัดอยู่ได้อย่างมากก็แค่สามวันแล้ว! พวกเรานั้นไม่เป็นปัญหา อย่างมากที่สุดก็คือตาย แต่ว่า......”
สายตาของเขาจ้องมองไปยังแม่ของหลินหยุน รวมถึงฉินหลานและคนอื่น ๆ
พวกผู้หญิงในครอบครัวเหล่านี้ คงจะมีผลลัพธ์ที่น่าเศร้าสลดมากขนาดไหน
หลงอ้าวนั้น วันหนึ่งต้องกินผู้คนนับร้อยก็ไม่เท่าไร ยังจะต้องมีสัมพันธ์กับหญิงสาวอีกนับร้อย โดยที่ไม่เลือกหน้าด้วย!
พวกหญิงสาววัยแรกแย้ม ต่างก็จะถูกกระทำชำเรา และจากนั้นก็ถูกกลืนกิน ซึ่งตลอดช่วงเวลาดังกล่าวนั้นช่างน่าสยดสยองยิ่งนัก
หลินซื่อเฉิงสูดหายใจลึก และพูดว่า “ถ้าหากค่ายกลพังทลายลงแล้ว พวกเราก็ฆ่าตัวตายกันเถอะ! อย่าได้มีชีวิตรอดจนต้องตกอยู่ภายใต้น้ำมือของปีศาจร้ายตนนี้เด็ดขาด! ”
“......”
ขณะที่ทะเลสาบเยว่หยากำลังตกอยู่ในอันตรายอย่างรุนแรงนั้น
ที่คฤหาสน์ตระกูลเซี่ย
ในโลงศพหินโลงหนึ่ง ได้ปลดปล่อยกลิ่นอายอันทรงพลังขึ้นมาอย่างกะทันหัน
เซี่ยหยู่เวยกับชายชราที่อยู่ด้านหลังเห็นเหตุการณ์ดังนั้น ต่างก็ตื่นเต้นดีใจขึ้นทั้งหมด
ทันใดนั้นก็เห็นว่า โลงศพหินได้เปิดออก ร่างผู้หญิงที่เหี่ยวแห้ง ก็ค่อย ๆ นั่งขึ้นมาจากในโลงศพ
ร่างของผู้หญิงนั้น เต็มไปด้วยกลิ่นอายความตายที่รุนแรง และบนใบหน้าก็เต็มไปด้วยริ้วรอยแผลเป็นของคนตาย
ผ่านไปชั่วครู่ ผู้หญิงก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น
พร้อมกับพลังในสายเลือดก็ปะทุขึ้น
ซึ่งในความว่างเปล่านั้น เหมือนจะเกิดความสัมพันธ์เชื่อมโยงอะไรบางอย่างขึ้นกับเซี่ยหยู่เวย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...