สรุปตอน บทที่ 1414 มุ่งหน้าต่อไป – จากเรื่อง จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่
ตอน บทที่ 1414 มุ่งหน้าต่อไป ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดยนักเขียน จูผาซู่ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
สายตาที่เย็นชาของผู้หญิงนั้นได้จ้องมองไปยังร่างของชายชราที่อยู่ด้านหลังของเซี่ยหยู่เวย พร้อมกับกวักมือเรียก
ชายชรานั้นไม่สามารถที่จะต้านทานได้ จึงถูกผู้หญิงนั้นจับเข้าไปในโลงศพ
เซี่ยหยู่เวยตกใจอย่างมาก จึงรีบพูดขึ้นว่า “ท่านบรรพบุรุษ คนผู้นี้คือคนรับใช้ของฉัน ขอร้องท่านบรรพบุรษอย่าได้ฆ่าเขาเลย! ”
ผู้หญิงนั้นจึงหยุดการกระทำลง และมองไปยังชายชราที่มีสีหน้าขาวซีด พร้อมกับค่อย ๆ ปล่อยมือที่เต็มไปด้วยเส้นเอ็น และรอยแผลเป็นที่น่าสยดสยอง โดยที่ไม่ได้ฆ่าชายชราคนนั้น
ผู้หญิงนั้นมองไปที่เซี่ยหยู่เวย และถอนหายใจ พร้อมกับพูดขึ้นด้วยเสียงที่ไม่น่าฟังอย่างกับกำลังกัดฟันว่า “ผ่านไปเป็นเวลานานเท่าไรแล้ว ตระกูลเซี่ยแห่งนี้ ในที่สุดก็มีผู้บำเพ็ญเซียนถือกำเนิดขึ้นแล้ว ในที่สุดฉันก็รอคอยจนถึงตอนนี้......”
......
ในขณะเดียวกัน
ทางทิศตะวันตก
บริเวณจุดที่ลึกที่สุดของเกาะไร้นามแห่งหนึ่ง ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายคาวเลือด และมืดมิดอย่างที่สุด
ด้วยพลังเลือดลมที่พลุ่งพล่านขึ้นอย่างไร้ที่สิ้นสุด ดวงตาสามเหลี่ยมที่แดงก่ำอย่างที่สุดนั้น ก็ได้ค่อย ๆ ที่จะลืมตาขึ้นแล้ว
ขณะที่ดวงตาคู่นั้นได้ลืมตาขึ้น ทั้งชั้นฟ้าชั้นดินก็เกิดการสั่นสะเทือนขึ้นอย่างรุนแรง
เกาะก็เกิดระเบิดจนแหลกสลาย จมหายลงไปอยู่ใต้น้ำลึกทั้งหมด
ทันใดนั้น เสียงหัวเราะที่น่าสยดสยองก็ดังขึ้น “ฮิฮิฮิฮิฮิ......ในที่สุดฉันก็ออกมาแล้ว เนิ่นนานหลายปีแล้ว ฉันก็สามารถทำลายผนึกนี้ลงได้ และมองเห็นตะวันอีกครั้งหนึ่งแล้ว......”
เงาโลหิตร่างนี้ ค่อย ๆ รวมตัวขึ้นที่กลางอากาศ
เงาร่างไม่ใหญ่ เหมือนจะเป็นคนแคระอย่างไรอย่างนั้น
เขาจ้องมองไปยังทิศตะวันออกด้วยสายตาที่เด็ดขาด และเต็มไปด้วยความเคียดแค้นอย่างที่สุด
“ทิศตะวันออก! ”
“ทิศตะวันออก! ”
“ไอ้พวกหนอนแมลงชั้นต่ำ พวกแกจะต้องกลายเป็นอาหารเลือดของฉัน! ”
“โลกใบนี้ นับตั้งแต่วันนี้ไป ก็จะเป็นของฉันแล้ว! ”
“ฮิฮิฮิฮิ......”
เงาร่างหายวับไป ร่างกายเขาได้กลายร่างเป็นหมอกสีเลือด มุ่งหน้าไปยังทิศตะวันออก
ในขณะที่แห่งนี้เกิดการโกลาหลวุ่นวายอย่างรุนแรงนั้น
ณ ประเทศจีน บริเวณชายฝั่งทะเลของตงไห่ ก็เกิดกระแสน้ำขึ้นน้ำลงอย่างรุนแรง
คลื่นทะเลซัดโหม สูงหลายร้อยเมตร กลืนกินทุกสิ่งทุกอย่าง
ทั่วทั้งทะเลตงไห่จึงเกิดความโกลาหลวุ่นวายขึ้น
แต่ช่วงเวลาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว กลับเกิดขึ้นติดต่อกันไม่นานเท่าไรนัก
ทันใดนั้น เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นแล้ว
พระราชวังที่มีขนาดใหญ่โตมาก ก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นมาจากใต้ท้องทะเลลึก
จากนั้นค่อย ๆ หลุดพ้นจากผืนทะเล และลอยขึ้นสู่ด้านบนอย่างไม่หยุด
ท้ายที่สุดก็ลอยขึ้นไปบนอากาศที่ความสูงเกือบหมื่นเมตร จึงหยุดเคลื่อนไหวลง แล้วก็ลอยค้างอยู่บนอากาศที่ความสูงระดับหมื่นเมตรนั้น
พระราชวังมีสีขาวทั้งหลัง ไม่ได้สวยงามอะไรมากนัก โดยที่ประตูใหญ่ก็ปิดสนิทอยู่
ขณะที่พระราชวังปรากฏขึ้นนั้น ก็ดึงดูดสายตาของมนุษย์ทุกคนในทันที
โดยเฉพาะชาวจีน ผู้ฝึกบู๊จำนวนมากก็ได้รีบเร่งเดินทางมายังตงไห่แห่งนี้
การเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรง จึงทำให้ข่าวสารแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน
เพียงระยะเวลาสั้น ๆ ทุกคนก็รับรู้ได้ทั้งหมดแล้ว
ส่วนหลงอ้าวที่กำลังโจมตีค่ายกลทะเลสาบเยว่หยานั้นก็ตื่นตัวขึ้นในทันที หยุดการโจมตีค่ายกลทะเลสาบเยว่หยาลง และมุ่งหน้าตรงไปยังทิศทางที่ตั้งของทะเลตงไห่
แต่หลายวันผ่านไปหลงอ้าวที่พยายามทำทุกวิถีทางแล้วก็ยังคงไม่สามารถเปิดประตูพระราชวังได้ จึงย้อนกลับมาที่เดิมด้วยความโกรธแค้น และโจมตีค่ายกลฮู่ซานของทะเลสาบเยว่หยาอีกครั้ง
กี่วันมานี้ หลินซื่อเฉิงและคนอื่น ๆ ที่เดิมทีคิดที่จะหลบหนี แต่หลังจากที่ครุ่นคิดไปมาหลายรอบก็ไม่ได้ทำอย่างนั้น เพราะว่าปีศาจหลงอ้าวมีพลังบำเพ็ญที่แข็งแกร่งมากเหลือเกิน
หากต้องการที่จะตามหาพวกเขาให้พบนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย ซึ่งคงจะไม่มีโอกาสหลบหนีไปไหนได้หรอก จึงคิดอยู่ที่ทะเลสาบเยว่หยากันต่อจะดีกว่า
ส่วนหลงอ้าวที่ย้อนกลับมานั้นดูยิ่งจะโกรธแค้นมากขึ้นอย่างชัดเจน ก็เลยโจมตีค่ายกลอย่างไม่หยุด
หลินซื่อเฉิงและคนอื่น ๆ ก็มีสีหน้าที่ย่ำแย่หนักลงอย่างมาก
ในขณะนั้นเอง พระราชวังที่ลอยอยู่ในอากาศนั้น ก็มีเงาโลหิตปรากฏออกมา
เมื่อเห็นพระราชวังหลังนี้ และรับรู้ถึงกลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกมาจากพระราชวังนี้ เลือดลมของเงาโลหิตก็พลุ่งพล่านขึ้น และตื่นเต้นดีใจขึ้นอย่างที่สุด
เธอนั่นเอง!
คือเธอนั่นเอง!
เขาก้าวเดินขึ้นไปบนภูเขา โดยที่ซิงเฟยเดินตามอยู่ด้านหลัง
ลูกศิษย์สำนักอริยสัจนับร้อยคนเห็นดังนั้น ก็เหาะเหินลงมา และรวมพลังกันเป็นค่ายกลกระบี่ขนาดใหญ่ โดยล้อมรอบหลินหยุนและซิงเฟยเอาไว้
หลินหยุนปล่อยหมัดออกไป ค่ายกลกระบี่ก็พังทลายลงทันที ผู้คนนับร้อยต่างก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ส่วนลูกศิษย์จำนวนไม่น้อยที่ยังไม่ถึงขั้นแดนยาทอง ก็ถึงกับเสียชีวิตลงในทันที
แต่หลินหยุนเองก็ไม่ได้ชายตามองดูเลยแม้แต่น้อย มุ่งหน้าเดินขึ้นภูเขาต่อไป
ไม่นาน ลมหายใจอันแข็งแกร่งก็ได้เหาะเหินออกมา โดยที่ด้านหลังมีเงาร่างของยอดฝีมือหลายคน
โดยเป็นยอดฝีมือขั้นยาทองระดับเก้าหนึ่งคน และด้านหลังมียอดฝีมือขั้นยาทองระดับแปดสองคน รมถึงยอดฝีมือขั้นยาทองระดับเจ็ดอีกสี่คน
ยอดฝีมือเหล่านั้นลอยอยู่กลางอากาศ และมองมาที่หลินหยุนด้วยสีหน้าที่หม่นหมอง โดยที่ผู้อาวุโสคนนั้นตะโกนพูดขึ้นว่า “หลินชางฉอง ไอ้ปีศาจช่างหาญกล้าบ้าบิ่นยิ่งนัก คิดไม่ถึงว่าจะกล้าบุกเดี่ยวมายังสำนักอริยสัจของเรา วันนี้ของปีหน้า ก็คือวันเซ่นไหว้ของนาย! ”
ผู้อาวุโสแกว่งแขนขึ้น โดยยอดฝีมือหลายคนที่อยู่ด้านหลังก็ได้แยกตัวกันออกไป ทันใดนั้น ค่ายกลขนาดใหญ่ก็เริ่มขับเคลื่อนขึ้น
หลังจากนั้นพลังกระบี่ที่ทรงพลังไร้เทียมทาน ก็พุ่งเข้าฟาดฟันหลินหยุนในทันที
โดยมีพลังที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าการโจมตีของยอดฝีมือสูงสุดขั้นยาทองระดับเก้าเลย
หลินหยุนปล่อยหมัดออกไป พลังกระบี่ก็แหลกสลายไปทันที
จากนั้นพลังกระบี่ก็พุ่งลงมาจากยอดเขาฟาดฟันใส่หลินหยุนอีกครั้ง
อีกทั้งยังมีพลังควบคุมกดดันที่มองไม่เห็นเพิ่มมาอีกด้วย
หลินหยุนปล่อยหมัดออกไปอีกครั้ง เพื่อทลายพลังกระบี่ จากนั้นก็มุ่งหน้าเดินต่อไป
บนท้องฟ้ากลางอากาศ ผู้อาวุโสแขนเดียวได้ตะโกนขึ้นว่า “หลินชางฉอง ค่ายกระบี่สังหารของสำนักเรานี้ นับตั้งแต่ไหนแต่ไร ก็ยังไม่มีผู้ใดที่สามารถทำลายลงได้ ลำพังแค่นายคิดที่จะทำลายกวาดล้างสำนักอริยสัจ ช่างไม่รู้จักความเป็นความตายเสียจริงเลย! ”
“วันนี้นายจะต้องถูกฝังอยู่ภายในค่ายกลนี้! ”
“นายช่างโอ้อวด ช่างกำเริบเสิบสานมากเกินไปแล้ว! ”
“คิดหรือว่าสำนักอริยสัจของเราจะเกรงกลัวนาย? ”
เมื่อพูดจบ ผู้อาวุโสแขนเดียวก็แกว่งแขนขึ้นอีกครั้ง พลังที่มองไม่เห็นก็แผ่กระจายลงมาจากยอดเขาทันที
ลำแสงปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณปลายเขา
หลินหยุนดวงตาเป็นประกาย มองขึ้นไปเหนือศีรษะ แล้วก็เห็นลำแสงแผ่ปกคลุมลงมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...