จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1415

หลินหยุนเพียงแต่ส่งเสียงฮึอย่างเย็นชาเบา ๆ จากนั้นก็มุ่งหน้าเดินต่อไป

พลังที่แข็งแกร่งไร้เทียมทานเหล่านั้นได้พุ่งกระหน่ำลงเข้าใส่ติดต่อกันอย่างไม่หยุด ซึ่งก็ถูกเขาปล่อยหมัดทำลายลงไปทั้งหมด โดยที่ไม่สามารถขัดขวางเขาในการมุ่งหน้าต่อไปได้

เห็นว่าหลินหยุนมีพลังความสามารถที่แข็งแกร่งมากขนาดนี้ ทุกคนของสำนักอริยสัจ รวมไปถึงผู้อาวุโสแขนเดียวที่ลอยตัวอยู่ในอากาศ ต่างก็พากันตกตะลึง สายตาเต็มไปด้วยอาการที่หวาดกลัว

หลินหยุนช่างแข็งแกร่งทรงพลังมากเหลือเกิน! ถึงขั้นที่ยอดฝีมือขั้นยาทองระดับเก้าไม่มีทางที่จะเทียบเคียงได้แล้ว

เดิมทีผู้อาวุโสแขนเดียวนั้นก็คือยอดฝืมือขั้นยาทองระดับเก้า

สำหรับค่ายกลนี้ของสำนักตนเองนั้น เขาเองก็คุ้นเคยเป็นอย่างมากที่สุด

ถึงต่อให้เป็นเขา ถ้าหากต้องรับมือกับการโจมตีของพลังกระบี่ที่แข็งแกร่งสักสามถึงห้ากระบวนท่า ก็คงจะไม่เป็นปัญหาอะไร

แต่หากเกินสามถึงห้ากระบวนท่าแล้วก็คงจะต้องได้รับบาดเจ็บอย่างแน่นอน

ถ้าเกินสิบกระบวนท่า ย่อมจะประสบกับอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตลงได้ทุกเมื่อ

ส่วนหลินหยุนในตอนนี้แข็งแกร่งไร้เทียมทาน มุ่งหน้าเดินขึ้นเขาไปอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับทำลายการโจมตีของพลังกระบี่ไปสามสิบกว่ากระบวนท่าแล้ว

ในตอนท้ายแม้แต่ระดับความร้ายกาจของพลังกระบี่นั้น ก็เริ่มที่จะลดอานุภาพลงไปบ้างแล้ว

แม้ว่าจะเป็นค่ายกล พลังของมันก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง เป็นเหมือนเดิมอยู่ตลอด ซึ่งก็มีการลดทอนพลังอยู่อย่างต่อเนื่อง

การที่จะเสริมพลัง หรือพึ่งพาอาศัยพลังในตัวของค่ายกลเองนั้น ก็ต้องดึงพลังมาจากชั้นฟ้าชั้นดิน หรือว่าจากใต้ดิน เพื่อมาเติมเต็มให้กับตนของมันเอง

แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไร เมื่อสิ้นเปลืองพลังไปจนถึงระดับหนึ่งแล้ว ก็จำเป็นต้องใช้เวลาในการเพิ่มเติมพลัง

แต่หลินหยุนกลับไม่สนใจอะไรเลย ยังคงมุ่งหน้าเดินต่อไปด้วยสีหน้าท่าทางที่เย็นชา

เห็นว่าเขาใกล้ที่จะถึงบริเวณยอดเขาแล้ว

ผู้อาวุโสแขนเดียวก็มีสีหน้าย่ำแย่อย่างที่สุด พลันตะโกนเสียงดังขึ้นว่า “ค่ายกระบี่สังหาร! ”

เมื่อเขาพูดจบลง พลังของค่ายกลก็ปะทุขึ้นอีกครั้ง จากนั้นร่างรางจำนวนเก้าร่างก็พุ่งตัวกันออกมา

ร่างรางเก้าร่างนี้ ล้วนมีลมหายใจของพลังบำเพ็ญในขั้นยาทองระดับแปดทั้งหมด พร้อมกับได้จัดวางค่ายกลกระบี่บนอากาศในทันที

เมื่อค่ายกลของพวกเขานั้นปรากฏขึ้น ลมหายใจทั้งหมดก็รวมกันเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งแข็งแกร่งไร้เทียมทานอย่างมาก ถึงขั้นที่แอบจะเหนือกว่าหลินหยุนเล็กน้อย

หลินหยุนดวงตาเป็นประกาย ก้าวเดินออกมา พร้อมกับปล่อยหมัดที่ทรงพลังเข้าใส่อีกครั้ง

พลังหมัดโหมกระหน่ำทั่วปฐพี ร่างรางทั้งเก้าร่างนั้นก็แหลกสลายลงไปในทันที

โดยที่ยังไม่ทันจะได้โจมตีอะไรเลย ก็จบชีวิตลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เมื่อร่างรางทั้งเก้านั้นได้แหลกสลายลง พลังทั้งหมดของค่ายกลก็ลดทอนลงอย่างรวดเร็ว

หลินหยุนใช้กระบวนท่าพลิกฟ้าผ่าตะวัน โจมตีไปที่กลางอากาศ ค่ายกลก็แหลกสลายพังครืนลงในทันที

เวลานี้หลินหยุนดุจดั่งเทพสังหาร

หลังจากที่ค่ายกลได้พังทลายลงแล้ว ก็เกิดเสียงร้องโอดครวญทรมานดังขึ้น

ทันใดนั้นเงาร่างของยอดฝีมือที่หายไปก่อนหน้านี้นั้นก็ได้ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง

แรงพลังกดทับที่มองไม่เห็นนั้นก็สูญหายไปโดยทันที

หลินหยุนจับตัวของซิงเฟย แล้วก็เหาะเหินขึ้นไปบนยอดเขาสำนักอริยสัจ

ผู้อาวุโสแขนเดียวผู้นั้นก็ก้าวกระโดดออกมา ขัดขวางอยู่ที่เบื้องหน้าของหลินหยุน!

หลินหยุนมองไปที่ผู้อาวุโสแขนเดียวที่อยู่เบื้องหน้า รวมถึงยอดฝีมือขั้นยาทองระดับแปด และยอดฝีมือขั้นยาทองระดับเจ็ดที่อยู่ด้านหลังของผู้อาวุโสคนนั้น พร้อมกับพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “บอกให้เจ้าสำนักของนายออกมาเถอะ พวกนาย ไม่เพียงพอที่จะคุกคามฉันได้! ฉันไม่ต้องการที่จะพูดพร่ำเพรื่ออะไรอีก! ”

ผู้อาวุโสแขนเดียวรวมถึงยอดฝีมือที่อยู่ด้านหลังนั้นต่างก็มีสีหน้าท่าทางที่ย่ำแย่กันทั้งหมด

เป็นเช่นนั้นจริง เพราะไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหน อยู่ต่อหน้าผู้ใด ก็ถือเป็นยอดฝีมือที่สูงส่ง ต่อให้เผชิญหน้ากับยอดฝีมือขั้นยาทองระดับเก้า แม้ว่าจะเทียบเคียงไม่ได้ แต่ก็ยังสามารถที่จะต่อสู้รับมือได้บ้าง

แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าหลินหยุน เผชิญหน้ากับคำพูดที่กำเริบเสิบสานขนาดนี้ พวกเขากลับไม่มีทางตอบโต้อะไรได้เลย!

เพราะว่าต่อให้พวกเขาพึ่งพาค่ายกลของสำนักแล้ว ก็ยังพ่ายแพ้อย่างราบคาบลงด้วยน้ำมือของหลินหยุน

ผู้อาวุโสแขนเดียวสูดหายใจลึก มองไปที่หลินหยุน และพูดเสียงแข็งขึ้นว่า “หลินชางฉอง นายช่างกำเริบเสิบสานมากเกินไปแล้ว! ก่อนหน้านี้นายเคยได้สังหารลูกศิษย์ของสำนักของเราไปแล้วด้วย ซึ่งลูกศิษย์คนนั้น ยังคือลูกสาวของผู้อาวุโสเสิ่นฉง! ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์