จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1416

สรุปบท บทที่ 1416 พังประตู: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

อ่านสรุป บทที่ 1416 พังประตู จาก จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่

บทที่ บทที่ 1416 พังประตู คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย จูผาซู่ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ไม่นานนัก ทั้งสองคนก็พบเจอกับบ่อน้ำพุทิพย์แห่งหนึ่ง ที่ตาน้ำพุใกล้จะเหือดแห้งแล้ว

ภายในนั้นมีน้ำพุทิพย์ที่มีกระแสน้ำรุนแรง พุ่งออกมาอย่างไม่หยุดและไหลลงไปสู่ลำธาร

เมื่อเห็นบ่อน้ำพุนี้แล้ว ทั้งสองคนต่างก็พากันตกตะลึง

โดยเฉพาะซิงเฟย ที่เบิกตาโพลงขึ้นโดยพลัน เป็นที่น่าเหลือเชื่ออย่างมาก เพราะว่าเธอไม่เคยพบเห็นน้ำพุที่มีพลังทิพย์ที่หนาแน่นมากขนาดนี้มาก่อน

อีกทั้งระดับของความหนาแน่นของพลังทิพย์นี้ เหมือนกับการรวบรวมน้ำชี่ทิพย์จำนวนมากเอาไว้อย่างไรอย่างนั้น ถึงขนาดที่มีความบริสุทธิ์หนาแน่นที่มากกว่าน้ำชี่ทิพย์เสียอีก

แม้ว่าน้ำชี่ทิพย์จะกลั่นขึ้นโดยผู้บำเพ็ญเซียน แต่ภายในนั้นก็ยังคงมีสิ่งเจือปนอยู่อย่างแน่นอน

พูดได้เพียงว่าหากพลังบำเพ็ญยิ่งสูง น้ำชี่ทิพย์ที่กลั่นออกมานั้นก็ยิ่งจะบริสุทธิ์มากขึ้น

แต่ทั้งโลกคุนชางนั้น ก็ยังไม่มีผู้บำเพ็ญเซียนขั้นแดนจิตปฐมเลย

ต่อให้จะบริสุทธิ์มากขนาดไหน ก็ยังคงมีขีดจำกัด

หลินหยุนคาดคิดไม่ถึงว่า ที่จริงแล้วสำนักอริยสัจนี้ไม่ได้ครอบครองเทือกเขาทิพย์ แต่ครอบครองบ่อน้ำพุทิพย์

แต่น่าเสียดายที่น้ำพุทิพย์นี้ใกล้จะเหือดแห้งแล้ว ไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้ว

หลินหยุนแกว่งแขนขึ้น เพื่อเก็บรวบรวมน้ำพุทิพย์ที่ไหลออกมา

น้ำพุทิพย์เหล่านี้เทียบเท่าไม่ได้กับหินทิพย์ แต่ถึงอย่างไรก็ทรงพลังกว่าน้ำชี่ทิพย์มาก

หันหน้ามองไปที่ซิงเฟย และพูดขึ้นว่า “ลงไปกับฉันเถอะ ด้านล่างของตาน้ำพุนี้น่าจะมีหินทิพย์ถือกำเนิดขึ้น”

ซิงเฟยพยักหน้า แล้วก็ตามหลินหยุนไป โดยที่ทั้งสองคนได้ลงไปถึงด้านล่างของตาน้ำพุ แล้วก็มุดเข้าไปในชั้นใต้ดิน

หลินหยุนเองก็คิดไม่ถึงว่า ด้านล่างนี้จะมีชั้นใต้ดินด้วย ซึ่งใช้ดวงจิตสำรวจ และเดินตามเส้นทางชั้นใต้ดินเข้าไป

ในขณะนั้นเอง เจียซินที่อยู่ในหลิไถก็พูดขึ้นว่า “สุดปลายทางด้านหน้านั้นจะมีวิมานแห่งหนึ่ง ที่มีอายุยาวนานแล้ว น่าจะเป็นวิมานในยุคโบราณกาล อีกทั้งภายในยังมีคลื่นพลังที่แข็งแกร่ง ซึ่งต้องระมัดระวังตัวกันเอาไว้ด้วย! ”

หลินหยุนได้ยินดังนั้นก็ดวงตาเป็นประกายขึ้น

ความสามารถของดวงจิตของเขานั้นเทียบเท่าไม่ได้กับของเจียซิน ดังนั้นในหลายครั้งที่เจียซินสามารถรับรู้สัมผัสได้ถึงสิ่งต่าง ๆ แต่เขาเองไม่สามารถทำแบบนั้นได้

กล่าวในระดับหนึ่งได้ว่า เจียซินนั้นถือเป็นเป็นดวงตาของหลินหยุน

หลินหยุนพยักหน้า แล้วก็หันมองไปที่ซิงเฟย และพูดว่า “ระวังตัวด้วยนะ ติดตามอยู่ด้านหลังของฉันอย่าได้ห่าง บางทีด้านหน้าอาจจะมีอันตรายก็ได้! ”

ซิงเฟยพยักหน้า ทั้งสองคนมุ่งหน้าเดินกันต่อไป

ไม่นานนัก ที่สุดปลายทางของชั้นใต้ดิน ก็มีวิมานปรากฏขึ้นด้านหน้าของทั้งสองคน

ด้านบนประตูวิมาน เขียนอักษรโบราณเอาไว้ว่า----อริยสัจ

เมื่อมาถึงด้านหน้าของวิมาน ทุกอย่างก็ยังคงสงบเงียบ โดยที่หลินหยุนเองก็ยังไม่รู้สึกและสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังอะไรเลย

แต่วิกฤตอันตรายที่รุนแรง กลับได้ผุดขึ้นมาในจิตใจของเขา

เจียซินพูดขึ้นว่า “ดวงจิตของคุณเมื่อเปรียบเทียบกับดวงจิตของผู้บำเพ็ญเซียนขั้นยาทองทั่วไปแล้วนั้น มีความแข็งแกร่งเหนือกว่ามากอย่างแน่นอน แต่ยังคงไม่เพียงพอที่จะสามารถรับรู้สภาพภายในของวิมานแห่งนี้ได้”

หลินหยุนพยักหน้า และพูดขึ้นว่า “ฉันสัมผัสไม่ได้ถึงคลื่นพลัง แต่สัมผัสได้ถึงวิกฤตอันตรายอย่างรุนแรง โดยด้านหลังของประตูบานนี้ ภายในนั้นเหมือนจะมีสิ่งที่ทรงพลังอย่างที่สุดอยู่! ”

ในขณะนั้นเอง เจียซินก็พลันพูดขึ้นว่า “แย่แล้ว นี่คือกลิ่นอายของผู้บำเพ็ญแดนจิตปฐม! ด้านในมีผู้บำเพ็ญแดนจิตปฐมอยู่! รีบหนีเร็ว! ”

หลินหยุนสีหน้าเปลี่ยนไปทันที โดยเขายังไม่ทันที่จะเอ่ยปากพูด เจียซินก็พูดต่อว่า “ไม่ถูกต้อง มีคนกำลังบรรลุพลังบำเพ็ญขั้นแดนจิตปฐมอยู่ ซึ่งขาดอีกเพียงแค่ขั้นเดียวแล้ว! ”

ขณะที่พูด เจียซินก็เร่งพูดเร็วขึ้นอีก โดยพูดขึ้นอย่างรีบร้อนว่า “หลินหยุน ตอนนี้มีอยู่สองทางเลือก อย่างแรกคือคุณรีบทำลายประตูบานนี้ และบุกเข้าไปขัดขวางคนด้านในไม่ให้บรรลุสู่ขั้นแดนจิตปฐม! ”

“อีกทางเลือกหนึ่งก็คือ รีบหนีไปโดยเร็ว! ”

“ถ้าหากฉันคาดเดาไม่ผิด คนที่อยู่ภายในที่กำลังบรรลุขั้นพลังอยู่นั้น น่าจะเป็นเจ้าสำนักอริยสัจ! ”

“ถ้าหากคุณขัดขวางไว้ไม่ได้ ก็ต้องรีบหนีไปโดยเร็วที่สุด! ”

“เมื่อเขาบรรลุพลังโดยสมบูรณ์แล้ว ต่อให้คนอย่างนายสิบคนก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาอย่างเด็ดขาด! ”

นี่ถือได้ว่าเป็นการหลุดพ้นจากขอบเขตของโลกมนุษย์ได้อย่างที่สุดแล้ว

หลินหยุนเองก็คาดคิดไม่ถึงว่า จะเกิดเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างน่าตื่นตะลึงอย่างนี้

เมื่อดาบเฮ่าเทียนประกายส่องแสงขึ้น และปรากฏอยู่ในมือของเขาแล้ว พลังบำเพ็ญในร่างกายก็เริ่มขับเคลื่อนขึ้น และพุ่งเข้าไปฟาดฟันที่ประตูหินของวิมานนั้นในทันที

ประตูหินสั่นสะเทือน แต่ก็ยังไม่พังทลายลง

หลินหยุนรีบฟาดฟันเข้าใส่อีกเป็นครั้งที่สองในทันที

หลังจากที่ฟาดฟันใส่แล้ว ในที่สุดประตูหินก็พังทลายลงแล้ว

พลังทิพย์ก็กระจัดกระจายออกมาเป็นจำนวนมาก

จากนั้นก็พบว่า เวลานี้ด้านในของวิมานมีบ่อน้ำแห่งหนึ่ง

โดยท่ามกลางบ่อน้ำนั้นมีเงาร่างของคนผู้หนึ่ง ซึ่งเป็นเงาร่างที่ขยายใหญ่อย่างมาก นั่นก็คือเจ้าสำนักอริยสัจ

เจ้าสำนักอริยสัจในเวลานี้เหมือนกับเป็นลูกบอลที่ถูกเป่าลมใส่เข้าไปด้านในอย่างไรอย่างนั้น

โดยกำลังนั่งอยู่ในบ่อน้ำ มีลมหายใจยิ่งใหญ่มหาศาล นั่นคือลมหายใจที่สูงขึ้นอีกระดับขั้นหนึ่ง

ผิวหนังของเขาแทบจะกลายเป็นหยกขาวใสแล้ว

เดิมทีผิวหนังของเขาเหี่ยวแห้งหย่อนยาน ตอนนี้กลับกลายเป็นกระจ่างสดใส เพราะได้รับการชำระล้างจากน้ำในบ่ออย่างไม่หยุด และยังจะดูดซับแรงพลังอย่างยิ่งใหญ่จากน้ำในบ่อนั้นอย่างต่อเนื่องด้วย

ด้านบนเหนือศีรษะของเขา มีคนร่างเล็กขนาดประมาณสามนิ้วอยู่หนึ่งคน ซึ่งมีลักษณะเหมือนกับเจ้าสำนักอริยสัจอย่างไรอย่างนั้น และในตอนนี้ก็กำลังปิดตาสองข้างลงอย่างสนิท

คนร่างเล็กผู้นี้ราวกับว่ากลายเป็นจุดศูนย์กลางของทั่วทั้งวิมานไปแล้ว

เมื่อประตูวิมานถูกทำลายลง ขณะที่หลินหยุนกับซิงเฟยเดินเข้ามาด้านใน คนร่างเล็กนั้นก็ลืมตาขึ้นในทันที พร้อมกับปล่อยลำแสงศักดิ์สิทธิ์ออกมา ซึ่งสว่างเจิดจ้าอย่างที่สุด

และในเวลานี้เองเจ้าสำนักอริยสัจที่นั่งอยู่กลางบ่อน้ำก็ลืมตาขึ้น และได้จ้องมองมาที่หลินหยุน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์