สรุปเนื้อหา บทที่ 1417 เป็นสุนัขของฉัน – จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่
บท บทที่ 1417 เป็นสุนัขของฉัน ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จูผาซู่ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
เจ้าสำนักอริยสัจหัวเราะดังลั่นและพูดขึ้นว่า “หลินชางฉอง ในที่สุดนายก็มาแล้ว แต่นายคงจะคิดไม่ถึงว่า ฉันได้บรรลุขั้นเข้าสู่แดนจิตปฐมตามตำนานที่ร่ำลือแล้วล่ะสิ! ”
“จิตปฐม! ”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ในที่สุดฉันก็ทำสำเร็จแล้ว! ”
“ฉันได้กลายเป็นคนแรกในโลกคุนชาง นับตั้งแต่ช่วงเวลาที่ผ่านมาอย่างยาวนาน! ”
“จิตปฐม ฉันทำสำเร็จแล้ว! ”
“ที่จริงแล้วโลกชั้นนี้มีลักษณะอย่างนี้นี่เอง! ”
“หลินชางฉอง ตอนนี้นายยังคิดที่จะลงมือจัดการฉันอีกไหม? ”
“นายคือผู้เก่งกาจไร้เทียมทาน นายแข็งแกร่งอย่างมาก หรือพูดได้ว่า ภายในขั้นแดนยาทองนั้น ไม่มีผู้ใดที่จะเป็นคู่ต่อกรของนายได้! ”
“ฉันเองก็ไม่ได้! ”
“แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว! ”
“ฉันบรรลุขั้นแดนจิตปฐมแล้ว ซึ่งนายไม่สามารถมาเปรียบเทียบได้เลย! ”
“นายในตอนนี้ ในสายตาของฉันแล้ว ก็ไม่ต่างอะไรกับพวกมดแมลง! ”
“ถ้าตอนนี้นายคุกเข่าลงต่อหน้าฉัน และขอร้องให้ฉันปล่อยชีวิตนายไป เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ที่ฉันกำลังจะกลายเป็นผู้เก่งกาจที่ยิ่งใหญ่ของโลกคุนชางแล้ว บางทีฉันอาจจะไว้ชีวิตนายก็เป็นได้! ”
“แต่ถ้าหากนายยังคงดื้อดึงอยู่อย่างนี้ ฉันเองก็คงจะต้องเหยียบย่ำนายให้จบชีวิตลงดั่งเช่นเหยี่ยบย่ำมดอย่างไรอย่างนั้น! ”
“สถานการณ์แข็งแกร่งเหนือกว่าตัวบุคคล! ”
“หลินชางฉอง นี่คือโอกาสเพียงครั้งเดียวที่ฉันให้กับนาย! หวังว่านายจะรับมันเอาไว้! คุกเข่าลงเถอะ! ”
“กลายเป็นสุนัขต่อหน้าของฉัน นี่คือโชคดีของนายแล้ว! ”
เมื่อเจ้าสำนักอริยสัจพูดจบลง เจียซินที่อยู่ในหลิไถก็พูดขึ้นอย่างรีบเร่งว่า
“อย่าไปสนใจคำพูดของเขา เขาต้องการที่จะยืดเยื้อประวิงเวลาให้กับตัวเขาเอง เขาอยู่ไม่ไกลจากขั้นสุดท้ายแล้ว ใกล้ที่จะสำเร็จแล้ว! ”
"สังหารเขาซะ! "
ที่จริงแล้วไม่จำเป็นต้องให้เจียซินกล่าวเตือนเลย หลินหยุนเองก็เข้าใจสถานการณ์ตอนนี้ของเจ้าสำนักอริยสัจได้อย่างชัดเจน
ก่อนหน้านี้ไม่ได้เห็นก็ถือว่าไม่เป็นไร แต่ตอนนี้อยู่ที่ตรงหน้า เห็นกับตาของตนเองแล้ว เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเกิดอะไรขึ้น
อย่าลืมนะว่า หลินหยุนในชาติที่แล้วก็ก้าวหน้าทีละขั้นทีละขั้น จนกลายเป็นมหากษัตริย์!
หลินหยุนไม่พูดอะไร พลันใช้ดาบฟาดฟันเข้าใส่เจ้าสำนักอริยสัจที่อยู่ในบ่อน้ำโดยทันที
เจ้าสำนักอริยสัจสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก พร้อมกับปล่อยพลังฝ่ามือออกมาโดยพลัน
“ตูม......”
เกิดเสียงระเบิดดังลั่น น้ำในบ่อพวยพุ่ง และกระเด็นออกมาทั้งหมด
เมื่อสูญเสียการบำรุงหล่อเลี้ยงและชำระล้างจากน้ำในบ่อแล้ว เจ้าสำนักอริยสัจที่เดิมทีมีร่างกายพองโตราวกับบอลลูน ก็เหี่ยวแห้งลงไปอย่างรวดเร็ว
เจ้าสำนักอริยสัจโมโหอย่างมาก ตวาดเสียงแข็งใส่ว่า “หลินชางฉอง นายกำลังรนหาที่ตาย! นายกำลังหารนที่ตาย! นายคิดว่าทำแบบนี้จะสามารถหยุดยั้งฉันได้อย่างนั้นเหรอ? ดีเลย ฉันก็จะไม่บำเพ็ญไปจนถึงขั้นสุดท้ายก่อน โดยจะต้องหันมาสังหารนายให้ได้เสียก่อน! ”
เจ้าสำนักอริยสัจเงยหน้าขึ้น อ้าปากกว้างแล้วทำการดูด คนร่างเล็กที่รูปร่างเหมือนกับเขาที่อยู่เหนือศีรษะของเขานั้นก็ถูกดูดกลืนเข้าไปในปาก แล้วเข้าไปอยู่ภายในโลกกำลังภายในตัวของเขา
แต่เห็นได้ชัดว่าโลกกำลังภายในตัวของเขานั้นยังไม่สำเร็จสมบูรณ์ดี
เมื่อคนร่างเล็กเข้าสู่โลกกำลังภายในตัวแล้ว ลมหายใจในร่างกายของเขาไม่สามารถที่จะควบคุมให้มั่นคงได้ โดยที่ร่างกายได้มีการปลี่ยนสีไปมาอยู่ตลอดเวลา
นี่แสดงว่าพลังยังเปลี่ยนแปลงไม่สำเร็จโดยสมบูรณ์ อีกทั้งยังไม่ได้รับการควบคุมที่มั่นคงมากพอ
แต่ว่า ลมหายใจที่ปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของเขานั้น ช่างแข็งแกร่งไร้เทียมทานมากทีเดียว
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างเขาในช่วงก่อนหน้านี้กับในตอนนี้แล้ว ช่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
สายตาของหลินหยุน จ้องมองไปยังฝ่ายตรงข้าม เจ้าสำนักอริยสัจยิ้มเยาะอย่างเย็นชา และพูดขึ้นอย่างเหยียดหยามว่า “หลินชางฉอง นายสังหารลูกสาวของฉันก่อน จากนั้นก็สังหารคนรักของฉัน และยังจะสังหารศิษย์น้องร่วมสำนักของฉันอีกด้วย! ”
“ฉันมีเหตุผลมากมายที่จะสังหารนาย! แต่ว่า ฉันมีจิตใจที่รักในผู้ที่มีความสามารถ! ฉันเห็นคุณค่าให้ความสำคัญกับตัวนายที่เป็นผู้เก่งกาจไร้เทียมทาน! จึงจะให้โอกาสกับนายอีกเป็นครั้งสุดท้าย! ”
“ยอมจำนนต่อฉันแต่โดยดี เป็นสุนัขของฉัน พร้อมกับมอบวิชาสืบทอดของนายทั้งหมดออกมา ฉันก็จะให้โอกาสไว้ชีวิตนายอีกครั้ง! ซึ่งนี่เป็นโอกาสครั้งสุดท้ายของนายแล้ว! ”
“หากนายยังคงปฏิเสธ ฉันเองก็จะไม่เกรงใจอะไรอีกต่อไปแล้ว! ”
“หรือนายคิดว่า หากนายไม่ยอมมอบวิชาสืบทอดออกมา ฉันก็จะไม่มีวิธีจัดการกับนายได้แล้วอย่างนั้นเหรอ? ”
“เหอะเหอะ นายช่างไร้เดียงสายิ่งนัก! ”
“ฉันเคยพูดเอาไว้แล้วว่า แดนจิตปฐม ไม่ใช่มดแมลงอย่างนายจะสามารถจินตนาการได้! ”
“หลังจากที่นายตายไปแล้ว ฉันสามารถที่จะอาศัยร่างผู้บำเพ็ญเซียนแดนจิตปฐมนี้แล้วใช้วิชาเสาะขวัญ เพื่อค้นหาสิ่งของที่ต้องการภายในความทรงจำของนาย! ”
“แน่นอนว่า วิธีการดังกล่าวนี้มีผลเสียอยู่บ้าง ฉันจึงไม่อยากที่จะใช้! ”
“แต่ นายจะต้องมองและไตร่ตรองสถานการณ์ตรงหน้าให้ชัดเจน”
“ฉันพูดเพียงเท่านี้ หลินชางฉอง ทำการตัดสินใจเถอะ! ”
หลินหยุนสายตาเยือกเย็น มองไปที่เจ้าสำนักอริยสัจ และพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า “นายพูดมากเกินไปแล้ว! ”
เจ้าสำนักอริยสัจสีหน้าหม่นหมองลงทันที ขมวดคิ้วและตวาดขึ้นว่า “นายพูดว่าอะไรนะ? ”
หลินหยุนส่งเสียงฮึและพูดขึ้นว่า “ฉันบอกว่านายพูดมากเกินไปแล้ว! ”
เจ้าสำนักอริยสัจตวาดขึ้นด้วยความโมโห “ดีมาก หลินชางฉอง งั้นนายก็ไปตายซะเถอะ! ”
เมื่อพูดจบ นิ้วมือของเจ้าสำนักอริยสัจก็แหลมคมขึ้นดุจดั่งมีด จากนั้นก็กวัดแกว่งแขนออกไป ลำแสงเยือกเย็นอันน่าสะพรึงกลัวก็เป็นประกายขึ้น ราวกับว่าชั้นอากาศได้ถูกทำลายลง และกลืนกินมาทางด้านของหลินหยุน
ในขณะนั้นเอง ผู้อาวุโสแขนเดียวและคนอื่น ๆ ก็มาถึงกันทั้งหมดแล้ว โดยไม่ได้คำนึงแม้แต่น้อยว่าดินแดนแห่งนี้เป็นสถานที่ต้องห้ามของสำนัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...