บทที่ 1418 จบสิ้น – ตอนที่ต้องอ่านของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
ตอนนี้ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1418 จบสิ้น จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
มองเห็นสองคนที่อยู่กลางอากาศ โดยเฉพาะเจ้าสำนักอริยสัจที่มีอายุเพียงยี่สิบกว่าปี และมีลมหายใจที่น่าสะพรึงกลัวอย่างมาก ราวกับคนบนสรวงสวรรค์
ผู้อาวุโสแขนเดียวและคนอื่น ๆ ก็พลันเบิกตาโพลง เลือดลมในร่างกายพลุ่งพล่านไปทั้งหมด
"สวรรค์คุ้มครองและประทานพรต่อสำนักอริยสัจของเรา! "
"สวรรค์คุ้มครองและประทานพรต่อสำนักอริยสัจของเราจริง ๆ! "
"เจ้าสำนักทำสำเร็จแล้ว! "
"เจ้าสำนักทำสำเร็จแล้วจริง ๆ ด้วย! "
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า น่าเหลือเชื่ออย่างมากเลยทีเดียว! "
"สำนักของเรารอคอยมานานหลายปี ในที่สุดก็ทำสำเร็จแล้ว จิตปฐม! พลังบำเพ็ญขั้นแดนจิตปฐมจริง ๆ ด้วย! "
"นับตั้งแต่วันนี้ไป สำนักอริยสัจของเราไม่ใช่ว่าผู้ใดก็จะสามารถมาหยุดยั้งขัดขวางได้อีกแล้ว! "
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! "
ในขณะนั้นเอง ดาบเฮ่าเทียนในมือของหลินหยุนก็เปล่งแสงขึ้น และก้าวกระโดดขึ้นไปบนอากาศ ทันใดนั้นเงาร่างของเซียนก็ปรากฏขึ้น
เงาร่างเซียนสูงตระหง่านค้ำฟ้า ลมหายใจแข็งแกร่งไร้เทียมทาน และถือดาบยักษ์อยู่ในมือ
ดาบทะลุสวรรค์ ทิ่มแทงออกไป
แต่ภายใต้การดูดกลืนของพลังลำแสงมีดอย่างไร้ที่สิ้นสุดของเจ้าสำนักอริยสัจนั้น ไม่เพียงแต่ลำแสงกระบี่จะถูกทำลายลงไป แม้แต่เงาร่างของเซียนก็ยังถูกลำแสงมีดฟาดฟันจนแหลกสลายไปด้วยเช่นกัน
เงาร่างของเซียนบนอากาศนั้นได้สูญหายไปจนหมดแล้ว
ร่างกายของหลินหยุนที่เต็มไปด้วยเลือดได้ปรากฏขึ้น
นี่ถือเป็นครั้งแรก ที่แม้แต่ดาบทะลุสวรรค์ก็ยังคงถูกทำลายลง
ขนาดในชาติที่แล้ว หลินหยุนก็ยังไม่เคยประสบกับสถานการณ์แบบนี้เลย
หลินหยุนในเวลานี้มีสีหน้าที่ขาวซีดอย่างที่สุด
ชุดคลุมยาวสีขาวได้ถูกย้อมด้วยเลือดสีแดงสดไปทั่วทั้งร่างกาย และยังมีเลือดไหลหยดออกมาอย่างไม่หยุดอีกด้วย
ส่วนอีกฝั่งหนึ่ง เจ้าสำนักอริยสัจที่อยู่กลางอากาศ กลับสงบนิ่งดั่งภูเขา โดยที่พลังทิพย์เกิดผันผวนเล็กน้อยจากการถูกพลังของเขากดทับในช่วงก่อนหน้านี้ แต่เวลานี้กลับมาพลุ่งหล่านเหมือนเดิมขึ้นอีกครั้งแล้ว
เพราะว่าร่างกายที่สะอาดสดใสดั่งหยกนั้น ได้ปรากฏสีต่าง ๆ ขึ้นมาอีกแล้ว
หลินหยุนไอจามเบา ๆ จากนั้นก็เช็ดเลือดที่มุมปาก
แต่เมื่อเช็ดแล้วก็ยังมีเลือดไหลออกมาจากปากอยู่ดี
หลินหยุนก็ไม่ได้ไปสนใจอะไรอีกแล้ว
สายตาของเขาจ้องมองไปที่ร่างของเจ้าสำนักอริยสัจอีกครั้ง
เจ้าสำนักอริยสัจเองก็ตื่นตกใจ เพราะอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ที่ทรงพลังไร้เทียมทานของเขานั้น สูงส่งเหนือกว่าขั้นแดนยาทองไปแล้ว แต่คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าหลินหยุนจะสามารถต้านทานเอาไว้ได้
เจ้าสำนักอริยสัจหัวเราะเยาะ “หลินชางฉอง แสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ที่ทรงพลังที่สุดของนายออกมาเถอะ บางทีอาจจะสามารถรับมือต่อกรกับฉันได้บ้าง ไม่อย่างนั้น นายจะต้องถูกฉันทำร้ายบดขยี้จนตายไปเลยทีเดียว! ”
หลินหยุนยังคงมีสีหน้าท่าทางที่ไร้อารมณ์ไร้ความรู้สึก แววตามุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวอย่างที่สุด พร้อมกับมองไปยังเจ้าสำนักอริยสัจและพูดขึ้นว่า “นายกำลังทำให้ฉันต้องเสียเวลา”
เจ้าสำนักอริยสัจแววตาเคร่งขรึม ขมวดคิ้วและพูดขึ้นว่า “อะไรนะ? ”
หลินหยุนส่ายศีรษะเล็กน้อย และถอนหายใจ ทันใดนั้นกลิ่นอายทั่วทั้งชั้นฟ้าชั้นดินก็พลันเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ท้องฟ้าปรากฏสีเหลืองทองขึ้นทั้งหมด
นี่คือสีสันของฤดูใบไม้ร่วง
ฤดูใบไม้ร่วง
สภาพบรรยากาศที่วังเวง
ร่วงสังหาร!
สีเหลืองทองอร่ามทั่วท้องฟ้า คือสภาพบรรยากาศของฤดูใบไม้ร่วง
เจตนาสังหารที่แผ่กระจายไปทั่ว ก็คือความอาฆาตแค้นของฤดูใบไม้ร่วง
นี่คืออิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ขั้นสูงสุดของหลินหยุน
ขณะที่สีเหลืองทองบนท้องฟ้า และความอาฆาตแค้นค่อย ๆ ปรากฏขึ้น เจตนาสังหารก็แผ่กระจายไปทั่ว ทำให้สีหน้าของเจ้าสำนักอริยสัจเปลี่ยนไปอย่างมาก
เขารับรู้ได้ถึงกลิ่นของความตาย
เมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายนี้ สัมผัสได้ถึงเจตนาสังหารที่รุนแรงนี้ ดวงตาของเจ้าสำนักอริยสัจก็ราวกับเกิดคลื่นยักษ์ซัดโหมเข้าใส่ เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ เขามองไปยังหลินหยุนพร้อมกับตวาดเสียงแข็งว่า “เป็นไปได้อย่างไร? นี่คืออิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์อะไรกัน? ทำไมถึงได้ทรงพลังไร้เทียมทานขนาดนี้? ”
“อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์นี้ พลังอานุภาพขนาดนี้ เป็นไปไม่ได้เลยที่มดแมลงอย่างนายที่มีพลังบำเพ็ญขั้นยาทองจะแสดงออกมาได้! ”
“นายทำได้อย่างไรกัน? ”
เจ้าสำนักอริยสัจ เสียชีวิตลง พร้อมกับความอาฆาตแค้นอย่างไร้ที่สิ้นสุด
เมื่อเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว ผู้อาวุโสแขนเดียวและคนอื่น ๆ ก็รีบหลบหนีกันอย่างบ้าคลั่ง โดยที่ไม่มีการหยุดพักแต่อย่างได
ช่างน่ากลัวยิ่งนัก
เจ้าสำนักของพวกเขาเข้าสู่ขั้นแดนจิตปฐมอย่างแท้จริงแล้ว แต่ก็คาดคิดไม่ถึงว่า จะจบชีวิตลงภายใต้น้ำมือของหลินหยุน
ช่างน่าเหลือเชื่อเป็นอย่างมาก!
หลินชางฉองคงจะเป็นเทพปีศาจที่ลงมาจุติยังโลกอย่างแน่นอน!
เวลานี้ ไม่เพียงแต่พวกผู้อาวุโสแขนเดียวเท่านั้น แม้แต่ซิงเฟยและเจียซินที่อยู่ในหลิไถต่างก็ตกตะลึงอย่างมากทีเดียว โดยเฉพาะเจียซิน
ที่จริงแล้วซิงเฟยยังไม่รับรู้และเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ว่าขั้นแดนจิตปฐมนั้นมีความน่ากลัวเพียงใด แต่เจียซินนั้นเข้าใจอย่างชัดเจน
สิ่งที่ทำให้เธอตกตะลึงก็คือ อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ร่วงสังหารที่หลินหยุนได้แสดงออกมา
นี่คืออิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ที่แข็งแกร่งอย่างที่สุดที่เธอเองก็ไม่เคยพบเห็นมาก่อน
ต่อให้ตอนที่เผ่าสาปฟ้าของพวกเธอยังไม่ได้มาที่โลกมนุษย์ และยังไม่ได้ออกมาจากโลกเทพสาป เธอเองก็ยังไม่เคยพบเห็นอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ที่มีความน่าสะพรึงกลัวแบบนี้มาก่อนเลย
ในเวลานี้ นอกจากความตื่นตะลึงแล้ว เธอเองก็ยังรู้สึกหวาดกลัวขึ้นด้วย
สำหรับประวัติความเป็นมาของหลินหยุน เธอก็ยิ่งแปลกใจมากขึ้นไปอีก
จากการที่หลินหยุนเข้าใจบรรดาโลกทั้งหลาย จากการที่เขาสามารถหลอมยาทองระดับเทพ จากการที่เขาสามารถแสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ที่เรียกได้ว่าไร้เทียมทานแต่ละอย่างแต่ละอย่างออกมาได้นั้น ก็เพียงพอที่จะบอกได้ว่าหลินหยุนมีความลับปกปิดที่น่าสะพรึงกลัวอย่างมาก อีกทั้งยังมีประวัติความเป็นมาที่ไม่ธรรมดาอีกด้วย!
ตอนนี้เธอเริ่มที่จะดีใจขึ้นบ้างแล้ว เพราะว่าตอนนั้นเธอเองได้เลือกที่จะทำการแลกเปลี่ยนข้อตกลงกับหลินหยุน
ช่างน่ากลัวมากเหลือเกิน!
ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ เผ่าสาปฟ้าได้ผจญภัยไปยังหมื่นจักรวาล เธอเคยพบเจอกับอัจริยะผู้เก่งกาจมาแล้วจำนวนมาก แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าของหลินหยุนแล้วก็ไม่คู่ควรที่จะกล่าวถึงเลย
หลินหยุนไม่รู้ว่าเวลานี้เจียซินกำลังคิดอะไรอยู่อย่างเงียบ ๆ หลินหยุนที่ผมขาวโพลนไปทั้งศีรษะ ร่างกายชราภาพอย่างที่สุด ได้ยื่นมือออกไป จับตัวของผู้อาวุโสแขนเดียวที่กำลังหลบหนีนั้นเอาไว้
ผู้อาวุโสแขนเดียวสั่นไหวไปทั้งร่างกาย ถึงขนาดที่ไม่กล้าสบตามองหลินหยุน
หลินหยุนพูดขึ้นอย่างอ่อนแรงว่า “นำสมบัติล้ำค่าของนายออกมาให้หมด เพื่อซื้อชีวิตของนาย! ”
ผู้อาวุโสแขนเดียวหวาดกลัวอย่างที่สุด พร้อมกับพยักหน้าตอบรับไม่หยุด และอีกไม่นาน ก็ได้นำแหวนเก็บของออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...