หลินหยุนยื่นมือออกมารับ และใช้ดวงจิตสำรวจ ซึ่งภายในแหวนเก็บของไม่มีสิ่งต้องห้ามอะไร
ภายในมีหินทิพย์จำนวนนับร้อยก้อน ซึ่งเป็นหินทิพย์ชั้นกลางทั้งหมด และยังมีวัสดุที่ใช้ในการหลอมของวิเศษอีกไม่น้อย ระดับชั้นก็ไม่ถือว่าไม่ต่ำเกินไปนัก รวมถึงยังมีอาวุธชิ้นหนึ่งที่สามารถใช้หลอมเครื่องรางทิพย์ชั้นยอดได้
นอกจากนี้ ยังมีหญ้าทิพย์ที่ใช้กลั่นยาอีกจำนวนไม่น้อย ซึ่งในจำนวนนั้นมีบางต้นที่ระดับชั้นไม่ต่ำมาก ซึ่งถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว
แต่การที่เป็นถึงสำนักแห่งหนึ่ง โดยเฉพาะสำนักแห่งนี้คือสำนักอริยสัจที่เป็นถึงสำนักที่มีอิทธิพลอำนาจอันดับหนึ่งของโลกคุนชาง ก็ถือว่ายังมีจำนวนสมบัติที่น้อย
หลินหยุนมองไปที่ผู้อาวุโสแขนเดียว และพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “ฉันไม่อยากเสียเวลา อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อ หรือว่าอยากจะจบชีวิตลง? ”
ผู้อาวุโสแขนเดียวมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปทันที เกิดความหวาดกลัวจนร่างกายสั่นไหวไปหมด และพูดซ้ำ ๆ ว่า “อย่าได้โมโหไป กรุณาฟังฉันอธิบายก่อน ครั้งนี้เป็นเพราะว่าเจ้าสำนักของเราได้ทำการบรรลุขั้นแดน จึงสิ้นเปลืองสมบัติที่สะสมของสำนักไปเป็นจำนวนมาก! ”
“ดังนั้นตอนนี้ที่สามารถนำออกมาได้ก็มีเพียงเท่านี้แล้ว! ”
“ถ้าหากว่านายไม่เชื่อ ก็สามารถที่จะไปค้นหาได้ทั่วทั้งสำนักเลย! ”
“ฉันไม่กล้าที่จะโกหกแม้แต่น้อย! ”
หลินหยุนพยักหน้า และพูดว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เรื่องนี้ก็เอาไว้เพียงเท่านี้ก่อน สำหรับผู้หญิงคนนี้นับตั้งแต่วันนี้ไป จะให้อยู่บำเพ็ญฝึกฝนที่สำนักอริยสัจ โดยให้นายเป็นผู้ปกป้องดูแล ถ้าหากมีอะไรผิดพลาด ในโลกคุนชางนี้ จะไม่มีที่อยู่ของนายอีกต่อไป! ”
ขณะที่พูด หลินหยุนก็มองขึ้นไปบนท้องฟ้า แล้วก็หันมองไปที่ซิงเฟยและพูดว่า “ฉันมีธุระที่จะต้องรีบไปจัดการ เธอไม่เหมาะสมที่จะเดินทางไปด้วย จึงต้องอยู่บำเพ็ญฝึกฝนที่นี่ไปก่อนแล้วกัน! ”
ซิงเฟยได้ยินดังนั้น ก็รีบส่ายศีรษะและพูดขึ้นว่า “ไม่ ฉันจะเดินทางไปกับนายด้วย! นายจะไปที่ไหน ฉันก็จะตามไปที่นั่นด้วย! ”
หลินหยุนพูดขึ้นว่า “เธอไม่เหมาะสมที่จะตามไปจริง ๆ ฉันเร่งรีบ ต้องขอตัวไปก่อนแล้วกัน! คาดว่าอีกไม่นาน ฉันก็จะกลับมา! ”
เมื่อพูดจบ หลินหยุนก็กระโดดขึ้นไปบนอากาศโดยที่ไม่สนใจอาการบาดเจ็บอะไรของตนเองเลย
ด้านหลังมีเสียงดุด่าที่โมโหของซิงเฟยดังขึ้น แต่หลินหยุนก็ไม่ได้หยุดฝีเท้าลงแม้แต่น้อย
ออกจากสำนักอริยสัจ และมุ่งหน้าไปยังทิศใต้อย่างรวดเร็ว
เวลานี้หลินหยุนกระวนกระวายใจอย่างมาก เพราะความรู้สึกที่อึดอัดในจิตใจ ยิ่งจะเพิ่มความรุนแรงมากขึ้นแล้ว
หลายวันผ่านไป ในที่สุดหลินหยุนก็มาถึงที่หุบเขาแห่งนั้นแล้ว
บนท้องฟ้า มองไม่เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงอะไร ซึ่งเหมือนกับตอนแรกที่เขามาถึงอย่างไรอย่างนั้น
แต่หลินหยุนก็ยังพบเจอกับช่องรอยแยกนั้นที่เขาได้ทำการปิดผนึกเอาไว้
โลกคุนชางคือโลกที่ไร้รูปร่างลักษณะ รอบนอกของโลกมีสีดำมืดมิดปกคลุมทั้งหมด โดยที่มองไม่เห็นอะไรเลย แต่พลังผนึกนี้มีความทรงพลังแข็งแกร่งอย่างมาก
ไม่ต้องพูดว่าในโลกคุนชางมีผู้บำเพ็ญเซียนขั้นยาทอง ต่อให้มีผู้บำเพ็ญเซียนขั้นจิตปฐม หรือยอดฝีมือที่เหนือกว่า ก็ไม่มีผู้ใดที่จะสามารถทำลายพลังผนึกที่แข็งแกร่งนี้ลงได้
หลินหยุนแกว่งแขนขึ้น ช่องรอยแยกนั้นก็ปรากฏขึ้นทันที
ร่างของหลินหยุนกะพริบหายวับเข้าไปในช่องรอยแยกนั้น
วินาทีถัดมา เขาก็ปรากฏตัวขึ้นที่กลางหุบเขาใกล้กับเขาคุนชาง แล้วก็หันหลังกลับมาปิดผนึกช่องรอยแยกนั้น
หลินหยุนกระโดดลอยขึ้นกลางอากาศ แล้วก็มุ่งหน้าไปที่ทะเลสาบเยว่หยาในทันที
หากบอกว่าสำนักชางฉองเกิดเรื่องขึ้นแล้ว ถ้าอย่างนั้นพวกคุณปู่ก็คงจะต้องกลับไปที่ทะเลสาบเยว่หยาอย่างแน่นอน
ดังนั้นหลินหยุนจึงไม่จำเป็นต้องไปยังสถานที่อื่น มุ่งหน้าตรงไปที่ทะเลสาบเยว่หยาได้เลย
แต่ในเวลานี้หลินหยุนเองก็ยังคงวิตกกังวล และกระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก
ครึ่งวันผ่านไป ที่ปลายเขาของทะเลสาบเยว่หยา หลินหยุนก็ลอยลงมาสู่พื้นดิน
ปลายเขาของทะเลสาบเยว่หยา ยุ่งเหยิงอลหม่านกันไปทั้งหมด มีซากศพจำนวนนับไม่ถ้วน พร้อมกับมีเลือดนองกระจายอยู่ทั่วไปหมด
หากจะใช้คำว่าเลือดนองเป็นแม่น้ำมาบรรยายสภาพที่เกิดขึ้นนี้ก็คงไม่เกินเลยไปนัก
มองไปที่ยอดเขา ก็พบว่าอยู่ในสภาพที่เปลี่ยนไปจากเดิมแล้ว
แม้แต่ค่ายกลฮู่ซานก็ได้ถูกทำลายลงไปแล้วด้วย
หลินหยุนมีสีหน้าที่หม่นหมองอย่างที่สุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...