จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1438

“แต่การกระทำนี้ก็ดูไม่ตรงกับความเป็นจริง ในเมื่อเป็นสำนัก ก็ต้องเคารพความแข็งแกร่ง ถึงเราส่งคนไป ไม่มีพละกำลัง ก็ไม่มีสิทธิ์พูดอย่างแท้จริง!”

“เมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้านายไม่อยู่ สำนักชางฉองจะกลายเป็นพลังอิสระ ไม่มีใครสามารถควบคุมได้!”

“นี่เท่ากับระเบิดเวลาที่ไม่มีใครสามารถล่วงรู้ก่อนได้!”

“เชื่อว่านายจะคิดถึงการเชื่อมโยงภายในนี้ได้ และน่าจะรู้ว่านี่เป็นสถานการณ์ที่อันตรายขนาดไหน!”

หลินหยุนถอนหายใจ แล้วพูดว่า “ท่านหง ถ้าฉันให้ยิ่งตงไหลมาดูแลจัดการสำนักชางฉองล่ะ”

เขาเข้าใจความกังวลของท่านหง จึงยอมถอยก้าวหนึ่ง

เดิมที ในขณะที่ศิษย์ของตัวเองไม่อยู่ หลินหยุนกะว่าจะพาคนออกมาจากโลกคุนชาง อย่างเช่นสิบเยว่

มีสิบเยว่ดำรงตำแหน่ง ต้องไม่มีปัญหาแน่นอน

แต่ถอยหลังก้าวหนึ่ง ใช้ยิ่งตงไหล ตอนนี้มีตัวเองอยู่ น่าจะไม่มีปัญหาอะไรมาก

พรสวรรค์ของยิ่งตงไหล ไม่นับว่าดีสักเท่าไร แต่ก็ไม่นับว่าแย่ มีโอกาสก้าวหน้าได้ในอนาคต

ส่วนที่บอกว่าตอนนี้ยิ่งตงไหลกำลังยุ่งจนเหนื่อยล้า อันที่จริงถ้าดูจากมุมมองกว้างๆ ใช่ว่าจะปล่อยไปไม่ได้

เพราะมีเขา ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้ มารับหน้าที่ดูแลจัดการสำนักชางฉองดีกว่า

เมื่อได้ยินว่าหลินหยุนจะใช้ยิ่งตงไหล คนปลายสายอย่างท่านหงเงียบไป

หลินหยุนไม่ได้เร่ง รอให้ท่านหงตอบกลับมา

ผ่านไปนาน ท่านหงสูดหายใจ แล้วพูดว่า “ฉันก็ยังไม่เห็นด้วย! ยังรับประกันไม่ได้! หลินหยุน เราต้องมีการควบคุมพละกำลังนี้ให้ได้!”

หลินหยุนขยับคิ้ว แล้วพูดว่า “ท่านหง คุณคิดว่าเผชิญหน้ากับยอดฝีมือฝึกบู๊ ถึงตั้งหน่วยงานใหม่ คุณจะมีกำลังในการควบคุมสักเท่าไรกัน”

ก่อนหน้านี้ เขาแค่ไม่ได้พูดประโยคนี้ออกมาให้ชัดเจนเท่านั้น

ผู้ฝึกบู๊ที่แข็งแกร่งกลุ่มหนึ่ง

สำหรับประเทศ มีอะไรที่ต้องกลัวล่ะ

เมื่อถึงตอนนั้น ไม่ว่าอย่างไรก็ควบคุมไม่ได้ จัดการไม่ได้อยู่แล้ว!

หลินหยุนพูดเจาะจงเช่นนี้ ท่านหงเงียบไปอีกครั้ง

สูดหายใจลึก แล้วพูดว่า “งั้นช่างเถอะ ถ้าเป็นเช่นนี้ งั้นก็ไม่ต้องตั้งหน่วยอะไรแล้ว!”

“ฉันไม่อยากเห็นพละกำลังที่ไม่สามารถควบคุมได้แบบนี้ ปรากฏออกมาอีก!”

“อาศัยพละกำลังในตอนนี้ ถึงจะช้าสักหน่อย แต่มีนายอยู่ ฉันเชื่อว่าจะสยบความวุ่นวายในตอนนี้ได้เหมือนกัน”

หลินหยุนพูดว่า “นี่แน่นอนอยู่แล้ว แต่แค่อาจจะมีคนตายเยอะขึ้น! เรื่องนี้คุณต้องคิดให้ดี!”

ท่านหงพูดว่า “เอ่อ.....อีกเดี๋ยว หลังจากเราปรึกษากัน จะแจ้งนายอีกที!”

หลินหยุนพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไรต่อ จากนั้นจึงวางสายลง

เขารู้ว่าไม่ว่าจะเป็นท่านหงก็ดี หรือประธานาธิบดีจีนก็ดี การตัดสินใจนี้ ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น ต้องใช้เวลาสักหน่อยจริงๆ

แต่เขารอได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น ไม่สามารถรอได้ตลอด

ถึงอีกฝ่ายไม่ยอม ก็ไม่สามารถขัดขวางได้

สำนักชางฉอง จำเป็นต้องยิ่งใหญ่ขึ้นมา อำนาจนี้ต้องเป็นประโยชน์ต่อสถานการณ์สำคัญ

เมื่อเก็บโทรศัพท์ หลินหยุนเงยหน้ามองท้องฟ้า

อยากหาบรรพบุรุษโลหิต ไม่ใช่เรื่องง่าย

ตอนนี้ทำได้เพียงหาอย่างไร้เป้าหมาย หาไปทีละพื้นที่

“ถ้ายื้อแบบนี้ต่อไปอีกเรื่อยๆ”

“กลัวว่าถึงนายจะหาเจอ นายอาจจะสู้ผลการฝึกตนของเขาไม่ได้!”

เมื่อหลินหยุนได้ยิน แววตาเขาวูบไหว รีบถามว่า “เธอจะบอกว่า เขามีโอกาสก้าวสู่แดนจิตปฐมเหรอ”

เจียซินพูดว่า “อาจไม่ใช่ขนาดนั้น แต่ยาทองระดับเก้าธรรมดาๆ ไม่สามารถจัดการได้แน่นอน! ฉันว่าอย่างน้อยน่าจะไม่ต่างจากเจ้าสำนักอริยสัจแห่งโลกคุนชางสักเท่าไร!”

“แดนจิตปฐมต้องการพลังทิพย์อย่างไม่จำกัด”

“จากสถานการณ์ของดาวไกอาในตอนนี้ เว้นเสียแต่เขาจะหาเทือกเขาทิพย์อื่นมาได้”

“ไม่งั้นคงเป็นไปไม่ได้!”

“แต่ถึงเห็นเจ้าสำนักอริยสัจ หรือถ้าอยู่ในขั้นที่ด้อยกว่าเจ้าสำนักอริยสัจ ที่ก้าวเข้าไปแล้วครึ่งก้าว นายยังสามารถจัดการได้ไหม”

“ตอนนี้นายยังมีอายุขัยให้แผดเผาอีกเท่าไร ถึงจะสามารถใช้อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ไร้เทียมทานอันน่ากลัวออกมาได้”

คำพูดของเจียซิน ยิ่งทำให้หลินหยุนเคร่งขรึมเข้าไปอีก

เจียซินพูดถูก!

ถ้าบรรพบุรุษโลหิตไปถึงขั้นนั้นได้จริง จะให้เขาจัดการ......

หลินหยุนถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจ ส่ายหน้าอีกครั้ง แล้วถามว่า “เธอมีวิธีที่ดีกว่านี้ไหม”

เจียซินพูดว่า “ฉันว่าสู้ล่อศัตรูออกมาจะดีกว่า หาวิธีให้บรรพบุรุษโลหิตออกมาเอง เข้าไปในกับดักเอง นี่เป็นวิธีที่ดีกว่าไม่ใช่เหรอ”

หลินหยุนขมวดคิ้ว แล้วพูดว่า “เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายเจ้าเล่ห์มาก จะออกมาเองได้ยังไง”

คิดในทางกลับกัน ถ้าเป็นหลินหยุน โลกภายนอกมีศพโลหิตเยอะขนาดนั้น สามารถมอบพลังได้อย่างต่อเนื่อง

แค่ซ่อนตัวฝึกตนเรื่อยๆ ยกระดับผลการฝึกตนอย่างต่อเนื่องก็พอแล้ว!