สรุปเนื้อหา บทที่ 1459 ไม่มีข่าวคราวเลย – จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่
บท บทที่ 1459 ไม่มีข่าวคราวเลย ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จูผาซู่ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ฉินหลันเป็นคนที่ฉลาดมากๆ
ช่วงเวลาที่ผ่านมา เธอสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจน ถ้าตัวเองไม่สามารถบำเพ็ญเซียนเหมือนกันหลินหยุน ความแข็งแกร่งของพวกเขาสองคนก็จะห่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ
ระยะห่างของพวกเขาสองคนก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน
เขาเชื่อมั่นในตัวหลินหยุนมากๆ ถึงแม้เธอจะบำเพ็ญเซียนไม่ได้ หลินหยุนก็จะให้เก็บเธอไว้ข้างกายตลอด
ค่อยดูแลเธอและรักเธอตลอดไป
อย่างไรก็ตาม ในจิตใจของเธอ เธอไม่อยากให้ตัวเองกับหลินหยุนมีระยะห่างกันมากไปกว่านี้
สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ เธอไม่อยากเป็นภาระของหลินหยุน
ถ้าเธอสามารถบำเพ็ญเซียนได้ บางทีหลินหยุนเจอเรื่องอันตราย เธออาจจะช่วยเหลือเขาได้
มิฉะนั้น เมื่อถึงเวลานั้น เธอคงทำได้แค่ยืนดูเฉยๆเท่านั้น
ความรู้สึกแบบนี้ มันชัดเจนมากๆเมื่อตอนที่เธอพบเห็นซิงเฟย
สำหรับความคิดของเธอ หลินหยุนก็เข้าใจอยู่แล้ว
ในสายตาของหลินหยุน ฉินหลันจะบำเพ็ญเซียนหรือไม่นั้น มันไม่ใช่เรื่องสำคัญเลย
ถึงแม้เธอจะบำเพ็ญเซียนไม่ได้ ถ้าใช้สมุนไพรล้ำค่าก็สามารถทำให้เธอมีอายุยืนยาวขึ้น เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยากเลย
ถ้าฉินหลันดื้อรั้นที่จะบำเพ็ญเซียนละก็……
มันจะกลายเป็นเรื่องยาก และมีอันตรายที่ไม่สามารถคาดเดาได้
หลินหยุนครุ่นคิดไปชั่วครู่ จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "พี่ฉินหลัน ด้วยพรสวรรค์ที่พี่มีอยู่ในตอนนี้ ไม่เหมาะกับการบำเพ็ญเซียนจริงๆ พรสวรรค์ของพี่กับแม่ของฉันน่าจะพอๆกัน"
"อย่างไรก็ตาม ถ้าพี่อยากจะบำเพ็ญเซียนจริงๆ มันก็ยังพอมีวิธีอยู่"
"แต่เรื่องนี้มันก็ยากมากๆ"
"และการบำเพ็ญเซียน มันเป็นเส้นทางที่ต้องต่อสู้กับสวรรค์"
"ทุกๆครั้งที่ก้าวออกไปก็จะเต็มไปด้วยอันตรายเสมอ"
"ความลำบากแบบนั้น บางทีอาจจะมีอันตรายจนถึงชีวิตได้ทุกเมื่อ ฉันไม่อยากให้พี่ต้องเผชิญหน้ากับมัน!"
ชาติที่แล้ว หลินหยุนถูกท่านอาจารย์พาออกจากดาวไกอา หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ออกเดินทางฝึกฝนไปทั่วโลกเพียงคนเดียว
เขารู้สึกมีอันตรายถึงชีวิตตลอดเวลา
การที่ต้องก้าวไปข้างหน้าทีละก้าวด้วยความยากลำบาก จนถึงตอนนี้เขายังรู้สึกถึงมันได้อย่างชัดเจน
เขาไม่อยากให้ฉินหลันต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบากและอันตรายเหมือนกับตัวเองเลย
แน่นอนว่า ตอนนี้มีเขาอยู่ใกล้ๆ เส้นทางบำเพ็ญเซียนของฉินหลันอาจจะง่ายขึ้นอย่างแน่นอน
แต่การบำเพ็ญเซียนนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินหยุน ฉินหลันรีบพูดทันที "ฉันไม่กลัวความลำบากและอันตราย เสี่ยวหยุน ถ้าได้อยู่ใกล้ๆกับนาย ไม่ว่าจะยากลำบากแค่ไหน ฉันก็สามารถแบกรับมันได้ นายมีวิธีให้ฉันบำเพ็ญเซียนได้ใช่ไหม?"
เมื่อมองเห็นความแน่วแน่ของฉินหลัน หลินหยุนถอนหายใจทันที จากนั้นเขาก็พยักหน้าและพูด "ฉันยังพอมีวิธีอยู่ เพียงแต่ตอนนี้ยังทำไม่ได้!"
"พี่ฉินหลัน การบำเพ็ญเซียน ต้องมีรากทิพย์พรสวรรค์ด้วย"
"พูดกันตามตรง ตอนที่พวกเราถือกำเนิด หรือการกำเนิดของสัตว์ต่างๆ จะมีรากทิพย์พรสวรรค์เสมอ"
"เพียงแต่จะมีคนส่วนน้อยเท่านั้นที่สามารถบำเพ็ญเซียนได้"
"สำหรับสุดยอดอัจฉริยะด้านการบำเพ็ญเซียนนั้น มันมีน้อยมากๆจนสามารถนับได้"
"ถึงแม้ตอนนี้พี่ฉินหลันจะไม่สามารถบำเพ็ญเซียนได้ แต่สามารถใช้วิธีเปลี่ยนรากทิพย์พรสวรรค์เพื่อเข้าสู้เส้นทางการฝึกฝนบำเพ็ญเซียนได้"
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินหยุน ฉินหลันก็อดสงสัยไม่ได้และพูด "อะไรคือการเปลี่ยนรากทิพย์พรสวรรค์? รากทิพย์พรสวรรค์คืออะไรเหรอ?"
หลินหยุนกำลังจะอธิบาย แต่เขาก็เปลี่ยนความคิดทันที ไม่ต้องอธิบายอะไรเยอะๆให้เธอรับรู้ ไม่งั้นจะทำให้ฉินหลันรู้สึกลำบากใจมากขึ้น เพราะการเปลี่ยนรากทิพย์พรสวรรค์นั้น
ถ้าในทัศนคติและความคิดของฉินหลัน ถ้าอยากให้เธอยอมรับโดยไม่รู้สึกผิด มันเป็นเรื่องที่ยากมากๆ
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าอยากจะทำสำเร็จก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเหมือนกัน
ทุกปีในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาวจนไปถึงฤดูใบไม้ผลิ หมู่บ้านแห่งนี้ก็จะครึกครื้นมากๆ
เพราะเวลานั้น เป็นเวลาสำหรับการล่าสัตว์อสูร เมื่อถึงเวลานั้นจะมีพ่อค้าและนักบำเพ็ญเซียนจำนวนมากมาล่าสัตว์อสูรที่หุบเขาแห่งนี้ เพราะช่วงเวลานั้น สัตว์อสูรที่แข็งแกร่งมากๆจะเข้าสู่ช่วงเวลาจำศีล
ทำให้คนที่เข้ามาล่าสัตว์อสูรมีความปลอดภัยเพิ่มขึ้น
ทางทิศตะวันออก ทิศตะวันตกเฉียงเหนือและทิศใต้ของหมู่บ้านแห่งนี้ ต่างก็มีเมืองใหญ่ๆ อยู่
แต่ทางทิศเหนือจะไม่มีเมืองใหญ่เลย เพราะทางทิศเหนือและทิศตะวันออกนั้นถูกปกคลุมด้วยหุบเขาอันกว้างใหญ่
ประเทศที่ถูกเรียกว่าแคว้นผันสือ มันไม่ได้เป็นประเทศใหญ่เลย พูดได้ตามตรงว่าเป็นแคว้นบำเพ็ญเซียนระดับหนึ่งเท่านั้น กษัตริย์ของประเทศนี้เป็นนักบำเพ็ญเซียนแดนจิตปฐมเท่านั้น
ทางทิศใต้ของแคว้นผันสือคือแคว้นหลีหั่ว ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือคือแคว้นจู้ชิว ทางทิศตะวันออกเป็นแคว้นน้ำแดง
แคว้นผันสือ แคว้นหลีหั่ว แคว้นจู้ชิว ทั้งหมดอยู่ภายใต้การปกครองของแคว้นน้ำแดง เพราะแคว้นน้ำแดงเป็นแคว้นบำเพ็ญเซียนระดับสอง
หลังจากหลินหยุนสอบถามแล้ว เขาก็เข้าใจข้อมูลของประเทศเหล่านี้มากขึ้น
แต่เรื่องที่ละเอียดกว่านี้ พนักงานบริการก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน เพราะอีกฝ่ายเป็นแค่พนักงานบริการของเมืองเล็กๆแห่งนี้เท่านั้น
สำหรับเรื่องที่เล่าให้หลินหยุนฟังนั้น พนักงานบริการก็ได้ยินมาจากลูกค้าที่เข้าพักในโรงเตี๊ยมเท่านั้น
หลินหยุนดื่มเหล้าไปสองแก้ว เขาก็สั่งอาหารบางส่วนและกลับไปในห้องพักที่อยู่ชั้นสองทันที
เขาไปพูดกับฉินหลันแค่แป๊บเดียว หนึ่งคืนผ่านไปอย่างรวดเร็วและไม่มีการสนทนาใดๆเกิดขึ้น
วันที่สอง พวกเขารอในหมู่บ้านครึ่งวัน จากนั้นหลินหยุนก็พาฉินหลันจากไป และตรงไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือมีเมืองที่ชื่อเมืองอู้ซาน และห่างจากหมู่บ้านนี้ไม่ไกลเท่าไหร่
มีโอกาสสูงมากๆที่ซิงเฟยจะอยู่เมืองนั้น ระยะห่างเพียงแค่พันกิโลเมตร หลินหยุนได้พาฉินหลันบินอยู่กลางท้องฟ้า ในเวลาช่วงเย็นๆ พวกเขาก็บินมาถึงนอกเมืองอู้ซาน
เมืองนี้ถือได้ว่าเป็นเมืองขนาดใหญ่ น่าจะมีประชากรอาศัยอยู่หลายแสนคน
ตรงนี้ต้องมีนักบำเพ็ญเซียนอาศัยอยู่อย่างแน่นอน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา หลินหยุนพาฉินหลันเดินเท้าเข้าไปในเมืองอู้ซาน
พวกเขารออยู่ในเมืองอู้ซานสองวัน หลินหยุนได้เดินไปทั่วเมืองอู้ซานแล้ว แต่ก็ไม่ได้ข่าวคราวของซิงเฟยเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...