หลินหยุนยังไม่ทันได้พูดจบ จูหยู่ก็รีบพูดออกมาทันที "สหายหลินหยุนโปรดวางใจ เพื่อนสนิทของฉัน พวกเราเป็นคนดีมากๆ พวกเราไม่ทำเรื่องชั่วและผิดศีลธรรมอย่างแน่นอน"
"พวกเราทุกคนต่างเป็นคนที่มีหน้ามีตาในสังคม สำนักของเราก็เป็นสำนักใหญ่ด้วย"
"ดังนั้นสหายหลินหยุนวางใจได้เลย!"
"มีอีกเรื่องหนึ่ง การไปครั้งนี้ ถ้าพวกเราได้สมบัติล้ำค่าจริงๆ พวกเราจะแบ่งตามความสามารถของทุกคน ใครออกแรงมากกว่าคนนั้นก็จะได้เยอะกว่า"
"ไม่ทราบว่าสหายหลินหยุนมีความคิดเห็นยังไง?"
หลินหยุนนิ่งเงียบไปชั่วครู่ จากนั้นเขาก็มองจูหยู่และพูด "ในเมื่อสหายจูหยู่เชิญฉันด้วยความจริงใจ ฉันก็ไม่อยากจะพูดปฏิเสธ ฉันตกลงที่จะเดินทางไปพร้อมกับพวกคุณ!"
เมื่อได้ยินหลินหยุนรับปาก จูหยู่หัวเราะด้วยความดีใจและพูด "ดีมากๆ เมื่อมีสหายหลินหยุนเข้าร่วมด้วย ทำให้พวกเราเหมือนเสือติดปีก! ครั้งนี้พวกเราเข้าไปในหนองน้ำได้สำเร็จอย่างแน่นอน!"
"สหายหลินหยุน คุณน่าจะไม่เคยเห็นสถานที่แบบนั้น!"
"ตรงนั้นน่าจะเคยเป็นสถานที่เก็บตัวฝึกฝนของยอดฝีมือที่แข็งแกร่งมากๆอย่างแน่นอน"
"พวกเราต้องได้สมบัติมากมายกลับมาอย่างแน่นอน!"
"สหายหลินหยุน เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว พวกเราเจอกันที่ด้านนอกของเมืองชิวซานในอีกสามวันข้างหน้า พวกเราออกเดินทางพร้อมกัน เมื่อถึงตอนนั้นฉันจะแนะนำเพื่อนสนิทของฉันให้สหายหลินหยุนรู้จัก!"
หลินหยุนพยักหน้าและพูด "โอเค!"
ขณะพูดคุย ทั้งสองคนก็บินมาถึงเมืองชิวซานแล้ว
หลังจากทั้งสองคนบอกลากัน จูหยู่ก็บินเข้าไปในเมืองชิวซานทันที
หลินหยุนหยุดนิ่งชั่วครู่ จากนั้นก็บินเข้าไปในเมืองชิวซานเช่นกัน
เมืองชิวซานแห่งนี้เจริญรุ่งเรืองกว่าเมืองอู้ซานมากๆ มีนักบำเพ็ญเซียนเยอะกว่าและแข็งแกร่งกว่าเมืองชิวซาน
เมื่อเดินอยู่ในเมือง ก็สัมผัสได้ทันทีว่ามันมีความต่างจากเมืองอู้ซาน
จุดประสงค์ของหลินหยุนคือค้นหาข่าวคราวของซิงเฟย และไปเดินตลาดใหญ่ๆในเมือง เพื่อดูว่าในตลาดมีสมบัติล้ำค่าอะไรไหม
แน่นอนว่าเขาไม่ได้คาดหวังว่าจะเจอสมบัติล้ำค่าอยู่แล้ว
ภายในระยะเวลาสามวัน หลินหยุนได้เดินไปทั่วเมืองหลายรอบแล้ว และได้สอบถามข้อมูลต่างๆ แต่กลับไม่พบเบาะแสของซิงเฟยเลย ทำให้เขาจำใจต้องยอมแพ้และตัดใจ
รุ่งเช้าของวันที่สาม หลินหยุนมาถึงสถานที่นัดพบกับจูหยู่ตั้งแต่เช้าตรู่
ผ่านไปชั่วครู่ จูหยู่ก็มาถึงแล้ว ด้านหลังของเขามีผู้เฒ่าคนหนึ่งตามมาด้วย
ผู้เฒ่าคนนี้ผมงอกทั้งหัว มีร่างกายที่อ้วน แต่พลังของเขาดูแข็งแกร่งกว่าจูหยู่นิดหน่อย
ทั้งสองคนพูดคุยกัน และเดินมาข้างหน้าพร้อมกัน เมื่อมองเห็นหลินหยุน ทั้งสองคนอึ้งไปชั่วครู่
จูหยู่หัวเราะและรีบพูดทันที "คิดไม่ถึงจริงๆ สหายหลินหยุนจะมาถึงที่นี่ก่อนพวกเรา ฉันรู้สึกละอายใจจริงๆ!"
ขณะพูด เขาก็แนะนำให้สองคนรู้จักกัน "สหายหลินหยุน ฉันจะแนะนำให้คุณรู้จัก คนๆนี้คือสหายลู่ซาน เป็นนักบำเพ็ญเซียนจากสำนักเย่ลู่ เขามีฐานะที่ไม่ธรรมดาในสำนักเย่ลู่ด้วย!"
"สหายลู่ซาน คนๆนี้ก็คือสหายหลินหยุนที่ฉันเคยเล่าให้คุณฟังก่อนหน้านี้!"
"ครั้งนี้เขาจะเดินทางไปพร้อมกับพวกเราด้วย!"
สายตาของหลินหยุนมองไปที่ลู่ซานทันที
ลู่ซานมองหลินหยุนเพียงแค่ครั้งเดียว เขาพยักหน้าให้หลินหยุนเพียงเล็กน้อย ราวกับเขาได้ทักทายหลินหยุนแล้ว จากนั้นเขาก็หลับตาทันที
เมื่อจูหยู่มองเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาก็หัวเราะอย่างเขินๆและพูด "สหายหลินหยุนอย่าถือสาสหายลู่ซานเลย เขาเป็นคนที่เงียบขรึมและไม่ค่อยชอบพูด"
หลินหยุนพูดเบาๆ "ไม่เป็นไร!"
เมื่อพูดจบ หลินหยุนก็หลับตาทันทีและไม่พูดอะไรอีก ทั้งสามคนยืนรออยู่ตรงนี้ทันที
หลังจากเวลาผ่านไปหนึ่งก้านธูป ก็มีคนๆหนึ่งพุ่งมาด้วยความเร็ว ในชั่วพริบตาเขาก็มายืนอยู่ด้านหน้าทุกคนแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...