จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1471

สรุปบท บทที่ 1471 ไปไหนไม่ได้: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

สรุปตอน บทที่ 1471 ไปไหนไม่ได้ – จากเรื่อง จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่

ตอน บทที่ 1471 ไปไหนไม่ได้ ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดยนักเขียน จูผาซู่ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ยาฟ้าร้อง ยังมีอีกชื่อหนึ่งว่าฟ้าร้องในมือ

นี่คือเครื่องรางที่มีเอกลักษณ์หนึ่งเดียวของสำนักหั่วหลิง ในภาคเหนือของแคว้นน้ำแดง

เป็นเครื่องรางแบบใช้แล้วทิ้ง

ที่จริงแล้วก็เหมือนกับแผ่นหยกที่เย่เยว่เหลือทิ้งไว้ที่สำนักหยุนเยว่ซึ่งสามารถที่จะระเบิดขึ้นได้เพียงแค่ครั้งเดียว

ฟ้าร้องในมือแบ่งออกเป็นสามระดับ

ระดับขั้นต่ำสุด ใช้ดวงจิตเป็นตัวกำหนดนำให้ระเบิด ซึ่งสามารถระเบิดพลังได้เทียบเท่ากับพลังการโจมตีของผู้บำเพ็ญเซียนขั้นจิตปฐมตอนต้น

ระดับกลางก็เทียบเท่ากับพลังการโจมตีของผู้บำเพ็ญเซียนขั้นจิตปฐมตอนกลาง

ระดับสูงก็เทียบเท่ากับขั้นจิตปฐมตอนปลาย

ความแตกต่างของแต่ละระดับ ต่างก็มีราคาที่แตกต่างกันสิบเท่า

ฟ้าร้องในมือระดับต่ำทุกเม็ด โดยทั่วไปแล้วจะต้องใช้หินทิพย์ชั้นล่างหนึ่งพันก้อนเพื่อแลกเปลี่ยน

สามเม็ด นั่นก็เท่ากับหินทิพย์ชั้นล่างจำนวนสามพันก้อน

กิจการของสำนักหั่วหลิงมีขนาดที่ใหญ่โตได้ ส่วนที่สำคัญที่สุด ก็เป็นเพราะฟ้าร้องในมือนี้

แน่นอนว่า ผู้บำเพ็ญเซียนทั่วไปไม่สามารถที่จะใช้ของสิ่งนี้ได้

หินทิพย์ชั้นล่างหนึ่งพันก้อน ไม่ใช่ว่าจะเป็นจำนวนที่น้อยเลย

ดังนั้นเมื่อเห็นคุณชายจินเอี้ยนนำฟ้าร้องในมือออกมาสามเม็ด ไม่เพียงแค่จื่อหยุน จูหยู่ รวมไปถึงลู่ซานต่างก็สูดหายใจลึกในทันที

แต่ก็ต้องจำใจเพราะทำอะไรไม่ได้

คุณชายจินเอี้ยนนี้ได้รับการสนับสนุนจากสำนักหั่วหลิง ที่มีเงินทองและอิทธิพล ซึ่งจุดนี้พวกเขาเองไม่มีทางที่จะไปเทียบเคียงได้อยู่แล้ว

จื่อหยุนยื่นมือออกมารับ พร้อมกับมองไปยังคุณชายจินเอี้ยนอย่างตื่นเต้นและพูดขึ้นว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ขอขอบคุณคุณชายจินเอี้ยนเป็นอย่างมาก! ”

ไม่เอ่ยถึงเรื่องอื่น แม้ว่าจะไม่นับหินทิพย์จำนวนหนึ่งพันก้อนนี้ เพียงฟ้าร้องในมือแค่สามเม็ดนี้ ก็ถือว่าการมาในครั้งนี้ไม่เปล่าประโยชน์

คุณชายจินเอี้ยนได้ยินดังนั้น ก็หัวเราะขึ้นอย่างสบายใจ และพูดว่า “ไม่เป็นไรหรอก แค่นางฟ้าไม่รู้สึกว่าเสียเปรียบก็พอแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ สมบัติชิ้นนี้ก็กลายเป็นของฉันแล้ว สหายทั้งหลาย ขอบคุณที่กรุณา! ”

ขณะที่พูด ก็หันหลังแล้วเดินไปยังกล่องหยกสีขาวที่โปร่งแสงใบนั้น

คุณชายจินเอี้ยนตาลุกวาวขึ้น

สมบัติชิ้นนี้ไม่ธรรมดาทีเดียว

แม้ว่าสำนักหั่วหลิงจะมีเงินทองและอิทธิพลอย่างมาก ในภาคเหนือของแคว้นน้ำแดง

โดยพลังความสามารถจัดอยู่ในสามลำดับแรกของสำนักใหญ่

แต่ว่า เมื่อสำรวจไปทั่วทั้งสำนัก ก็ไม่มีสมบัติล้ำค่าระดับนี้เลย

อาจจะมีเพียงแค่กระบี่ไฟของเจ้าสำนักเท่านั้น ที่ถือว่าเทียบเคียงได้กับระดับนี้

ถ้าหากในครั้งนี้พวกเขาสามารถนำกระบี่เล็กเล่มนี้กลับไปยังสำนักได้สำเร็จ แม้ว่าสุดท้ายตนเองจะไม่ได้ใช้ ก็จะต้องได้รับรางวัลตอบแทนจำนวนมากจากสำนักอย่างแน่นอน

บางทีอาจจะได้รับสมบัติล้ำค่าสูงสุดในการหลอมยาทองในระดับที่สูงขึ้น

ถ้าหากมอบสมบัติล้ำค่าสูงสุดในการหลอมยาทองระดับฟ้าให้เป็นของรางวัลแก่ตนเองแล้ว จะทำให้พลังบำเพ็ญของเขาก้าวหน้าสูงขึ้นมากอีกครั้ง

เมื่อถึงเวลานั้น หลังจากที่สำเร็จขั้นแดนจิตปฐมแล้ว ผู้อื่นก็คงไม่สามารถมาเทียบเคียงพลังบำเพ็ญกับตนได้อีกแล้ว

ตำแหน่งสถานะในสำนักก็จะมั่นคงมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน

ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถมาทำให้สั่นคลอนได้

คุณชายจินเอี้ยนสูดลมหายใจลึก แล้วก็ค่อย ๆ ยื่นมือไปที่กล่องหยกสีขาวนั้นอย่างระมัดระวัง

กล่องหยกไม่ได้ล็อคกุญแจ

โดยเขาเอื้อมมือเข้าไปแล้วค่อย ๆ เปิดมันขึ้นมา

แต่ทันใดนั้น ภาพเหตุการณ์ที่ทุกคนคาดคิดไม่ถึงก็เกิดขึ้น

ภายในกล่องหยกนั้นมีแต่ความว่างเปล่า ไม่มีกระบี่เล็กอะไรเลย และก็ไม่มีพลังกลิ่นอายที่แข็งแกร่งไร้เทียมทานอะไรด้วย?

ไม่มีอะไรสักอย่างเลย!

เห็นเหตุการณ์นี้แล้ว คุณชายจินเอี้ยนพลันเบิกตาโพลงขึ้น ไม่อยากที่จะเชื่อทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าอย่างสิ้นเชิง

“เป็นไปไม่ได้! ”

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ”

“กระบี่เล็กล้ำค่านั่นอยู่ไหนล่ะ? ”

“หายไปได้อย่างไรกัน? ”

ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าเขามีความสุขดีใจมากแค่ไหน

คุณชายจินเอี้ยนตวาดเสียงดัง “หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว! ภายในคฤหาสน์แห่งนี้ก็มีเพียงแค่พวกเราไม่กี่คน ถ้าหากไม่ใช่พวกนายแล้ว จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้อย่างไร? ”

“ฉันขอพูดอีกครั้งว่า ไม่ว่าพวกนายคนใดที่ลงมือทำเรื่องคดโกงนี้! ”

“หากมอบกระบี่เล็กเล่มนั้นออกมา ฉันก็จะยกโทษความผิดที่เกิดขึ้นทั้งหมด! ”

“ถือว่าไม่เคยเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น! ”

“ไม่อย่างนั้น พวกเราทุกคนคงจะแตกแยกไม่มีใครไว้หน้าใครกันอีกแล้ว! ”

“จูหยู่ ลู่ซาน พวกนายสองคนน่าสงสัยมากที่สุด! ”

“โดยเฉพาะลู่ซาน ที่เชี่ยวชาญวิชาค่ายกล ซึ่งเป็นไปได้มากที่สุด! ”

ไม่ทันรอให้ลู่ซานพูด จูหยู่ก็แสยะยิ้มขึ้น แล้วมองไปที่คุณชายจินเอี้ยนและพูดว่า “สหายลู่ซานเชี่ยวชาญวิชาค่ายกลนั้นเป็นเรื่องจริง แต่ว่าวิชาค่ายกลของเขา สามารถจัดวางต่อหน้าของพวกเรา โดยที่พวกเราไม่รับรู้อะไรกันเลยอย่างนั้นเหรอ? ”

“ช่างไร้สาระเสียจริง! ”

คุณชายจินเอี้ยนกลับไม่ได้สนใจเรื่องเหล่านี้ โดยยังยืนยันว่าจูหยู่กับลู่ซานเป็นผู้ที่กระทำแผนชั่วดังกล่าว ขณะนั้นเขาก็ได้หันหน้ามองไปยังจื่อหยุนกับหลินหยุน และพูดเสียงแข็งขึ้นว่า “สหายทั้งสอง ยินดีที่จะช่วยเหลือฉันไหม? หากว่าทั้งสองคนสามารถช่วยเหลือฉันลงมือจับตัวสองคนนี้แล้ว ฉันจะขอบคุณอย่างมากเลย! ”

จื่อหยุนสูดหายใจลึก จากนั้นก็ส่ายศีรษะ และพูดว่า “คุณชายจินเอี้ยนอย่าได้ร้อนใจไป ใจเย็นลงบ้าง ที่จริงแล้วสหายจูหยู่พูดได้ถูกต้อง พวกเรานั้นต่างก็จดจ้องมองดูอยู่ตลอด เป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะลงมือทำเรื่องคดโกง! ”

“พวกเราเดินทางมาพร้อมกัน หากว่าลงมือต่อสู้กัน จะเป็นการผิดกันใจ”

“ฉันคิดว่าเรื่องนี้น่าจะมีอะไรที่ลับลมคมในเป็นแน่! ”

“ถ้าจะให้พวกเราลงมือต่อสู้กัน เลือกที่จะมาสำรวจตรวจสอบอย่างละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ไม่ดีกว่าเหรอ”

คุณชายจินเอี้ยนได้ยินจื่อหยุนปฏิเสธ ดวงตากระตุกขึ้นด้วยความโกรธเคือง และพูดขึ้นว่า “ไม่ได้! ฉันยอมจ่ายหินทิพย์ไปตั้งมากมาย รวมถึงฟ้าร้องในมืออีกสามเม็ด ตอนนี้กลับกลายมาเป็นผลลัพธ์แบบนี้? ”

“ตกลง ในเมื่อพวกนายต้องการที่จะตรวจสอบอย่างละเอียด ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้”

“นำหินทิพย์ทั้งหมด และฟ้าร้องในมืออีกสามเม็ดคืนกลับมาให้ฉันก่อนแล้วค่อยมาว่ากัน! ”

จูหยู่ได้ยินดังนั้น ก็ยิ้มเยาะ และพูดขึ้นว่า “ไม่ได้หรอก พวกเราก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ตอนนี้สมบัติล้ำค่าสูงสุดนั้นได้สูญหายไปแล้ว หากว่าเมื่อเปิดดูแล้ว นายรู้สึกว่ามันไม่ถึงระดับตามที่นายคาดหวังเอาไว้ แล้วจะต้องให้พวกเราคืนหินทิพย์กลับไปส่วนหนึ่งด้วยอย่างนั้นเหรอ? ”

“มีอย่างนี้ด้วยเหรอ? ”

“อีกอย่างก็คือ ความเสียหายนี้นายเป็นคนที่ก่อขึ้นมาเอง! ”

“โดยไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับพวกเราเลย! ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์