สรุปเนื้อหา บทที่ 1474 หนอนชั่ว – จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่
บท บทที่ 1474 หนอนชั่ว ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จูผาซู่ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
จากการที่เสียงอู้อี้อื้ออึงยิ่งดังมากขึ้น และยิ่งขยับเข้ามาใกล้มากขึ้นนั้น ทำให้หลินหยุนกับจื่อหยุนต่างก็มีสีหน้าท่าทางที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน
ในขณะนั้นเอง เจียซินที่อยู่ในหัวสมองก็พูดขึ้นอย่างเร่งรีบว่า “คือหนอนชั่ว! หนอนชั่วจำนวนมหาศาล! ช่วยฉันหน่อย นี่คือโอกาสที่ดีที่สุดของฉัน ฉันต้องการยืมซากคืนชีพกับพวกหนอนชั่วเหล่านี้เพื่อทำการกลายร่าง! ”
“หลินหยุน คุณจะต้องช่วยฉัน! ”
“แค่สามารถต้านทานเพียงชั่วครู่ ฉันก็สามารถลงมือกระทำได้แล้ว เรื่องนี้มันสำคัญกับฉันมากเลยทีเดียว! ”
“ถ้าหากฉันทำสำเร็จ ก็จะเป็นประโยชน์กับนายในอนาคตอย่างมากด้วย! ”
“ไม่มีเวลาแล้ว ฉันจะอธิบายให้นายฟังทีหลังก็แล้วกัน! ”
หลินหยุนได้ยินดังนั้นจิตใจก็หวั่นไหว
หนอนชั่ว!
เขารู้ถึงการมีอยู่ของสิ่งนี้
นี่คือสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นมาพร้อมกับโชคชะตาโดยเฉพาะ
สิ่งนี้ ไม่เพียงแต่เพียบพร้อมด้วยพลังการโจมตีอันแข็งแกร่ง ที่สำคัญที่สุดคือ เพียงแค่สัมผัสกับพลังกลิ่นอายของมันก็จะเกิดโชคร้ายติดตัวไปตลอดชีวิต
หากจะพูดกันในระดับหนึ่ง ก็คล้ายกับพลังแห่งคำสาปอย่างไรอย่างนั้น
คนทั่วไปมักจะพูดกันว่า “เคราะห์ร้ายไปชั่วชีวิต”
และมักจะพูดกันอีกว่า “นี่คือเวรกรรมอะไรกันเนี่ย! ”
ที่จริงแล้วก็คือไปสัมผัสกับความโชคร้าย
ชื่อของหนอนชั่วได้มาก็เพราะเหตุนี้
เจียซินเองก็คือเผ่าสาปฟ้า
ถ้าหากสามารถควบคุมหนอนชั่วได้ สำหรับเธอแล้ว ก็ราวกับว่าเป็นเสือติดปีก
หนอนชั่วทุกตัว ก็เทียบเท่ากับร่างแปลงกายของเธออย่างไรอย่างนั้น
ดังนั้นเธอจึงพูดว่า นี่คือการยืมซากคืนชีพเพื่อทำการกลายร่างอย่างหนึ่ง
ซึ่งมีความแตกต่างกับการยืมซากคืนชีพที่แท้จริง
โดยใช้พลังแห่งจิตญาณ ควบคุมหนอนชั่วทุกตัว
เธอคิดว่าหลินหยุนไม่รู้จักหนอนชั่วพวกนี้ ดังนั้นจึงรีบบอกไปว่าไว้ค่อยอธิบายทีหลัง
แต่หลินหยุนรู้จักเป็นอย่างดี
ถ่ายโอนความคิด แล้วก็เข้าใจเลยว่าเจียซินคิดจะทำอะไร!
ขณะนั้นก็ขยับตัวเคลื่อนไหวมุ่งหน้าเดินต่อไปทันที จากนั้นก็พบเห็นหนอนชั่วสีเขียวเข้มจำนวนมากกำลังพุ่งออกมาอย่างรวดเร็วจากจุดที่ลึกของช่องทางเดิน
หลินหยุนสีหน้าเคร่งเครียด พร้อมกับพูดขึ้นอย่างหนักแน่นว่า “จำนวนมากมายเหลือเกิน ฉันคงสามารถควบคุมเอาไว้ได้ไม่นาน เธอจะต้องเข้าไปในทะเลจิตของหนอนชั่วทุกตัวให้ได้โดยเร็วที่สุด”
ขณะที่พูด หลินหยุนก็ขับเคลื่อนพลังบำเพ็ญ แสดงท่าห้ามสิ่งวายชนม์ของสิบแปดท่าต้าเต๋าออกมาทันที
ทันใดนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างก็สงบหยุดอยู่กับที่
พลังแห่งจิตญาณของเจียซินพรั่งพรูออกมาอย่างบ้าคลั่งอย่างไม่จำกัด
จิตญาณจำนวนมาก ได้พุ่งเข้าไปสู่ทะเลจิตของหนอนชั่วทุกตัวอย่างรวดเร็ว
แต่เพียงพริบตาเดียว พลังของท่าห้ามสิ่งวายชนม์ก็สูญหายไปหมด แต่พลังแห่งจิตญาณของเจียซินเพิ่งจะควบคุมหนอนชั่วได้เพียงแค่ครึ่งหนึ่งเท่านั้น
ส่วนที่เหลืออีกครึ่งหนึ่ง เหมือนจะรับรู้สัมผัสได้ถึงอันตรายอย่างรุนแรง จึงได้พุ่งตรงมาทางหลินหยุนอย่างบ้าคลั่ง
ตัวของหนอนชั่วไม่ใหญ่มากนัก แต่ละตัวมีขนาดประมาณนิ้วหัวแม่มือ
ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าผึ้งเล็กน้อย
ปีกก็ไม่ใหญ่ แต่กลับเป็นอาวุธที่แหลมคมอย่างที่สุด
หลังจากที่พลังท่าห้ามสิ่งวายชนม์ได้ถูกทำลายลงไป หลินหยุนก็พลันชี้นิ้วออกไป พลังที่มองไม่เห็นอันแข็งแกร่งไร้เทียมทานก็ได้ปกคลุมห่อหุ้มพวกหนอนชั่วทั้งหมดเอาไว้ด้านใน
แต่ปีกที่แหลมคมของหนอนชั่วนั้นได้กรีดทำลายพลังที่มองไม่เห็นจนแตกออก
แต่ต่อให้เป็นแบบนี้ เจียซินก็ยังคงตื่นเต้นดีใจอย่างที่สุด
จากนั้นก็พูดกับหลินหยุนว่า “สถานที่แห่งนี้ ไม่สามารถใช้ดวงจิตตรวจสอบได้ในระยะไกล แต่เมื่อมีหนอนชั่วที่กลายร่างนี้แล้ว ก็คงไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป!คุณรออยู่ตรงนี้ก่อน ฉันจะมุ่งหน้าไปตรวจสอบด้านหน้าดูอีกสักเล็กน้อย”
ขณะที่พูดหนอนชั่วจำนวนนับร้อยก็บินหึ่ง ๆ เข้าไปยังส่วนที่ลึกของถ้ำ
ในขณะนั้นเอง จื่อหยุนก็มาถึงที่ด้านหลังของหลินหยุน เห็นว่าหลินหยุนยืนอยู่ตรงนั้น ก็ถอนหายใจและเบาใจลงได้บ้าง พร้อมกับพูดขึ้นว่า “เมื่อครู่นายได้ลงมือแล้วล่ะสิ? ฉันเองก็รู้สึกได้ถึงคลื่นพลังทิพย์ที่แข็งแกร่งเช่นกัน! ”
หลินหยุนพยักหน้า โดยที่ไม่ได้พูดอะไรมาก และพูดขึ้นว่า “มุ่งหน้าเดินต่อไปกันเถอะ! ”
ขณะเดียวกัน อีกฝั่งหนึ่งนั้น
จูหยู่กับลู่ซาน ก็มาถึงบริเวณที่เขาหินตั้งอยู่ โดยยืนอยู่ที่ด้านหน้าของประตูถ้ำอีกแห่งหนึ่ง
ทั้งสองคนตรวจสอบโดยรอบอย่างละเอียด โดยลู่ซานพูดขึ้นว่า “ไม่มีร่องรอยอะไรเลย ดูเหมือนว่าหลินหยุนกับจื่อหยุน ไม่ได้มายังจุดบริเวณตรงนี้”
จูหยู่พยักหน้า และพูดว่า “เหล่าลู่ นายคิดว่า หลินหยุนเป็นคนอย่างไร? ”
ลู่ซานได้ยินดังนั้นก็ตกใจ โดยคิดไม่ถึงว่า เวลานี้ จูหยู่จะถามคำถามแบบนี้ขึ้น
แต่เขาก็ได้ครุ่นคิดพิจารณาอย่างรอบคอบขณะหนึ่ง จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “แม้ว่าคนผู้นี้จะมีอายุน้อย แต่พลังบำเพ็ญไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกเราสองคนเลย น่าจะมีประวัติความเป็นมาที่ไม่ธรรมดา! ”
จูหยู่พยักหน้าและพูดว่า “ก่อนหน้านี้เขาพูดกับฉันว่า เขาคือผู้บำเพ็ญเซียนที่อยู่ในละแวกใกล้กับเมืองอู้ซาน แม้ว่าเมืองอู้ซานจะไม่ได้อยู่ใกล้กับเมืองชิวซาน แต่ก็ไม่ได้ห่างไกลกันมากนัก แต่นายเคยได้ยินบ้างไหมล่ะว่า สำนักที่มีอิทธิพลอำนาจแห่งใดในเมืองอู้ซาน ที่มีเด็กหนุ่มเก่งกาจมากความสามารถแบบนี้ด้วย? ”
ลู่ซานส่ายศีรษะ และพูดว่า “ไม่เคยได้ยิน ดังนั้นคนผู้นี้ไม่ได้พูดความจริงกับนายอย่างแน่นอน ซึ่งได้ปกปิดประวัติความเป็นมาที่แท้จริงของตนเองเอาไว้ ในเมื่อเขาไม่ได้เป็นผู้บำเพ็ญเซียนที่อยู่ในละแวกใกล้กับเมืองอู้ซาน อย่างนั้นก็ลองกวาดสายตามองไปทั่วทั้งภาคเหนือดูสิ หากว่ามียอดฝีมือที่มีพลังบำเพ็ญระดับนี้ น่าจะไม่มีผู้ใดที่พวกเราไม่รู้จัก”
“ดังนั้น เป็นไปได้อย่างมากว่าคนผู้นี้ไม่ใช่ผู้บำเพ็ญเซียนทางภาคเหนือของพวกเรา......”
“แต่มันก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับพวกเราสองคนมากเท่าไร! ”
จูหยู่ยิ้มเยาะ และพูดว่า “ทำไมจะไม่เกี่ยวข้องล่ะ? อายุน้อยขนาดนี้ สามารถมีพลังบำเพ็ญระดับนี้ ประวัติความเป็นมาของเขา อย่างน้อยน่าจะเทียบเท่าได้กับไอ้โง่จินเอี้ยนนั้นอย่างแน่นอน! ”
“เหล่าลู่ นายไม่ลองคิดดูหรือว่า ก่อนหน้านี้เมื่อจินเอี้ยนจะทำอะไรก็สามารถนำหินทิพย์ชั้นล่างนับหมื่นก้อน และฟ้าร้องในมือสามเม็ดออกมาแลกเปลี่ยนได้ในทันที! ”
“นายว่าถ้าหาก......”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...