บทที่ 1478 ฉันถามนายตอบ – ตอนที่ต้องอ่านของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
ตอนนี้ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1478 ฉันถามนายตอบ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ดาบเฮ่าเทียนในมือของหลินหยุนสั่นไหว ถอนหายใจเล็กน้อย จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “อย่าได้เสียเวลาอีกเลย ลงมือเถอะ! ”
เมื่อพูดจบ หลินหยุนก็ขับเคลื่อนพลังบำเพ็ญอย่างสุดกำลัง เลือกลงมือก่อนเลยทันที
ดาบทะลุสวรรค์ปรากฏขึ้นในทันที
และร่างลางเทพเซียนตนหนึ่งก็ปรากฏกายขึ้น
ร่างลางกวัดแกว่งกระบี่ยักษ์ในมือ พลังพัดโหมไปทั่วชั้นฟ้าชั้นดิน และทิ่มแทงตรงไปที่จูหยู่ทันที
จูหยู่กับลู่ซานเห็นเหตุการณ์ดังนั้น ทั้งสองคนก่อนหน้านี้ที่ยังคงมีความมั่นใจอยู่เต็มเปี่ยม ว่าจะสามารถจัดการหลินหยุนลงได้อย่างแน่นอนนั้น แต่เวลานี้สีหน้าแปรเปลี่ยนไปอย่างมาก
จูหยู่พลันรับรู้ได้ถึงวิกฤตความเป็นความตาย ก้าวเดินออกมา และรีบตะโกนให้กับลู่ซานว่า “ไอ้แก่ ใช้ค่ายกลของนายหยุดยั้งเขาเอาไว้! ”
เมื่อพูดจบ กระบี่ยาวในมือของเขาก็ออกมาจากฝัก
ทันใดนั้นลำแสงกระบี่สีแดงเพลิง ได้ส่องสะท้อนจนทำให้ท้องฟ้ากลายเป็นสีแดงไปทั้งหมด
ลู่ซานที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งก็มีท่าทางจริงจังอย่างมาก
ในมือเกิดประกายแสงขึ้น
แท่นค่ายกลทนุดโทรมโบราณก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับขว้างตรงไปที่หลินหยุนในทันที
ด้านบนของแท่นค่ายกลเปล่งประกายแสงสลัว
เพียงพริบตาเดียวก็กลายเป็นตาข่ายขนาดใหญ่
ตาข่ายยักษ์ตั้งขวางอยู่ที่เบื้องหน้าของจูหยู่
ดาบทะลุสวรรค์ที่เปี่ยมไปด้วยพลังอานุภาพทำลายล้างที่น่าสะพรึงกลัวได้ทิ่มแทงออกไป พุ่งฟาดฟันไปยังด้านบนของตาข่ายยักษ์อย่างกะทันหัน จนระเบิดเกิดเสียงดังตูมตามสะเทือนเลือนลั่นไปทั่วปฐพี
แท่นค่ายกลเปล่งประกายแสงสลัว
ต้านทานพลังอานุภาพของกระบี่เอาไว้ได้ทั้งหมด
แต่หลังจากนั้น ลำแสงกระบี่ก็เลือนหายไปอย่างรวดเร็ว
ลู่ซานยื่นมือออกมา รับกระบี่กลับเข้ามาสู่มือของเขา
ในขณะเดียวกันนั้น
ลำแสงกระบี่ที่เผาผลาญชั้นฟ้าชั้นดิน ก็โหมกระหน่ำเข้าใส่หลินหยุนในทันที
ด้วยพลังอานุภาพที่ไร้ขีดจำกัด
หลินหยุนดวงตาเป็นประกาย ร่างกายกระพริบเคลื่อนไหว หายวับไปอีกครั้งหนึ่ง และในขณะเดียวกันร่างลางเทพเซียนนั้นก็ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง
“เทพเซียนมาเพื่อหยุดสวรรค์! ”
เมื่อเสียงของหลินหยุนดังขึ้น พลังหยุดสวรรค์ก็ซัดโหมกระหน่ำ
ทันใดนั้นก็ทำลายลำแสงกระบี่ของจูหยู่ลง และไม่เพียงเท่านี้ พลังอานุภาพทำลายล้าง ยังได้พัดโหมโอบล้อมจูหยู่กับลู่ซานทั้งสองคนเอาไว้ด้านในด้วย
ทั้งสองคนร้องโอดครวญขึ้นพร้อมกัน จากนั้นก็หลบหนีหัวซุกหัวซุนไปในทันที!
เงาร่างของหลินหยุนปรากฏขึ้น ยิ้มเยาะและพูดว่า “ฉันให้พวกนายไปกันแล้วงั้นเหรอ? ”
ขณะที่พูดก็ได้ทิ่มแทงกระบี่ออกไปอีกครั้ง ลำแสงกระบี่พุ่งผ่านชั้นฟ้าชั้นดิน เจาะทะลุหัวใจของลู่ซานทันที ในขณะนั้นเอง จูหยู่ก็หันหลังกลับมาพร้อมกับทิ่มแทงกระบี่ออกไป แต่ฝ่ายตรงข้ามที่เขาลงมือใส่นั้นไม่ใช่หลินหยุน แต่เป็นลู่ซาน
ร่างกายของลู่ซานระเปิดแหลกสลายในพริบตา เสียงดังตูมตามกลายเป็ยผุยผงในทันที
การระเบิดครั้งนี้มีพลังที่รุนแรงอย่างยิ่ง
ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างตัวเขากับหลินหยุน
หลินหยุนทรงตัวอย่างมั่นคง ส่วนจูหยู่หลบหนีไปอย่างหัวซุกหัวซุน
หลินหยุนช่างน่ากลัวยิ่งนัก
เขากับลู่ซานสองคนร่วมมือกัน คิดไม่ถึงว่าจะยังพ่ายแพ้ยับเยินขนาดนี้!
หากรู้ตั้งแต่แรกว่าหลินหยุนน่าสะพรึงกลัวขนาดนี้ ไม่ว่าอย่างไรก็คงไม่กล้าคิดที่จะลงมือสังหารหลินหยุนอย่างแน่นอน
แต่ตอนนี้ทุกอย่างสายเกินไปแล้ว
ทำได้เพียงหลบหนีอย่างหัวซุกหัวซุน!
เวลานี้ คุณชายจินเอี้ยนถึงกับอยู่ในอาการอึ้งทึ่งไปเลยทีเดียว
ดวงตาเบิกโพลง ราวกับระฆังทองแดง
หลินหยุนพยักหน้าเล็กน้อย และถามต่อว่า “ถ้าอย่างนั้นนายรู้ไหมว่า ในเขตเหนือนี้ สถานที่แห่งใดมีสมบัติล้ำค่าสูงสุดที่สามารถนำมาใช้หลอมยาทองได้บ้าง? ไม่ว่าจะเป็นสำนักไหน หรือตระกูลไหน หรือแม้กระทั่งผู้ฝึกอิสระคนไหน ก็ได้ทั้งนั้น! ”
คุณชายจินเอี้ยนได้ยินดังนั้นก็ตกใจ จากนั้นก็พูดขึ้นอย่างลังเลว่า “เรื่องนี้......”
คุณชายจินเอี้ยนสูดหายใจลึก มองไปที่หลินหยุนและพูดว่า “ระดับยาทองที่สหายต้องการหลอม คงจะต้องมีระดับสูงเป็นแน่ ถ้าหากฉันคาดเดาไม่ผิด น่าจะเป็นระดับฟ้าใช่ไหมล่ะ? ”
หลินหยุนไม่พูดจาอะไร แสดงว่ายอมรับ!
คุณชายจินเอี้ยนเห็นว่าหลินหยุนไม่ปฏิเสธ ก็พลันกลืนน้ำลายลงอีกครั้ง และพูดขึ้นว่า “ถ้าหากสหายต้องการที่จะหลอมยาทองระดับฟ้า ถ้าอย่างนั้นสมบัติล้ำค่าสูงสุดนั้น ฉันเองก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย! ”
“อย่างน้อยไม่กี่ปีมานี้ไม่เคยได้ยินมาก่อน”
“สำหรับช่วงก่อนหน้านี้นั้น......”
“เมื่อสามปีก่อน ภาคเหนือของพวกเราปรากฏวิมานโบราณแห่งหนึ่งขึ้น ภายในวิมานโบราณนั้นปรากฏสมบัติล้ำค่าจำนวนมากมาย ได้ยินว่าในจำนวนนั้นมีสมบัติล้ำค่าสูงสุดหนึ่งชิ้นที่สามารถใช้หลอมยาทองระดับฟ้าได้”
“ได้ยินว่าสมบัติล้ำค่าสูงสุดนั้นได้ถูกบุคคลลึกลับผู้หนึ่งช่วงชิงไปแล้ว! ”
“ซึ่งบุคคลลึกลับผู้นั้น น่าจะเป็นเจ้าบ้านตระกูลโม่แห่งเมืองโม่”
“สหายไม่ใช่ผู้บำเพ็ญเซียนในภาคเหนือ แม้แต่สามสำนักใหญ่ของพวกเราก็ยังไม่รู้จัก ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะรู้จักตระกูลโม่แห่งเมืองโม่! ”
“สหายอย่าได้มองข้ามตระกูลโม่นี้เป็นอันขาด”
“นี่เป็นถึงตระกูลขั้นแดนจิตปฐมแห่งหนึ่งเลยทีเดียว! ”
“อีกทั้งพลังบำเพ็ญของเจ้าบ้านตระกูลโม่ ซึ่งปู่ของฉันเดิมทีได้เคยพูดเอาไว้ว่า ต่อให้เป็นเขาเอง ก็อาจจะไม่สามารถเอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้โดยง่ายดาย! ”
“อย่างที่ทราบกันว่า ปู่ของฉันนั้นเป็นถึงเจ้าสำนักรองของสำนักหั่วหลิง! ”
“บรรลุขั้นแดนจิตปฐมมานับร้อยปีแล้ว! ”
“แม้แต่ปู่ของฉันยังไม่มีความมั่นใจเลย นั่นแสดงว่าพลังบำเพ็ญของเจ้าบ้านตระกูลโม่นั้นไม่ธรรมดา! ”
“นั่นเป็นเพราะเจ้าบ้านตระกูลโม่มีพลังบำเพ็ญที่แข็งแกร่งไร้เทียมทานมากขนาดนี้ ดังนั้น แม้ว่ามียอดฝีมือจำนวนไม่น้อยที่รับรู้ว่า สมบัติล้ำค่าสูงสุดนั้นได้ถูกเขาช่วงชิงไปแล้ว แต่ท้ายที่สุดก็ไม่มีผู้ใดที่จะเคลื่อนไหวลงมืออะไรเลย! ”
“หากสหายต้องการครอบครองสมบัติล้ำค่าสูงสุดนั้น......แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย! ”
หลินหยุนพยักหน้า จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “นายมีแผนที่ของภาคเหนือไหม? หรือจะเป็นแผนที่ของแคว้นน้ำแดงก็ได้! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...