จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 148

บทที่ 147 ถูกรางวัล

แน่นอนว่าเพื่อนร่วมชั้นที่เหลืออยู่ ต่างก็โกรธมากเช่นกัน แต่ทุกคนล้วนเป็นคนฉลาด จึงไม่คิดจะทำให้เหยียนเสวเหวินกับจางเหมิงขุ่นเคือง แค่เพราะความโกรธชั่ววูบแบบเทพฟ้าผ่า

ก่อนงานเลี้ยงขอบคุณนี้จะได้เริ่ม ตัวเอกของงานก็ดันหายหัวไปซะก่อนแล้ว

แต่อย่างไรก็ตามงานเลี้ยงขอบคุณนี้ ทุกคนกลับกินได้อย่างออกรสมาก

เพราะทุกคนต่างก็พูดถึงหัวข้อเดียวกัน นั่นก็คือการพูดจายกยอปอปั้นเหยียนเสวเหวินนั่นเอง

ฉินโส่วทนฟังไปๆ ก็แทบจะอ้วกแตกออกมาให้ได้แล้ว ในที่สุดเลยลากโหลวจิ้งโยวออกไปกินที่ร้านข้างนอก

เสิ่นหย่งกับหลี่หงถูก็กลับไปก่อนเหมือนกัน เพราะก่อนหน้านี้ เหยียนเสวเหวินเคยมีชื่อเสียงในลำดับพอ ๆ กับพวกเขา แต่มาตอนนี้ พวกเขากลับถูกบดขยี้อย่างสมบูรณ์

แต่ก่อน เวลาพวกเพื่อนนักเรียนพูดถึงเหยียนเสวเหวิน พวกเขาก็จะต้องถูกพูดถึงด้วยอย่างแน่นอน แต่มาตอนนี้ เมื่อทุกคนกำลังพูดถึงเหยียนเสวเหวิน ทั้งที่พวกเขาเองก็นั่งอยู่ตรงหน้าทุกคนแท้ๆ แต่ทุกคนกลับทำเหมือนว่าไม่เห็นพวกเขาอยู่ตรงนี้ด้วยสักนิด

เสิ่นหย่งกับหลี่หงถูที่เป็นพวกเย่อหยิ่งถือดี มีหรือจะทนได้?

หลังจากเทพฟ้าผ่ากับพวกหลินหยุนออกจากโรงแรมมา พวกเขาก็มาหยุดอยู่ข้างถนน

เทพฟ้าผ่ามองไปผองเพื่อน รู้สึกขอโทษเล็ก ๆในใจ "ขอโทษทีสหาย ทำจนพวกแกไม่ได้ข้าวกันสักคน เดี๋ยวฉันเลี้ยงพวกแกเอง แต่ฉันคงไม่มีปัญญาเลี้ยงข้าวในโรงแรมนะเว้ย คงพอกินได้แค่อาหารร้านแผงลอยข้างทางว่ะ”

"ฮะๆ แผงลอยมีอะไรไม่ดีล่ะเพื่อน ไม่ใช่เข้ากับพวกบ้าๆบอๆอย่างพวกเราดีหรอกเหรอ!" ไอ้หมอพูดด้วยรอยยิ้ม

ไอ้สิบแปดมงกุฎก็พูดเสริมว่า "ใช่เลย แผงลอยออกจะเหมาะกับพวกเรา"

“แล้วพวกแกสองคนล่ะ?” เทพฟ้าผ่ามองไปที่หลินหยุนกับไอ้หิน ซึ่งไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไรสักคำ

“ ฉันอะไรก็ได้หมด”ไอ้หินพูดเสียงเบา

หลินหยุนพูดอย่างเรียบเฉย "ฉันยังไงก็ได้"

"ถ้าอย่างนั้นทุกคนก็ไปกันเถอะ ลุย!" เทพฟ้าผ่าตะเบ็งเสียงสั่งประโยคหนึ่ง คู่รักที่อยู่ข้างถนนก็ตกใจจนปล่อยมือผละออกจากกัน

ทุกคนมาถึงร้านข้างทางขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง จางซือจู่ไปสั่งอาหาร ส่วนไอ้สิบแปดมงกุฎไปยกเบียร์

หลินหยุนยืนอยู่ที่นั่นแบบไม่รู้จะทำอะไร จู่ๆสาวสวยอายุราวสิบเจ็ด สิบแปดคนหนึ่งก็เดินมาหาหลินหยุน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วๆว่า "พี่ชาย ซื้อสลากขูดรางวัลสักสองใบไหมคะ!"

หลินหยุนส่ายหน้า "ไม่สนใจ"

หญิงสาวคนนั้นไม่ไป แต่กลับมีท่าทีเหมือนจะร้องไห้ พูดด้วยท่าทางน่าสงสารว่า“ คุณผู้ชาย ฉันเป็นพนักงานที่ร้านขายสลากข้างๆนี้เอง ยอดขายในเดือนนี้ของฉันยังไม่ถึงเป้าที่กำหนดเลย เจ้านายบอกว่าถ้ายอดของเดือนนี้ไม่ถึงเป้า จะไม่จ่ายเงินเดือนให้ฉัน "

พูดไปพูดไป เธอก็เริ่มร้องไห้ออกมาจริงๆ

“ฉันต้องหาเงินไปรักษาพ่ออีก พี่ชาย ฉันเห็นปุ๊บก็รู้ว่าคุณเป็นคนดี ได้โปรดช่วยฉันหน่อยเถอะนะ! ซื้อแค่ใบเดียวก็ได้ หรือต่อให้ไม่ซื้อ แค่เข้าไปดูสักหน่อยก็ยังดี "

หลินหยุนมองดูหญิงสาวที่ร้องไห้ดั่งดอกสาลี่ต้องฝนตรงหน้า พูดตามตรง ทักษะการแสดงของเธอแย่มาก บางทีเธออาจจะหลอกได้แค่ไอ้หนุ่มใสซื่อ อย่างไอ้หินได้แค่คนเดียวเท่านั้นแหละ

"พี่ชาย ขอร้องล่ะนะ!"

หลินหยุนมองไปที่เธอเงียบ ๆ สักพัก ก็พูดกับไอ้หินที่อยู่ข้างหลังว่า "ฉันจะไปที่ร้านสลากตรงนั้นดูหน่อย มีอะไรก็เรียกฉันนะ"

ไอ้หินพยักหน้า "ได้ แต่อย่าเล่นพนันล่ะ ปู่ของฉันเพราะไปเล่นพนันนี่แหละ ทำเอาทั้งบ้านทั้งข้าวของทรัพย์สินทั้งหลาย มลายหายไปไม่เหลือเลย"

ทันใดนั้นหญิงสาวที่อยู่ข้าง ๆ หลินหยุนก็แสดงสีหน้ารังเกียจออกมา แอบด่าไอ้หินในใจว่ายุ่งไม่เข้าเรื่อง กว่าเธอจะดึงลูกค้าได้สักคนมันง่ายซะที่ไหนล่ะ? ไอ้คนบ้านนอกที่ดูจืดๆบ้านๆพรรค์นี้ คิดจะทำให้เธอโดนเด้งออกจากงานเรอะ

หลินหยุนยิ้มน้อยๆให้กับไอ้หิน พูดว่า "วางใจเถอะ แต่ไหนแต่ไรมาฉันไม่เคยแพ้พนันหรอก"

เมื่อหญิงสาวได้ยินดังนั้น เธอก็รู้สึกดีใจกับเรื่องไม่คาดคิดนี้มาก "เหมือนจะได้เจอพวกผีพนันเข้าแล้ว คราวนี้เฮงแล้วเรา คงได้โกยกำไรบานเบอะล่ะทีนี้"

ไอ้หินยังคงดื้อรั้นนิดๆ เขาเฝ้าดูหลินหยุนเดินตามหญิงสาวเข้าไปในร้านสลากที่อยู่ถัดจากร้านอาหาร จากนั้นถึงค่อยวางใจลง

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การถูกคนหลอกเอาเงิน ไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวที่สุด แต่การถูกหลอกเอาอวัยวะในร่างกายไปต่างหาก คือสิ่งที่น่ากลัวที่สุด

หลินหยุนแค่เข้าไปในร้านขายสลาก อย่างมากสุดก็แค่ถูกหลอกเอาเงิน

หญิงสาวพาหลินหยุนเข้าไปในร้านลอตเตอรี่ ไม่มีใครอยู่ข้างในแม้แต่คนเดียว ไม่น่าแปลกใจที่เธอต้องใช้ลูกเล่นหน่อยเพื่อชักชวนลูกค้า

หญิงสาวรีบขยิบตาให้ชายวัยกลางคนที่อยู่หลังเคาน์เตอร์

จากนั้นเขาก็พูดเบา ๆ ว่า "พี่ชาย ที่นี่มีสือสือฉ่าย กัวกัวเล่อ สองอย่างนี้คนนิยมเล่นกันที่สุด เพราะได้เงินเร็วที่สุด พี่ชายชอบแบบไหนเหรอ?”

เสียงของหญิงสาวมีความคาดหวัง

เมื่อเห็นหลินหยุนไม่มีท่าทีตอบสนอง จู่ ๆ ชายที่อยู่หลังเคาน์เตอร์ก็ลุกขึ้นยืน แล้วตะโกนเสียงดังลั่นว่า "นังตัวดี จนเดือนครึ่งแล้วยังไม่มีผลงานอะไรสักอย่าง ฉันจะเก็บแกไว้ทำไมเนี่ย! ถ้าแกยังไม่มีผลงานอีก ฉันจะไล่แกออกให้รู้แล้วรู้รอดไปซะ! "

หญิงสาวรีบจับแขนของหลินหยุน พลางวิงวอนอย่างน่าสงสาร“ พี่ชาย คุณช่วยฉันหน่อยเถอะนะ?”

หลินหยุนมองดูเธอ บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มแปลก ๆ แล้วพูดขึ้นว่า "ได้!"

"ขอบคุณนะพี่ชาย แค่เห็นแวบแรกฉันก็รู้แล้วว่าคุณเป็นคนดี!" หญิงสาวยกยอใหญ่โต พลางดึงหลินหยุนไปที่กล่องกัวกัวเล่อ

“พี่ชาย อันนี้ได้เงินเร็วสุด พี่เล่นอันนี้แล้วกัน!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์