ตอนนี้เขาต้องคิดหาวิธีการที่จะเข้าไปในตระกูลโม่ เพื่อใกล้ชิดกับคนของตระกูลโม่ที่แท้จริงให้ได้ จึงจะสามารถรับรู้ได้ว่าตระกูลโม่นั้นเป็นอย่างไรกันแน่
แน่นอนว่า การเป็นคนรับใช้ชายของตระกูลโม่ เรื่องนี้เขาเองกลับไม่เคยคิดมาก่อน
แต่ ได้ยินว่าครั้งนี้เป็นงานฉลองวันเกิดของเจ้าบ้านตระกูลโม่ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นช่วงโอกาสที่ไม่เลวเลยทีเดียว
ผู้คนที่อยู่โต๊ะบริเวณรอบข้าง ต่างก็ยังคงพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องของตระกูลโม่ต่อไป
แต่เนื้อหาหลักสำคัญนั้นก็ยังคงวนเวียนเกี่ยวกับคุณหนูโม่คนนั้นเหมือนเคย
หลินหยุนดื่มเหล้าไปพลาง และก็นั่งฟังไปพลางด้วย
จนกระทั่งทุกคนดื่มกันพอได้ที่แล้ว ชายหนุ่มแซ่ถังคนนั้นก็ก้าวย่างอย่างโซเซ ออกไปจากโรงเหล้า
หลินหยุนก็รีบชำระเงิน และติดตามออกไปในทันที
ฝ่ายตรงข้ามนั้นก็มีพลังบำเพ็ญเช่นกัน ดังนั้นเดินไปได้ไม่ไกลเท่าไรก็รับรู้ว่าหลินหยุนเดินตามหลังตนเองมา
ถังม่อหันกลับมา พร้อมกลับขมวดหางคิ้วขึ้นเล็กน้อย และมองไปยังหลินหยุนด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร แล้วก็พูดขึ้นว่า “สหาย หากนายไม่สามารถชี้แจงต่อฉันได้อย่างสมเหตุสมผลแล้ว ฉันก็จะไม่เกรงใจกับนายแล้ว! ”
เขาเองก็คิดขึ้นได้แล้วว่า หลินหยุนเหมือนจะเป็นอีกหนึ่งคนที่อยู่ภายในโรงเหล้า โดยที่นั่งฟังเขาเล่าเรื่องราวอยู่ที่โต๊ะด้านข้าง
หลินหยุนพูดขึ้นเบา ๆ ว่า “พี่ถังใช่ไหม ฉันเห็นว่าคุณค่อนข้างที่จะรับรู้และเข้าใจเรื่องราวของตระกูลโม่พอสมควร ซึ่งที่ฉันมายังเมืองโม่นี้ ก็เพราะว่ามีความสนใจต่อตระกูลโม่ ดังนั้นจึงต้องการที่จะรับรู้เรื่องราวของตระกูลโม่มากขึ้นอีก”
ถังม่อส่งเสียงฮึ จากนั้นก็ยิ้มแย้มขึ้น และมองดูหลินหยุนอยู่ครู่หนึ่ง จึงพูดขึ้นว่า “ท่านเองก็เกิดความสนใจในตัวของคุณหนูตระกูลโม่ จึงอยากที่จะเสี่ยงโชคดูบ้างใช่ไหม? ”
“ฮ่าฮ่า ก็ดีเลย ดูเหมือนว่าจะเป็นคนประเภทเดียวกัน! ”
“แต่ คนอย่างฉันไม่ว่าจะทำอะไรก็ล้วนแต่มีราคาทั้งนั้น! ”
“เพียงแค่คุณเสนอราคาที่น่าพึงพอใจ ฉันเองก็จะบอกเล่าทุกสิ่งทุกอย่างให้ฟัง โดยที่ไม่ปิดบังไม่อะไรเลย! ”
หลินหยุนเองก็ไม่แปลกใจ และพูดขึ้นว่า “พี่ถังเสนอราคามาได้เลย! ”
ถังม่อได้ยินดังนั้น ก็ครุ่นคิดชั่วครู่ แล้วชูสองนิ้วให้กับหลินหยุน พร้อมกับพูดว่า “หินทิพย์ชั้นล่างจำนวนหนึ่งร้อยก้อน! ”
หลินหยุนพยักหน้าและพูดว่า “ตกลงตามนี้! ”
ถังม่อเองก็คาดคิดไม่ถึงว่า หลินหยุนจะตอบตกลงอย่างรวดเร็วขนาดนี้ เคลื่อนสายตาไปมา แล้วก็หัวเราะฮ่าฮ่าและพูดขึ้นว่า “ตกลง! คุณเป็นคนเด็ดขาดตรงไปตรงมา ไม่ชักช้าลังเลใจเลยจริง ๆ! ”
“ขอถามหน่อยว่าคุณมีชื่อว่าอะไร? ”
หลินหยุนพูดขึ้นว่า “หลินหยุน ผู้บำเพ็ญเซียนแห่งเมืองชิวซาน! ”
ถังม่อพยักหน้าและพูดว่า “คิดไม่ถึงว่า แม้แต่สหายที่เป็นผู้บำเพ็ญเซียนแห่งเมืองชิวซานก็ยังมาที่นี่ด้วย ดูเหมือนว่าอิทธิพลของตระกูลโม่ และอิทธิพลของคุณหนูโม่นั้น จะยิ่งใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ! ”
“ไปกันเถอะ หาสถานที่สงบเงียบสักแห่งหนึ่ง พี่หลินต้องการทราบเรื่องอะไรบ้าง ก็สอบถามมาได้เลย! ”
ขณะที่พูด ก็มุ่งหน้าเดินกันต่อไป
ผ่านไปสักพักหนึ่ง ถังม่อก็พาหลินหยุนมายังลานบ้านที่สงบเงียบแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของเมือง
ถังม่อพูดขึ้นว่า “พี่หลิน เชิญ! ”
หลินหยุนพยักหน้า โดยที่ไม่พูดอะไร แล้วก็เดินตรงเข้าไปในลานบ้าน
ทั้งสองคนนั่งลงใต้ต้นเมเปิลที่อยู่ใจกลางของลานบ้าน ถังม่อก็พูดถามขึ้นโดยตรงว่า “สหายหลินหยุนอยากจะทราบเรื่องอะไร ก็สอบถามมาได้เลย”
หลินหยุนพูดขึ้นว่า “ก่อนหน้านี้ฉันเคยได้ยินเรื่องราวของตระกูลโม่แห่งเมืองโม่มาบ้าง ซึ่งไม่ค่อยจะเข้าใจอะไรเท่าไร เกี่ยวกับตระกูลนี้ ดังนั้นพี่ถังช่วยเล่าเรื่องราวทั้งหมดของตระกูลโม่ให้ฉันฟังหน่อย! ”
“นอกจากนี้ ฉันยังอยากรู้มากว่า ก่อนหน้านี้ในโรงเหล้า ที่พี่ถังพูดถึงลูก ๆ ของตระกูลโม่ ว่าจะไม่แต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์กับสำนักใหญ่ใด ๆ รวมถึงตระกูลใหญ่ใด ๆ เลย เรื่องนี้ตกลงมันเป็นอย่างไรกันแน่? ”
“การแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างผู้มีอิทธิพลอำนาจนั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องปกติธรรมดาหรอกเหรอ? ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...