หลินหยุนพูดขึ้นด้วยท่าทางสงบนิ่ง
ด้านชายชุดดำมองว่า เป็นการมั่นใจในตนเองแบบไร้เหตุผล หน้ามืดตามัว และช่างน่าขันโดยสิ้นเชิง
เขาหัวเราะเยาะ และพูดขึ้นว่า “นายทำได้เหรอ? นายจะทำได้อย่างไร? นายเข้าใจถึงแดนเหมันต์นั้นมากแค่ไหน? นายเข้าใจถึงเผ่ามนุษย์ดาวไกอามากแค่ไหน? ”
“ลำพังแค่นายที่เป็นยังเพียงเด็กยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม เป็นเพียงแค่ผู้บำเพ็ญเซียนกระจอกขั้นยาทอง ช่างกล้าคุยโวโอ้อวด เพ้อเจ้อไร้สาระได้ขนาดนี้ หากฉันหลงเชื่อในคำพูดของนายแล้ว นายก็คงหาว่าฉันเป็นเด็กน้อยสามขวบล่ะสิ? ”
“ฮึ ไม่ปฏิเสธเลยว่า นายคือผู้เก่งกาจมีความสามารถที่ไร้เทียมทานจริง ๆ”
“ด้วยอายุที่น้อยขนาดนี้ และยังจะอยู่ในดาวไกอาด้วย”
“สามารถที่จะมีพลังบำเพ็ญระดับนี้ได้ ถือว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว! ”
“อย่าว่าแต่นายเลย ในอดีตตอนที่ผู้บำเพ็ญเซียนดาวไกอามาถึงโลกบำเพ็ญเซียนนั้น มันช่างแข็งแกร่งทรงพลังมากขนาดไหน! ”
“เพียงแค่ยอดฝีมือขั้นแดนดั่งเทพนั้น ก็ไม่ต่ำกว่าห้าคนแล้ว”
“แต่ทางเขตกลางฟ้ามียอดฝีมือมาเพียงแค่สามคน ซึ่งพูดตามจริงแล้ว ก็มีเพียงคนเดียวเท่านั้น เพราะแม้ว่าจะมากันสามคน แต่ผู้ที่ลงมือต่อสู้จริงนั้นมีเพียงแค่คนเดียว”
“ส่วนสองคนที่ตายและบาดเจ็บนั้น นั่นเป็นเพราะต่อสู้อย่างสุดกำลังกับผู้บำเพ็ญเซียนดาวไกอา จนเกิดเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดขึ้น! ”
“นายจะกล้าพูดได้อย่างไรว่า นายสามารถนำพาคนของดาวไกอาออกมาจากแดนเหมันต์นั้นได้? ”
“ลำพังแค่อาศัยพลังความสามารถที่ไร้เทียมทานของนายนี้น่ะเหรอ? ”
“เหอะเหอะ หนุ่มน้อย นายคิดจินตนาการกับโลกใบนี้ง่ายดายเกินไปแล้ว”
“โลกใบนี้ สิ่งที่ไม่ขาดแคลนที่สุดก็คืออัจฉริยะผู้เก่งกาจ”
“ถือว่านายเป็นเผ่ามนุษย์ดาวไกอาเหมือนกัน ฉันจึงมาพบนายสักครั้งหนึ่ง หวังว่านายจะเข้าใจและจัดการได้เป็นอย่างดี”
“นายอย่าคิดว่า หากนำคำพูดระหว่างนายกับโม่หยู่ รวมถึงเรื่องที่ฉันมาพบเจอกับนายในค่ำคืนนี้แพร่กระจายออกไปแล้วจะเกิดผลกระทบอะไรขึ้นนั้น ฉันขอเตือนนายไว้ก่อนเลยว่าอย่าได้คิดกระทำการแบบนี้จะเป็นการดีที่สุด! ”
“เพราะว่าต่อให้นิกายวิญญาณ์บริสุทธิ์รับทราบ พวกเขาก็คงจะไม่ลงมือทำอะไรบุ่มบ่ามเป็นแน่! ”
“ไม่อย่างนั้น ตระกูลโม่ของพวกเราที่อยู่มานานนับพันปี ก็คงจะพินาศย่อยยับลงไปนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว! ”
“ไอ้หนุ่ม ฉันขอพูดไว้เพียงเท่านี้! ”
ขณะที่พูด ก็ได้เดินจากไป
หลินหยุนพูดขึ้นทันทีว่า “อย่าเพิ่งรีบร้อน คุณกำลังค้นหา วิธีการแก้ไขปัญหาในร่างกายของคุณอยู่ไม่ใช่เหรอ? ”
ชายวัยกลางคนหันหลังกลับมา และพูดขึ้นอย่างเย็นชา ด้วยน้ำเสียงที่หม่นหมองลงไปมากทีเดียว “หมายความว่าอย่างไร? ”
หลินหยุนพูดว่า “ภายในกระแสเลือดของคุณ เหมือนจะมีพลังอย่างหนึ่งที่ไม่ใช่ของตัวคุณเองอยู่ ถูกต้องใช่ไหมล่ะ? ”
ชายวัยกลางคนได้ยินดังนั้น ก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปทันที “นาย......นายรู้ได้อย่างไร ไอ้หนุ่ม ตกลงนายเป็นใครกันแน่? ”
ขณะที่พูดนั้น เจตนาสังหารของแผ่กระจายออกมาจากร่างของเขา
หลินหยุนพูดขึ้นว่า “ดูเหมือนว่าน่าจะไม่ผิดแล้ว”
หลินหยุนหยุดชะงักไปชั่วครู่ ดวงตาเป็นประกายขึ้น และได้พูดต่อว่า “หรือว่า ไม่เพียงแต่คุณเท่านั้นที่เป็นแบบนี้ ทุกคนในแดนเหมันต์นั้น ล้วนเป็นเช่นนี้กันทั้งหมดอย่างนั้นเหรอ? ”
“แต่ในร่างกายของลูกสาวของคุณ ฉันกลับไม่รู้สึกถึงความแปลกพิเศษอะไรนี้เลย! ”
“หรือว่า จะต้องถึงระดับช่วงอายุใดอายุหนึ่ง หรือมีพลังบำเพ็ญถึงขั้นใดขั้นหนึ่ง จึงจะปรากฏออกมาใช่ไหม? ”
“น่าจะต้องเป็นแบบนี้แน่นอน! ”
“ฉันเข้าใจแล้ว! ”
“ดูเหมือนว่า เหตุที่ทำไมเป็นเวลาตั้งนานแล้วพวกคนในดินแดนอันหนาวเย็นก็ยังไม่สามารถออกมาจากที่นั่นได้ และไม่สามารถทำการตอบโต้ได้เลยนั้น”
“คงน่าจะเป็นแบบเดียวกับคุณนั่นเอง”
“ฉันพูดไม่ผิดใช่ไหมล่ะ? ”
ชายวัยกลางคนพูดเสียงแข็งขึ้นว่า “นายมองออกได้อย่างไร? จากระดับพลังบำเพ็ญของนายได้ ไม่มีทางที่จะทำสิ่งนี้ได้! ”
หลินหยุนพูดว่า “แน่นอนว่าฉันมีวิธีการของตนเอง เรื่องนี้คุณไม่จำเป็นต้องถามมาก”
เจตนาสังหารในร่างของชายวัยกลางคนค่อย ๆ มลายหายไป จากนั้น ก็พูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “ดูเหมือนว่า นายจะไม่ได้รับรู้และเข้าใจเรื่องราวของแดนเหมันต์นั้นเพียงเล็กน้อยแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...