มีเงาของสามคนบินเข้ามาและยืนอยู่ด้านหน้าของชายชรา
มีหญิงชราหลังค่อมคนหนึ่งพูดทันที "ศิษย์พี่เจ้าสำนัก เกิดอะไรขึ้นเหรอ ถึงทำให้ศิษย์พี่ต้องตีระฆังศักดิ์สิทธิ์?"
ระฆังศักดิ์สิทธิ์อันนี้ของนิกายวิญญาณบริสุทธิ์นั้น เหล่าจู่ของสำนักนำกลับมาจากเขตกลางฟ้า
มีเพียงสำนักเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นเท่านั้น ถึงจะสามารถตีระฆังอันนี้ได้
ชายชราผมหงอกหายใจเข้าลึกๆ พยายามระงับจิตใจที่ตื่นเต้นของตัวเอง สายตาอันแก่ชราของเขามองไปที่สามคนนั้นและพูด "เหล่าจู่กำลังจะกลับมาที่สำนัก!"
"อะไรนะ?"
"ศิษย์พี่พูดเรื่องจริงเหรอ?"
"ตามตำนาน เหล่าจู่ได้จากไปพันปีแล้ว!"
"เขาจะกลับมาจริงๆเหรอ?"
เมื่อได้ยินคำพูดของชายชรา ทำให้ทั้งสามคนตื่นเต้นดีใจทันที
ชายชรายิ้มเบาๆ พยักหน้าและพูด "เหล่าจู่ไปที่ส่วนลึกของสนามรบหมื่นจักรวาล! การจากไปครั้งนั้น กินเวลาไปหนึ่งพันปี"
"หนึ่งพันปี!"
"สำหรับพวกเราแล้ว หนึ่งพันปีผ่านไป พวกเราคงกลายเป็นเถ้ากระดูกแล้ว"
"แต่สำหรับยอดฝีมืออย่างเหล่าจู่นั้น!"
"เวลาผ่านไปแค่ชั่วพริบตาเท่านั้น!"
"เหล่าจู่อยู่ห่างจากโลกฉองหลงไกลมากๆ!"
"ถึงแม้จะไกลมากๆ แต่ก็ส่งข้อความบางส่วนกลับมา"
เมื่อได้ยินคำพูดของชายชรา ทั้งสามคนหายใจเร็วด้วยความตกใจ และถามด้วยความตื่นเต้น "ศิษย์พี่เจ้าสำนัก เหล่าจู่ส่งข้อความกลับมาด้วยเหรอ? พวกเรา……อยากรู้ว่าเหล่าจู่ส่งข้อความอะไรกลับมา?"
พวกเขาเป็นผู้อาวุโสรุ่นใหม่ของนิกายวิญญาณบริสุทธิ์และฝึกฝนถึงแดนจิตปฐม
ตอนนี้อายุของพวกเขามากกว่าห้าร้อยปีแล้ว
ก่อนที่พวกเขาจะถือกำเนิด เหล่าจู่ของนิกายวิญญาณบริสุทธิ์ก็จากไปแล้ว
พวกเขาเคยได้ยินตำนานของเหล่าจู่ แต่ไม่เคยเห็นหน้าเหล่าจู่มาก่อน
วันนี้พวกเขาคาดคิดไม่ถึงจริงๆ พวกเขาจะได้เจอหน้าเหล่าจู่ที่กลับมายังสำนัก
ถ้าพวกเขาไม่ตื่นเต้น มันก็คงเป็นไปไม่ได้?
เมื่อชายชราได้ยิน เดิมทีสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของเขาก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันที
"ความหมายของเหล่าจู่ก็คือให้พวกเราเฝ้าดูนักบำเพ็ญเซียนที่มาจากดาวไกอาให้ดีๆ!"
หญิงชราหลังค่อมขมวดคิ้วทันทีและพูด "นักบำเพ็ญเซียนจากดาวไกอาเหรอ? หลายปีมานี้ พวกเขาใช้ชีวิตไปวันๆในแดนเหมันต์เท่านั้น!"
"พวกเราผลัดกันเฝ้าดูพวกเขาตลอดเวลา!"
"แต่ก็ไม่พบเรื่องผิดปกติเลย!"
"ทำไมเหล่าจู่ต้องสั่งเรื่องนี้ด้วย?"
ชายชราผมหงอกพูดอย่างเคร่งขรึม "ถึงแม้จะเป็นอย่างที่เธอพูด แต่เหล่าจู่บอกให้พวกเราลงมือทำเรื่องนี้ ฉันคิดว่าต้องเกิดเรื่องเปลี่ยนแปลงกับนักบำเพ็ญเซียนจากดาวไกอาอย่างแน่นอน!"
"ดังนั้นฉันก็เลยเรียกพวกคุณสามคนมารวมตัวกันที่นี่!"
"ในเมื่อเหล่าจู่สั่งเรื่องนี้ลงมา ถ้างั้นพวกเราก็ต้องเคลื่อนไหวและลงมือแล้ว!"
"ความหมายของฉันก็คือ เริ่มลงมือจากตระกูลโม่ก่อน!"
"ศิษย์น้องสามคน พวกคุณมีความคิดเห็นยังไง?"
หญิงชราหลังค่อมพูด "ฉันเห็นด้วย มีโอกาสสูงถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์ที่ตระกูลโม่คือตระกูลที่หนีออกมาจากแดนเหมันต์!"
"ถึงแม้ฉันจะไม่เข้าใจว่าโม่เทียนเจินสามารถฝึกฝนถึงแดนจิตปฐมได้ยังไง……"
ชายชราอีกคนที่ใส่ชุดดำพูด "สำหรับตระกูลโม่ ฉันคิดว่าพวกเราควรตรวจสอบให้ละเอียดก่อน เพราะพวกเราไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด ถ้าลงมือจริงๆ มันจะทำให้สำนักของเราต้องเสียชื่อเสียง"
"ตระกูลโม่อยู่ในภาคเหนือ ก็มีชื่อเสียงและอิทธิพลอยู่ไม่น้อยเลย!"
"ศิษย์พี่เจ้าสำนัก จากความเห็นของฉัน พวกเราควรเฝ้าระวังแดนเหมันต์ให้ดีๆ!"
"สำหรับตระกูลโม่นั้น พวกเราควรใช้วิธีกดดันตระกูลนี้!"
"เมื่อแรงกดดันเพิ่มสูงมากขึ้น บางทีอาจจะมีเบาะแสอะไรหลุดออกมาก็ได้!"
เมื่อได้ยินคำพูดของชายชราชุดดำ ทำให้หญิงชราหลังค่อมเปล่งเสียงไม่พอใจออกมาและพูด "ตระกูลโม่แข็งแกร่งแค่ไหน พวกเราต่างรู้ดีอยู่แล้ว"
"ทำไมพวกเราต้องทำเรื่องให้มันยุ่งยากด้วย!"
"ไม่ว่าจะถูกหรือผิด!"
"ฆ่าล้างตระกูลแล้วค่อยมาพูดกัน!"
"ฉันได้ข่าวมาว่าวันนี้โม่เทียนเจินกำลังจัดงานเลี้ยงฉลองวันเกิดไม่ใช่เหรอ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...