จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1497

สรุปบท บทที่ 1497 ไม่พูดอ้อมค้อม พูดสิ่งที่ต้องการออกมา: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

ตอน บทที่ 1497 ไม่พูดอ้อมค้อม พูดสิ่งที่ต้องการออกมา จาก จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1497 ไม่พูดอ้อมค้อม พูดสิ่งที่ต้องการออกมา คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ที่เขียนโดย จูผาซู่ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ไป๋ล่างคนนี้รูปหล่องดงาม กิริยาท่าทางสง่างามและสุขุมมากๆ

เขาไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นลูกศิษย์หรือชนรุ่นหลัง และไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่าคนที่อยู่ด้านหน้าเลย

แน่นอนว่าคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ไม่กล้าดูถูกเขาอยู่แล้ว

โม่เทียนเจินยกมือขึ้นมาทำความเคารพและพูด "คิดไม่ถึงจริงๆว่าท่านฉีจะเดินทางมาด้วยตัวเอง และยังพาไป๋ล่างมาด้วย!"

"วันนี้ตระกูลโม่ของเราเป็นเกียรติมากๆที่ได้ต้อนรับพวกคุณ!"

"ท่านฉี ไป๋ล่าง เรียนเชิญพวกคุณสองคนเข้าไปด้านในเลย!"

ฉีเฟิงไม่ได้ลืมคนอื่นๆเลย เขายกมือขึ้นมาทำความเคารพและทักทายทุกคนที่อยู่ด้านหน้าด้วย

เขาเดินเข้าไปในตระกูลโม่โดยมีคนจำนวนมากรายล้อมเขาอยู่

สำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว การที่ฉีเฟิงพาไป๋ล่างมาที่นี่ มันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมากๆ

นิกายวิญญาณบริสุทธิ์เป็นสำนักที่แข็งแกร่งมากๆ

ยังส่งผู้อาวุโสคนหนึ่งกับลูกศิษย์อัจฉริยะของสำนักมาร่วมงานเลี้ยงฉลองครั้งนี้ นี่คือการให้เกียรติตระกูลโม่ของพวกเรามากๆ

แต่ก็มีคนที่ฉลาดมากๆจำนวนหนึ่ง มองเห็นการมาถึงของฉีเฟิงกับไป๋ล่าง และรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างไม่ปกติอย่างแน่นอน

คิดว่านิกายวิญญาณบริสุทธิ์คงจะลงมือกับตระกูลโม่แล้ว

คนที่เข้าใจทุกอย่างและอยู่ตรงนี้ คงมีแค่โม่เทียนเจินเพียงคนเดียว

ดูเหมือนคำพูดของหลินหยุนจะไม่ผิดเลย นิกายวิญญาณบริสุทธิ์คิดจะลงมือแล้ว

และการเคลื่อนไหวของสำนักนี้ก็เร็วมากๆ นี่คือเรื่องที่เขาคาดคิดไม่ถึงจริงๆ

แต่การมาถึงของฉีเฟิงและกิริยาท่าทางที่เขาแสดงออกมา ทำให้เขาไม่เข้าใจจริงๆว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรกันแน่

ตอนนี้ทำได้แค่ระมัดระวังตัวและคอยดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทีละก้าวแล้ว

แต่มีเรื่องหนึ่งที่สามารถยืนยันได้ นั้นก็คือถ้านิกายวิญญาณบริสุทธิ์ไม่มีหลักฐานก็คงไม่กล้าลงมือส่งเดช

พวกเขาต้องคำนึงถึงผลลัพธ์ที่จะตามมา

หลายปีที่ผ่านมา เขาเข้าใจดีว่านิกายวิญญาณบริสุทธิ์ระแวงและคาดเดาฐานะของตระกูลโม่มาโดยตลอด

แต่การคาดเดาก็เป็นได้แค่การคาดเดาเท่านั้น มันเป็นหลักฐานอะไรไม่ได้

ถ้าตระกูลโม่ไม่เปิดเผยเบาะแสอะไรออกมา เขาก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรเลย

นี่คือความมั่นใจของเขา ทุกคนในตระกูลโม่ นอกจากลูกสาวที่ชื่อโม่หยู่แล้ว

แม้แต่ลูกสาวคนอื่นๆก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตระกูลโม่มาจากที่ไหน

ดังนั้นเขาก็เลยไม่กลัวว่าจะเกิดเหตุสุดวิสัยขึ้น

เพื่อเป็นการต้อนรับการมาถึงของฉีเฟิงกับไป๋ล่าง โม่เทียนเจินได้จัดงานเลี้ยงฉลองต้อนรับทันที

ถึงแม้จะห่างจากงานเลี้ยงฉลองวันเกิดจริงๆ ยังเหลืออีกแค่สองวัน

แต่การเลี้ยงฉลองต้อนรับครั้งนี้ มันจำเป็นต้องจัดขึ้นจริงๆ

สำนักต่างๆที่มีสัมพันธ์ที่ดีกับนิกายวิญญาณบริสุทธิ์ และยอดฝีมือที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับฉีเฟิง พวกเขาทั้งหมดมาเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองต้อนรับครั้งนี้ทันที

ในงานเลี้ยงฉลองต้อนรับ ยังมีลูกศิษย์วัยรุ่นจำนวนไม่น้อยเลย

งานเลี้ยงฉลองเริ่มขึ้น สายตาของทุกคนต่างมองไปที่โม่เทียนเจินกับฉีเฟิงและไป๋ล่างทันที

หลังจากพวกเขานั่งลงได้ชั่วครู่ โม่เทียนเจินในฐานะที่เขาเป็นเจ้าบ้านก็เอ่ยปากพูดทันที

ผู้อาวุโสฉีเฟิงในฐานะแขกผู้มีเกียรติ เขาไม่ได้เอ่ยปากพูด

แต่ไป๋ล่างที่อยู่ข้างๆกลับเอ่ยปากพูดทันที คำพูดของเขาทำให้ทุกคนตกใจ แต่ทุกคนก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจกับเรื่องนี้

ไป๋ล่างมองโม่เทียนเจินที่นั่งอยู่บนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หลัก จากนั้นเขาก็เอ่ยปากพูด "ผู้อาวุโสโม่ ข้าน้อยได้ยินมาว่างานเลี้ยงฉลองวันเกิดครั้งนี้ แม่นางโม่หยู่ที่เป็นลูกสาวสุดที่รักของคุณเป็นคนจัดเตรียมงานครั้งนี้ ทำไมพวกเราถึงมองไม่เห็นแม่นางโม่หยู่ละ?"

โม่เทียนเจินอึ้งไปชั่วครู่ ทุกคนก็อึ้งเหมือนกัน จากนั้นทุกคนก็หัวเราะเสียงดังออกมา มีผู้ฝึกอิสระคนหนึ่งที่มีความสัมพันธ์ดีกับฉีเฟิงมองไปที่ไป๋ล่างแล้วพูด "ดูเหมือนว่าคุณชายไป๋ล่างจะชอบลูกสาวสุดที่รักของเจ้าบ้านโม่มากๆ!"

"มันก็เป็นเรื่องปกติ ตั้งแต่สมัยโบราณ ฮีโร่มักชอบสาวงาม!"

"ลูกสาวของเจ้าบ้านโม่ที่ชื่อโม่หยู่ เธอมีชื่อเสียงมากๆ!"

หลังจากเดินทางได้ระยะหนึ่งแล้ว หลินหยุนก็พาโม่หยู่และฉินหลันบินด้วยความเร็วทันที เพียงแต่ให้โม่หยู่ชี้ทางเท่านั้น

หลินหยุนปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา และพุ่งเข้าไปในส่วนลึกของหนองน้ำใหญ่อย่างบ้าคลั่ง

ตอนที่เริ่มพุ่งออกไปนั้น มีสัตว์อสูรที่อาศัยอยู่ เมื่อสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวของหลินหยุน พวกมันรีบหลบซ่อนและหลบหนีทันที

แต่หลังจากที่เข้าไปส่วนลึกมากขึ้น สัตว์อสูรพวกนี้ก็มีพลังที่แข็งแกร่งมากขึ้น และจำนวนก็เยอะมากๆด้วย

หลินหยุนรู้สึกกดดันขึ้นมาทันที ในหนองน้ำใหญ่ส่วนลึก มีสัตว์อสูรที่ร้ายกาจมากๆจำนวนมากอาศัยอยู่

เวลาก่อนหน้านี้หนึ่งก้านธูป เขารู้สึกถึงสัตว์อสูรที่มีพลังเทียบเท่าแดนจิตปฐมตอนกลาง และรับรู้ได้ถึงสัตว์อสูรที่มีพลังเทียบเท่าแดนจิตปฐมตอนหลังด้วย

ถ้าไม่มีโม่หยู่คอยชี้นำทาง ถ้าเขาพุ่งเข้ามาคนเดียว คงมีโอกาสเสียชีวิตสูงมากๆ

หลินหยุนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ถึงแม้เขาระมัดระวังตัวมากๆ แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวอะไรเลย

หลังจากผ่านไปสิบวัน อุณหภูมิที่อยู่บริเวณโดยรอบก็ต่ำลงมากๆและด้านหน้าก็มีพลังที่แข็งแกร่งมากๆปรากฏขึ้นมา

สายตาของหลินหยุนเปล่งประกายทันที เพราะพลังที่น่ากลัวอันนั้น หลังจากมันสัมผัสหลินหยุนได้แล้ว มันก็เคลื่อนไหวทันที

หลินหยุนตั้งสติทันที จากนั้นก็ตะโกนเรียกเจียซิน ภายในชั่วพริบตา พลังจิตวิญญาณของเจียซินก็ปะทุออกมา

โจมตีไปด้านหน้าทันที พลังอันน่ากลัวนั้น มันหยุดการเคลื่อนไหวทันที

หลินหยุนพุ่งออกไปอย่างบ้าคลั่ง!

ผ่านบริเวณรอบๆของพลังอันน่ากลัวนี้ และเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วจนผ่านไปได้

หลังจากเวลาผ่านไปหนึ่งก้านธูป ในที่สุดหลินหยุนก็ออกมาจากหนองน้ำใหญ่ได้

พุ่งออกมาจากการโอบล้อมของควันพิษ หลังจากนั้นก็มีลมปีศาจที่เย็นยะเยือกเข้ากระดูกพัดมาที่เขาทันที

ลมปีศาจนี้ ไม่เพียงเย็นถึงกระดูก และมันยังมีพลังกัดกร่อนอีกด้วย

ผ่านไปชั่วพริบตา หลินหยุนก็สัมผัสได้ทันที พลังจิตวิญญาณของเขาเริ่มอ่อนแอลงและเกือบจะโดนลมปีศาจพัดจนสลายหายไป

หลินหยุนปลดปล่อยพลังออกมาอย่างบ้าคลั่ง ถึงสามารถระงับการสลายหายไปของพลังจิตวิญญาณไว้ได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์