ไป๋ล่างคนนี้รูปหล่องดงาม กิริยาท่าทางสง่างามและสุขุมมากๆ
เขาไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นลูกศิษย์หรือชนรุ่นหลัง และไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่าคนที่อยู่ด้านหน้าเลย
แน่นอนว่าคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ไม่กล้าดูถูกเขาอยู่แล้ว
โม่เทียนเจินยกมือขึ้นมาทำความเคารพและพูด "คิดไม่ถึงจริงๆว่าท่านฉีจะเดินทางมาด้วยตัวเอง และยังพาไป๋ล่างมาด้วย!"
"วันนี้ตระกูลโม่ของเราเป็นเกียรติมากๆที่ได้ต้อนรับพวกคุณ!"
"ท่านฉี ไป๋ล่าง เรียนเชิญพวกคุณสองคนเข้าไปด้านในเลย!"
ฉีเฟิงไม่ได้ลืมคนอื่นๆเลย เขายกมือขึ้นมาทำความเคารพและทักทายทุกคนที่อยู่ด้านหน้าด้วย
เขาเดินเข้าไปในตระกูลโม่โดยมีคนจำนวนมากรายล้อมเขาอยู่
สำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว การที่ฉีเฟิงพาไป๋ล่างมาที่นี่ มันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมากๆ
นิกายวิญญาณบริสุทธิ์เป็นสำนักที่แข็งแกร่งมากๆ
ยังส่งผู้อาวุโสคนหนึ่งกับลูกศิษย์อัจฉริยะของสำนักมาร่วมงานเลี้ยงฉลองครั้งนี้ นี่คือการให้เกียรติตระกูลโม่ของพวกเรามากๆ
แต่ก็มีคนที่ฉลาดมากๆจำนวนหนึ่ง มองเห็นการมาถึงของฉีเฟิงกับไป๋ล่าง และรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างไม่ปกติอย่างแน่นอน
คิดว่านิกายวิญญาณบริสุทธิ์คงจะลงมือกับตระกูลโม่แล้ว
คนที่เข้าใจทุกอย่างและอยู่ตรงนี้ คงมีแค่โม่เทียนเจินเพียงคนเดียว
ดูเหมือนคำพูดของหลินหยุนจะไม่ผิดเลย นิกายวิญญาณบริสุทธิ์คิดจะลงมือแล้ว
และการเคลื่อนไหวของสำนักนี้ก็เร็วมากๆ นี่คือเรื่องที่เขาคาดคิดไม่ถึงจริงๆ
แต่การมาถึงของฉีเฟิงและกิริยาท่าทางที่เขาแสดงออกมา ทำให้เขาไม่เข้าใจจริงๆว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรกันแน่
ตอนนี้ทำได้แค่ระมัดระวังตัวและคอยดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทีละก้าวแล้ว
แต่มีเรื่องหนึ่งที่สามารถยืนยันได้ นั้นก็คือถ้านิกายวิญญาณบริสุทธิ์ไม่มีหลักฐานก็คงไม่กล้าลงมือส่งเดช
พวกเขาต้องคำนึงถึงผลลัพธ์ที่จะตามมา
หลายปีที่ผ่านมา เขาเข้าใจดีว่านิกายวิญญาณบริสุทธิ์ระแวงและคาดเดาฐานะของตระกูลโม่มาโดยตลอด
แต่การคาดเดาก็เป็นได้แค่การคาดเดาเท่านั้น มันเป็นหลักฐานอะไรไม่ได้
ถ้าตระกูลโม่ไม่เปิดเผยเบาะแสอะไรออกมา เขาก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรเลย
นี่คือความมั่นใจของเขา ทุกคนในตระกูลโม่ นอกจากลูกสาวที่ชื่อโม่หยู่แล้ว
แม้แต่ลูกสาวคนอื่นๆก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตระกูลโม่มาจากที่ไหน
ดังนั้นเขาก็เลยไม่กลัวว่าจะเกิดเหตุสุดวิสัยขึ้น
เพื่อเป็นการต้อนรับการมาถึงของฉีเฟิงกับไป๋ล่าง โม่เทียนเจินได้จัดงานเลี้ยงฉลองต้อนรับทันที
ถึงแม้จะห่างจากงานเลี้ยงฉลองวันเกิดจริงๆ ยังเหลืออีกแค่สองวัน
แต่การเลี้ยงฉลองต้อนรับครั้งนี้ มันจำเป็นต้องจัดขึ้นจริงๆ
สำนักต่างๆที่มีสัมพันธ์ที่ดีกับนิกายวิญญาณบริสุทธิ์ และยอดฝีมือที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับฉีเฟิง พวกเขาทั้งหมดมาเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองต้อนรับครั้งนี้ทันที
ในงานเลี้ยงฉลองต้อนรับ ยังมีลูกศิษย์วัยรุ่นจำนวนไม่น้อยเลย
งานเลี้ยงฉลองเริ่มขึ้น สายตาของทุกคนต่างมองไปที่โม่เทียนเจินกับฉีเฟิงและไป๋ล่างทันที
หลังจากพวกเขานั่งลงได้ชั่วครู่ โม่เทียนเจินในฐานะที่เขาเป็นเจ้าบ้านก็เอ่ยปากพูดทันที
ผู้อาวุโสฉีเฟิงในฐานะแขกผู้มีเกียรติ เขาไม่ได้เอ่ยปากพูด
แต่ไป๋ล่างที่อยู่ข้างๆกลับเอ่ยปากพูดทันที คำพูดของเขาทำให้ทุกคนตกใจ แต่ทุกคนก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจกับเรื่องนี้
ไป๋ล่างมองโม่เทียนเจินที่นั่งอยู่บนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หลัก จากนั้นเขาก็เอ่ยปากพูด "ผู้อาวุโสโม่ ข้าน้อยได้ยินมาว่างานเลี้ยงฉลองวันเกิดครั้งนี้ แม่นางโม่หยู่ที่เป็นลูกสาวสุดที่รักของคุณเป็นคนจัดเตรียมงานครั้งนี้ ทำไมพวกเราถึงมองไม่เห็นแม่นางโม่หยู่ละ?"
โม่เทียนเจินอึ้งไปชั่วครู่ ทุกคนก็อึ้งเหมือนกัน จากนั้นทุกคนก็หัวเราะเสียงดังออกมา มีผู้ฝึกอิสระคนหนึ่งที่มีความสัมพันธ์ดีกับฉีเฟิงมองไปที่ไป๋ล่างแล้วพูด "ดูเหมือนว่าคุณชายไป๋ล่างจะชอบลูกสาวสุดที่รักของเจ้าบ้านโม่มากๆ!"
"มันก็เป็นเรื่องปกติ ตั้งแต่สมัยโบราณ ฮีโร่มักชอบสาวงาม!"
"ลูกสาวของเจ้าบ้านโม่ที่ชื่อโม่หยู่ เธอมีชื่อเสียงมากๆ!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...