สรุปตอน บทที่ 1522 เดินทางไปหอซิวซิน – จากเรื่อง จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่
ตอน บทที่ 1522 เดินทางไปหอซิวซิน ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดยนักเขียน จูผาซู่ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
แต่ก็ยังคงยืนยันคำเดิมนั้น
เพียงแต่ยามารเลือด ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ก็น่าจะไม่เกินหินทิพย์ชั้นล่างสองแสนก้อนอย่างเด็ดขาด
ถ้าหากเป็นไปอย่างไม่ราบรื่น
ก็น่าจะประมาณหินทิพย์หนึ่งแสนก้อนต้น ๆ
การประมูลก็เป็นแบบนี้
ถ้าหากพบเจอกับสิ่งที่ต้องการ ไม่ว่าจะแลกกับหินทิพย์จำนวนเท่าไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น!
ถ้าหากไม่พบกับเจ้าของที่เหมาะสมแล้ว ก็อาจจะไม่เกิดการประมูลก็เป็นไปได้!
แน่นอนว่า
สมบัติล้ำค่าอย่างยามารเลือดนี้
คงไม่ถึงกับเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นแน่
นี่คือสมบัติที่ไม่ว่าผู้บำเพ็ญเซียนคนไหนต่างก็ต้องการได้มาครอบครอง
ที่จริงแล้วงานประมูลขนาดใหญ่ของหอซิวซินนั้น ถือเป็นโอกาสที่หาได้ยากเลยทีเดียว
หลินหยุนจึงพยายามคิดหาสิ่งของอย่างอื่นเพิ่มอีก
เพื่อนำไปประมูลพร้อมกันกับยามารเลือด
แบบนี้แล้ว ก็คงจะสามารถรวบรวมหินทิพย์ชั้นล่างจำนวนห้าแสนก้อนได้อย่างง่ายดาย
แต่ว่า
ในตอนนี้ที่ตัวเขาเองนั้นนอกจากขวดหยกเขียวที่เพิ่งจะได้มาแล้ว ก็ไม่มีสิ่งของอะไรที่มีมูลค่าเพียงพอ ที่จะนำออกไปประมูลได้แล้ว
ดังนั้นจึงหมดหนทาง!
หลินหยุนส่ายศีรษะไปมาเล็กน้อย พร้อมกับมองไปที่โม่หยู่และพูดว่า “เธอพักอยู่ในโรงเตี๊ยม ฉันจะไปที่หอซิวซินสักหน่อย! ”
โม่หยู่พยักหน้า
หลินหยุนเดินออกมาจากห้อง ออกไปจากโรงเตี๊ยม และมุ่งหน้าตรงไปยังหอซิวซินทันที
หอซิวซินตั้งอยู่ในใจกลางของตลาด
มีขนาดพื้นที่กว้างใหญ่ และโดดเด่นเป็นสง่าที่สุด
หลินหยุนมาถึงหน้าประตู แล้วก็ก้าวเดินเข้าไป
ทันใดนั้นก็มีชายวัยกลางคนที่มีท่าทางสุภาพคนหนึ่งออกมาต้อนรับ
“ท่านลูกค้า ขอเชิญด้านใน! ”
“อยากทราบว่าท่านลูกค้าต้องการเลือกดูสิ่งของประเภทไหน? ”
“สิ่งของในหอซิวซินของเรานั้น ทั้งสวยงามและราคาไม่แพง มีให้เลือกหลากหลายชนิด! ท่านลูกค้าน่าจะมาหอซิวซินของเราเป็นครั้งแรกล่ะสิ? ”
หลินหยุนมีกลิ่นอายลมหายใจที่ไม่อ่อนแอ
ชัดเจนว่าเป็นผู้บำเพ็ญเซียนขั้นแดนจิตปฐม
ยอดฝีมือแบบนี้
ที่จริงแล้วในเมืองเทียนเอินนั้นมีอยู่จำนวนไม่มาก
เพียงแต่ในช่วงเวลานี้
เนื่องจากงานประมูลของหอซิวซินของพวกเขาใกล้จะเริ่มต้นขึ้น
จึงมียอดฝีมือจำนวนไม่น้อยได้พากันเดินทางมาที่เมืองเทียนเอิน
ชัดเจนว่าหลินหยุนเป็นคนแปลกหน้า
เป็นไปได้อย่างมากว่าเป็นผู้มาใหม่ที่ต้องการจะเข้าร่วมงานประมูล ดังนั้นจึงเดินทางมายังเมืองเทียนเอิน
ซึ่งก็ไม่น่าแปลกอะไร
และก็เป็นเพราะเหตุนี้เอง ดังนั้นในฐานะที่เป็นถึงเถ้าแก่ของหอซิวซิน
ในช่วงสองวันนี้จึงได้ออกมาต้อนรับแขกลูกค้าด้วยตนเองอยู่เป็นเวลานาน
หลินหยุนพยักหน้า และก็มองออกถึงความไม่ธรรมดาของผู้ที่อยู่เบื้องหน้าด้วย
ขณะนั้นจึงพูดขึ้นว่า “ได้ยินมาว่างานประมูลฤดูใบไม้ร่วงของหอท่านใกล้จะเริ่มต้นขึ้นแล้ว ทุกอย่างได้จัดเตรียมอย่างพร้อมสรรพ จึงเดินทางมาดูเล็กน้อย! ”
ได้ยินหลินหยุนพูดแบบนี้ ชายวัยกลางคนก็หัวเราะขึ้นโดยพลัน ในใจพูดว่าเป็นดั่งเช่นที่พูดจริง ๆ และก็พูดขึ้นอย่างกระตือรือร้นว่า “เดิมทีท่านลูกค้ามาที่นี่ก็เพราะงานประมูลฤดูใบไม้ร่วงของพวกเรานี่เอง ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ขอเชิญเข้าไปพูดคุยกันด้านใน”
ลูกค้าทั่วไปคงจะไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีขนาดนี้
หลินหยุนที่เป็นยอดฝีมือแดนจิตปฐม มีสถานะตัวตนที่เห็นกันอยู่อย่างชัดเจน
ซึ่งไม่มีผู้ใดกล้าที่จะทำเป็นเพิกเฉยแน่นอน!
การมาถึงของยอดฝีมือแดนจิตปฐมทุกคนนั้น ล้วนเป็นการเพิ่มสีสันให้กับงานประมูล!
หลินหยุนก็ไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใด
เดินเข้าไปยังห้องโถงด้านหลัง
ทั้งสองคนได้นั่งลง
แล้วพนักงานบริการก็มาเสิร์ฟน้ำชา
หลินหยุนเข้าสู่ประเด็น โดยพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “สถานะของท่านคงจะไม่ต่ำเป็นแน่ น่าจะเป็นถึงเจ้าของการจัดงานประมูลในหอซิวซินเลยใช่ไหมล่ะ? ”
ชายวัยกลางคนหัวเราะเหอะเหอะขึ้นโดยพลัน และพูดอย่างถ่อมตนว่า “ท่านลูกค้าประเมินฉันสูงเกินไปแล้ว! ใช่แล้ว ฉันขอแนะนำตนเองก่อนแล้วกัน ฉันคือหลิ่วหมิง เป็นเถ้าแก่ของหอซิวซินในเมืองเทียนเอินนี้”
“สำหรับเรื่องงานประมูลนั้น ก็มีส่วนร่วมด้วยแน่นอน! ”
หลินหยุนเปลือกตากระตุกขึ้นทันที โดยคิดไม่ถึงว่า เถ้าแก่หลิ่วที่อยู่เบื้องหน้านี้จะมีสายตาที่เฉียบขาดเช่นนี้
แต่ว่า ฝ่ายตรงข้ามนั้นมีสถานะเป็นถึงเถ้าแก่ของหอซิวซินในเมืองเทียนเอินที่ยิ่งใหญ่นี้ได้
ก็ชัดเจนว่าไม่ใช่บุคคลธรรมดาอย่างแน่นอน
ซึ่งการที่มีสายตาที่เฉียบขาดแบบนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา
หลินหยุนพยักหน้าและพูดว่า “ถูกต้อง นี่คือยามารเลือด! ในเมื่อเถ้าแก่หลิ่วรู้จักโอสถชนิดนี้ นั่นก็แสดงว่า เถ้าแก่หลิ่วก็คงต้องรู้จักวิธีการใช้โอสถนี้ด้วยใช่ไหมล่ะ? ”
หลิ่วหมิงสูดหายใจลึก จึงสงบจิตใจลงได้ พยักหน้าและพูดขึ้นว่า “ฉันเองโชคดีที่เคยพบเห็นโอสถชนิดนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง ยามารเลือดนี้ สามารถที่จะเพิ่มระดับพลังบำเพ็ญได้หนึ่งขั้น! ”
“พบหาได้ยากเป็นอย่างมาก! ”
“อีกทั้ง ยามารเลือดเม็ดนี้ของท่านลูกค้า มีพลังของฤทธิ์ยา ที่เหนือความคาดหมายมากทีเดียว! ”
“เมื่อทานเข้าไปแล้ว สามารถที่จะยืดเวลาออกไปได้นานขึ้นอีก! ”
“ถ้าหากฉันคาดเดาไม่ผิด น่าจะเป็นเวลาครึ่งชั่วโมงเลยเห็นจะได้! ”
หลินหยุนพูดขึ้นว่า “ยามารเลือดนี้ มาจากการกลั่นของบัวเลือดเจ็ดดาวที่เติบโตเต็มที่ เวลาออกฤทธิ์ของยานั้น ก็ประมาณครึ่งชั่วโมงเลย! ”
“อะไรนะ? “ หลิ่วหมิงอุทานขึ้นด้วยความตกใจ “ท่านลูกค้าพูดจริงใช่ไหม? ”
หลินหยุนพูดว่า “แน่นอน! เถ้าแก่หลิ่วรู้จักโอสถชนิดนี้ เคยพบเห็นโอสถชนิดนี้ หรือว่าจะลองให้นักกลั่นยาของหอท่านวินิจฉัยตรวจสอบดูสักครั้งล่ะ! ”
หลิ่วหมิงไม่กล้าที่จะเพิกเฉย รีบพูดขึ้นทันทีว่า “ตกลง! ฉันจะรีบไปแจ้งให้นักกลั่นยาของหอซิวซินมาที่นี่เดี๋ยวนี้! ”
ขณะที่พูด เขาก็วางขวดหยกลงอย่างระมัดระวัง ลุกขึ้นแล้วยกมือทำความเคารพต่อหลินหยุน
จากนั้นก็พูดว่า “ท่านลูกค้ากรุณารออยู่ตรงนี้สักครู่! ”
หลินหยุนพยักหน้า แล้วชายตามองส่งฝ่ายตรงข้ามจากไป
เขาเองก็ไม่กังวลว่าจะถูกสถานที่แห่งนี้หลอกลวง
หอซิวซินที่ยิ่งใหญ่ระดับนี้
คงไม่ถึงกับกระทำการอะไรที่ไม่ดีเพื่อหลอกลวงเอายามารเลือดเม็ดนี้หรอก
เป็นจริงเช่นนั้น
เวลาผ่านไปสักพักหนึ่ง
หลิ่วหมิงก็กลับมาแล้ว
ด้านหลังของเขา มีชายชราที่ผมและเคราขาวโพลนคนหนึ่งติดตามมาด้วย
ร่างของชายชรานั้น มีกลิ่นไฟเพลิงที่รุนแรง
หลังจากที่ทั้งสองคนเดินเข้ามาแล้ว หลิ่วหมิงก็พูดขึ้นว่า “อาจารย์กู่เหอ ท่านนี้คือท่านลูกค้าที่นำยามารเลือดมา! ใช่แล้ว ท่านลูกค้า ยังไม่ทราบเลยว่าท่านมีชื่อว่าอะไร? ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...