หลินหยุนใช้พลังจิตญาณสำรวจ ตรวจสอบจำนวนหินทิพย์ภายในแหวนเก็บของนั้น
ไม่มีปัญหา
จึงได้พยักหน้า และพูดขึ้นว่า “ขอบคุณเถ้าแก่หลิ่วมาก! ”
หลิ่วหมิงได้ยินดังนั้น จึงรีบพูดขึ้นว่า “สหายหลินหยุน ฉันรู้สึกได้ว่า!สหายหลินหยุนเป็นคนที่ตรงไปตรงมา! ฉันต้องการที่จะผูกมิตรเป็นเพื่อนกับสหายหลินหยุนอย่างมากเลย! ”
“สหายหลินหยุน! ”
“หลังจากที่งานประมูลของเราเสร็จสิ้นลงแล้ว จะมีจัดงานเลี้ยงฉลองขึ้น! ”
“เพื่อขอบคุณและสังสรรค์กับแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน! ”
“ถ้าหากสหายหลินหยุนไม่มีเรื่องเร่งด่วนอะไร ก็อยู่ร่วมฉลองงานเลี้ยงกันกับทุกคนก่อนได้นะ? ”
หลินหยุนได้ยินดังนั้น ก็ส่ายศีรษะ “ขอโทษจริง ๆ พอดีฉันมีเรื่องด่วนที่จะต้องรีบไปจัดการ จึงต้องขออภัยมาในที่นี้ด้วย! ”
หลิ่วหมิงเองก็ไม่ได้บังคับอะไร และพูดขึ้นว่า “เป็นอย่างนี้นี่เอง ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ฉันก็ไม่รั้งตัวสหายหลินหยุนเอาไว้แล้ว! แต่ว่า ถ้าหากคุณชายหลินกลับมาเมืองเทียนเอินอีกในครั้งต่อไป จะต้องมาหาฉันที่หอซิวซินนะ! ”
“ฉันจะเป็นเจ้าภาพ! ”
“เลี้ยงต้อนรับสหายหลินหยุนสักครั้งแน่นอน! ”
หลินหยุนพยักหน้า และพูดว่า “อย่างนั้นก็ขอขอบคุณสหายหลิ่วหมิงด้วย! ฉันขอลาไปก่อนแล้ว! ”
ขณะที่พูด ก็เดินออกไปจากห้องรับรองส่วนตัว
วันนี้หลินหยุนสวมหมวกกุ้ยเล้ยสีดำ
ปิดบังใบหน้าของตนเอง
ดังนั้น แม้ว่าภายในห้องโถงจะยังคงมีผู้คนอยู่อีกจำนวนไม่น้อย
แต่ก็ไม่มีใครที่จะมองเห็นใบหน้าของเขาได้
หลินหยุนเดินออกจากหอซิวซิน และก็ไม่ได้กลับที่โรงเตี๊ยมอีก โดยมุ่งหน้าตรงไปยังประตูเมืองทิศใต้ของเมืองเทียนเอินทันที
ในขณะที่เขาเพิ่งจะออกจากเมืองได้ไม่นาน
กลิ่นอายลมหายใจที่แข็งแกร่งก็พุ่งมาจากด้านหลัง
หลินหยุนดวงตาเป็นประกายขึ้นโดยพลัน
และเจียซินก็พูดขึ้นว่า “เหอะเหอะ คือหญิงสาวที่ชื่อว่าเหลิงชิงชิวคนนั้น! คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าจะโกรธแค้นกันด้วย! คนแบบนี้มักจะตายลงได้ง่าย! ”
หลินหยุนไม่ได้พูดอะไร
แล้วก็หยุดการเคลื่อนไหวหันหลังกลับไปมองฝ่ายตรงข้ามนั้น
เวลานี้
เหลิงชิงชิวนั้นก็มาอยู่ตรงเบื้องหน้าแล้ว
เหลิงชิงชิวในตอนนี้ อยู่ในชุดกระโปรงยาวสีขาวสลับสีดำ
ช่วงระหว่างคิ้ว มีกลิ่นอายที่เยือกเย็นแผ่ออกมา
แม้ว่ารูปลักษณ์จะพอใช้ได้ แต่เห็นได้ชัดว่า เป็นผู้หญิงที่มีนิสัยย่ำแย่อย่างมาก
เวลานี้เหลิงชิงชิวได้จ้องมองไปที่หลินหยุน พร้อมกับพูดขึ้นเสียงแข็งว่า “ไอ้พวกคนที่เอาแต่มุดหัวอยู่แต่ในกระดอง! ทั้งที่หอซิวซิน และในเมืองเทียนเอิน โดยฉันเองก็ไม่ได้คิดที่จะหาเรื่องทะเลาะอะไรกับนาย! ”
“แต่คิดไม่ถึงว่า นายกลับกล้าที่จะออกไปจากเมืองเทียนเอิน! ”
“ทั่วทั้งเขตเหนือนี้ แต่ไหนแต่ไรยังไม่เคยมีใครกล้าที่จะทำให้ฉันไม่พึงพอใจมาก่อน! ”
“เพราะว่าคนที่กล้าทำแบบนี้นั้น มันได้ตายลงไปหมดแล้ว! ”
“นายเองก็ไม่มีข้อยกเว้น! ”
“ก่อนหน้านี้ที่ได้ยินเสียงของนาย นายคงจะมีอายุไม่มากเท่าไร”
“ไอ้หนุ่ม วันนี้ฉันจะทำให้นายรู้ว่า”
“บนโลกใบนี้”
“ยังมีผู้คนมากมายที่นายไม่สามารถที่จะไปหาเรื่องต่อกรอะไรกับพวกเขาได้ไปตลอดชีวิต! ”
“แม้ว่านายอาจจะมีภูมิหลังที่ไม่เลว! ”
“สามารถเป็นต้นทุนพื้นฐานทำให้นายกำเริบเสิบสานได้! ”
“แต่วันนี้นายได้พบเจอกับฉัน! ”
“ก็คงจะไม่มีโอกาสได้กำเริบเสิบสานอีกต่อไปแล้ว! ”
“จำไว้นะว่า ชาติหน้าจะต้องเป็นคนที่รู้จักวางตัวให้ต่ำไม่โอ้อวด! ”
เมื่อเหลิงชิงชิวพูดจบ
ก็เกิดประกายแสงขึ้นบนมือ
ทันใดนั้นกระบี่ยาวเล่มหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในมือของเธอ
หลังจากนั้นกลิ่นอายของชี่กระบี่ที่เยือกเย็น ก็โหมกระหน่ำพุ่งเข้าใส่หลินหยุนทันที
เหลิงชิงชิวฝึกฝนวิชาเย็น
มีพลังบำเพ็ญขั้นแดนจิตปฐมตอนต้นใกล้ที่จะเข้าสู่จิตปฐมตอนกลาง
แต่ว่า
กระบวนท่านี้ของเธอนั้นทรงพลังอย่างมาก
พลังอานุภาพถึงขั้นที่เทียบเคียงได้กับผู้บำเพ็ญเซียนขั้นแดนจิตปฐมตอนกลางหลายคนเลยทีเดียว
แข็งแกร่งทรงพลังอย่างมาก
จากตรงจุดนี้ก็สามารถมองออกได้แล้วว่า
วิชาที่เธอฝึกฝนนั้น
จะต้องไม่ธรรมดาเป็นแน่
แต่ในขณะนั้นเอง หลินหยุนก็ปล่อยหมัดพุ่งเข้าใส่
ทำลายชี่กระบี่ของฝ่ายตรงข้ามลงในทันที
เมื่อเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว
เหลิงชิงชิวก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปทันที
ถึงกับพูดไม่ออกไม่ชั่วขณะหนึ่ง
ผู้หญิงคนนี้......
นอกจากจะสวมใส่กระโปรงยาวแล้ว
คิดไม่ถึงว่ายังจะสวมใส่ชุดเกราะอยู่ภายในด้วย
นอกเหนือจากนี้ ก็ไม่มีอะไรแล้ว
เหลือเชื่อจริง ๆ
ในขณะที่หลินหยุนกำลังตื่นตะลึงอยู่นั้น
กลิ่นอายลมหายใจในร่างเหลิงชิงชิวก็พลันพวยพุ่งขึ้นทันใด
ความโกรธแค้นอันเดือดดาล แวบเดียวก็พุ่งขึ้นจากเท้าไปยังกะโหลกศีรษะในทันที
คู่ดวงตาที่สวยงามแทบจะพ่นเปลวไฟอันลุกโชนโชนไร้ขอบเขตออกมาเลยทีเดียว
เธอเงยหน้ามองไปที่หลินหยุน
กัดฟันแน่น พร้อมกับตะโกนใส่อย่างบ้าคลั่ง “ไอ้สารเลว หากวันนี้ฉันลงมือฆ่าแกไม่ได้ และสับร่างของแกให้แหกละเอียดไม่ได้แล้วล่ะก็ ฉันสาบานว่าจะไม่ขอมีชีวิตอยู่อีกต่อไป! ”
ขณะที่พูด
กระบี่ยาวในมือก็เธอก็พลันเคลื่อนไหว
พุ่งโจมตีเข้าใส่หลินหยุนอย่างโหดเหี้ยม
หลินหยุนเห็นดังนั้นก็รู้แล้วว่าไม่ดีเป็นแน่
ไม่เหลือจิตใจที่จะต่อสู้ต่อไปแล้ว
อีกทั้งผู้หญิงคนนี้ไม่เหมือนกับผู้หญิงธรรมดาทั่วไป
เวลานี้กำลังอยู่ในช่วงที่โมโห เดือดดาลอย่างที่สุด
หากต่อสู้ต่อไปก็คงไร้ความหมาย
หากตอนนี้ไม่หลบหนีไปแล้ว จะต้องรอไปถึงเมื่อไรกัน?
หากยังไม่รีบไปตอนนี้
ผู้หญิงคนนี้จะต้องต่อสู้กับเขาอย่างสุดชีวิตเป็นแน่!
สูดหายใจลึก
หลินหยุนก็หันหลังและหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
หลิงชิงชิวเห็นดังนั้น ก็รีบไล่ตามไปอย่างบ้าคลั่ง
แต่พลังบำเพ็ญของเธอ ยังคงแตกต่างกับหลินหยุนอยู่อย่างชัดเจน
ระยะห่างของทั้งสองคนนั้นก็ยิ่งห่างออกไปมากขึ้น
เมื่อเห็นว่าระยะห่างกับหลินหยุนนั้นยิ่งไกลออกไปมากขึ้น จึงหมดหวังที่จะไล่ตามเพื่อสังหารหลินหยุนแล้ว
เหลิงชิงชิวจึงยิ่งโมโหหนักขึ้นไปอีก โดยเก็บอารมณ์ไม่อยู่พร้อมกับตะโกนพูดอย่างบ้าคลั่ง “ไอ้สารเลว ต่อให้วันนี้แกสามารถหลบหนีไปได้ ยังไงฉันก็ขอสาบานว่าจะต้องฆ่าแกให้ได้! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...