หลินหยุนไม่แม้แต่จะหันหลังไปมอง
เขาในตอนนี้ มีสภาพจิตใจที่อึดอัดจนพูดอะไรไม่ออกแล้ว
เขาคิดไม่ถึงอย่างมากว่า
เหตุการณ์จะกลับกลายเป็นอย่างนี้ไปได้
นี่มันเรื่องอะไรกัน?
หลินหยุนถอนหายใจยาว และมุ่งหน้าไปยังทิศตะวันตกเฉียงใต้อย่างต่อเนื่อง โดยที่ไม่ได้ลดความเร็วลง
ตลอดเส้นทางเขาก็ได้พบเห็นสัญลักษณ์ที่โม่หยู่ได้ทำขึ้นเอาไว้แล้ว
ส่วนเหลิงชิงชิวที่ตามมาด้านหลังนั้น
ไม่สามารถที่จะไล่ตามหลินหยุนได้ทัน จึงต้องล้มเลิกไล่ตาม
ครึ่งวันผ่านไป
หลินหยุนก็มองเห็นเงาร่างของโม่หยู่และฉินหลันพวกเธอทั้งสามคนแล้ว
เมื่อเห็นหลินหยุนไล่ตามมาทันแล้ว หญิงสาวทั้งสองคนก็ดีใจเป็นยิ่งนัก
หลินหยุนมาถึงตรงหน้า และพูดขึ้นว่า “ไปกันเถอะ พวกเรารีบเดินทางออกจากสถานที่แห่งนี้ให้เร็วที่สุด”
ขณะที่พูด ก็ได้บอกให้โม่หยู่ให้เก็บของวิเศษที่ใช้เหาะเหินขึ้น
โดยเขาจะเป็นผู้ที่พาหญิงสาวทั้งสามคนไปเอง
เขาเร่งความเร็วเต็มที่ขึ้นอีกครั้ง มุ่งหน้าไปยังเหนือขอบฟ้าที่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ในทันที
หลังจากที่เดินทางมาเป็นเวลาหลายวัน
ด้านหลังก็ไม่มีอะไรที่ผิดปกติแล้ว
หลินหยุนจึงวางใจลงไปได้บ้าง
และในเวลานี้
เจียซินที่อยู่ในหลิงไถ ก็ยังคงหัวเราะไม่หยุด
ซึ่งหลังจากที่เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น เธอก็หัวเราะมาโดยตลอด
นี่มันผ่านไปตั้งกี่วันแล้ว
เห็นท่าทางที่ตึงเครียดของหลินหยุนได้ผ่อนคลายลงไปบ้างแล้ว เจียซินก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะ
เวลานี้
โม่หยู่ก็พูดขึ้นว่า “พี่หลิน เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ? ”
หลินหยุนส่ายศีรษะ และพูดขึ้นด้วยสายตาที่ประหลาด “ไม่มีอะไร”
เห็นว่าหลินหยุนไม่เต็มใจที่จะพูดอะไรมาก โม่หยู่จึงถามขึ้นอีกครั้งว่า “อย่างนั้น......หินทิพย์ที่พวกเราต้องการ พี่หลินได้มันมาแล้วหรือยัง? ”
หลินหยุนพยักหน้า จากนั้นก็เกิดประกายแสงขึ้น และพูดว่า “ได้มันมาแล้ว! ”
ขณะที่พูด
ในมือของหลินหยุนก็เกิดประกายแสงขึ้น
นำแหวนเก็บของที่ก่อนหน้านี้เธอนั้นได้มอบให้กับเขาออกมา
ซึ่งภายในมีหินทิพย์หนึ่งแสนก้อน
หลินหยุนพูดว่า “นี่คือหินทิพย์หนึ่งแสนก้อนของเธอ เธอเก็บมันเอาไว้! ”
โม่หยู่เห็นดังนั้น ก็รีบพูดขึ้นว่า “ไม่ต้องหรอก พี่หลินเก็บเอาไว้เถอะ! พี่หลินสามารถพาพวกเราร่วมเดินทางไปด้วย ก็ถือว่าเป็นเกียรติอย่างที่สุดของฉันแล้ว! ”
“หินทิพย์เหล่านี้ สมควรที่จะมอบให้กับพี่หลินอยู่แล้ว! ”
“หลินหยุนส่ายศีรษะ และพูดว่า “ไม่เป็นไร ฉันยังไม่ถึงกับต้องใช้หินทิพย์เหล่านี้ของเธอ! เก็บไว้เถอะ! ”
เห็นหลินหยุนพูดขึ้นด้วยความหนักแน่น
โม่หยู่ลังเลใจเล็กน้อย
แล้วก็เก็บหินทิพย์เอาไว้
ในขณะเดียวกันก็รู้สึกเหลือเชื่อเป็นอย่างมาก คิดไม่ถึงว่าจะได้หินทิพย์มาในจำนวนที่มากพอ
ไปเข้าร่วมงานประมูลฤดูใบไม้ร่วงของหอซิวซินหนึ่งครั้ง
นึกไม่ถึงว่าจะได้รับหินทิพย์กลับมาตั้งห้าแสนก้อน
หลินหยุนยิ่งทำให้เธอรู้สึกว่า น่าอัศจรรย์มากขึ้นไปอีกแล้ว
เหมือนว่าตั้งแต่ที่หลินหยุนปรากฏตัวขึ้น ก็ได้สร้างสิ่งที่น่าอัศจรรย์ขึ้นให้กับเธอทีละเรื่องทีละเรื่อง
เริ่มจากการปลดล็อกผนึกสายเลือดในร่างของเธอ
ไปจนถึงการเข้าสู่แดนเหมันต์สูงสุดได้สำเร็จ และก็เอาตัวรอดออกมาจากวิกฤตอันตรายในแดนเหมันต์สูงสุดได้สำเร็จอีกเช่นกัน
จนถึงตอนนี้ นึกไม่ถึงว่าในช่วงเวลาสั้นเท่านี้ ก็ยังสามารถสรรหาหินทิพย์ได้ถึงห้าแสนก้อนด้วย
ทุกสิ่งทุกอย่างแสดงให้เห็นว่า หลินหยุนก็คือผู้ที่สามารถสร้างความน่าเหลือเชื่อให้เกิดขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง
เป็นผู้ที่สร้างความอัศจรรย์!
แน่นอนว่า
ถ้าหากเธอนั้นรู้ว่า ภายในระยะเวลาอันสั้นนี้
หลินหยุนสามารถสรรหาหินทิพย์ได้ไม่เพียงแค่ห้าแสนก้อน
แต่กลับมีจำนวนกว่าสองล้านก้อน
ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเธอจะมีความรู้สึกอย่างไรบ้าง
ทั้งสามคนมุ่งหน้าเดินทางกันต่อไป
ห้าเดือนต่อมา
โดยเดินทางกันทั้งกลางวันและกลางคืน
ในที่สุดทั้งสี่คนก็เดินทางมาถึงเหนือขอบฟ้าตามที่โม่หยู่ได้พูดเอาไว้
บริเวณที่ห่างออกไปหนึ่งพันลี้จากเหนือขอบฟ้านั้น
มีเมืองใหญ่อยู่เมืองหนึ่ง
คงจะเป็นเมืองทางตอนใต้สุดของเขตเหนือแล้ว
เมืองนี้มีชื่อว่าเมืองเมฆ
ตามที่โม่หยู่พูดนั้น ตั้งชื่อขึ้นจากความหมายที่ว่าเมฆลอยอยู่บนทะเล
เพราะว่าสถานที่แห่งนี้อยู่ใกล้กับทะเลไม่สิ้นอย่างมากแล้ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...