จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1530

สรุปบท บทที่ 1530 หลินหยุนหลบหนีไปได้: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

สรุปตอน บทที่ 1530 หลินหยุนหลบหนีไปได้ – จากเรื่อง จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่

ตอน บทที่ 1530 หลินหยุนหลบหนีไปได้ ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดยนักเขียน จูผาซู่ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

หลินหยุนไม่แม้แต่จะหันหลังไปมอง

เขาในตอนนี้ มีสภาพจิตใจที่อึดอัดจนพูดอะไรไม่ออกแล้ว

เขาคิดไม่ถึงอย่างมากว่า

เหตุการณ์จะกลับกลายเป็นอย่างนี้ไปได้

นี่มันเรื่องอะไรกัน?

หลินหยุนถอนหายใจยาว และมุ่งหน้าไปยังทิศตะวันตกเฉียงใต้อย่างต่อเนื่อง โดยที่ไม่ได้ลดความเร็วลง

ตลอดเส้นทางเขาก็ได้พบเห็นสัญลักษณ์ที่โม่หยู่ได้ทำขึ้นเอาไว้แล้ว

ส่วนเหลิงชิงชิวที่ตามมาด้านหลังนั้น

ไม่สามารถที่จะไล่ตามหลินหยุนได้ทัน จึงต้องล้มเลิกไล่ตาม

ครึ่งวันผ่านไป

หลินหยุนก็มองเห็นเงาร่างของโม่หยู่และฉินหลันพวกเธอทั้งสามคนแล้ว

เมื่อเห็นหลินหยุนไล่ตามมาทันแล้ว หญิงสาวทั้งสองคนก็ดีใจเป็นยิ่งนัก

หลินหยุนมาถึงตรงหน้า และพูดขึ้นว่า “ไปกันเถอะ พวกเรารีบเดินทางออกจากสถานที่แห่งนี้ให้เร็วที่สุด”

ขณะที่พูด ก็ได้บอกให้โม่หยู่ให้เก็บของวิเศษที่ใช้เหาะเหินขึ้น

โดยเขาจะเป็นผู้ที่พาหญิงสาวทั้งสามคนไปเอง

เขาเร่งความเร็วเต็มที่ขึ้นอีกครั้ง มุ่งหน้าไปยังเหนือขอบฟ้าที่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ในทันที

หลังจากที่เดินทางมาเป็นเวลาหลายวัน

ด้านหลังก็ไม่มีอะไรที่ผิดปกติแล้ว

หลินหยุนจึงวางใจลงไปได้บ้าง

และในเวลานี้

เจียซินที่อยู่ในหลิงไถ ก็ยังคงหัวเราะไม่หยุด

ซึ่งหลังจากที่เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น เธอก็หัวเราะมาโดยตลอด

นี่มันผ่านไปตั้งกี่วันแล้ว

เห็นท่าทางที่ตึงเครียดของหลินหยุนได้ผ่อนคลายลงไปบ้างแล้ว เจียซินก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะ

เวลานี้

โม่หยู่ก็พูดขึ้นว่า “พี่หลิน เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ? ”

หลินหยุนส่ายศีรษะ และพูดขึ้นด้วยสายตาที่ประหลาด “ไม่มีอะไร”

เห็นว่าหลินหยุนไม่เต็มใจที่จะพูดอะไรมาก โม่หยู่จึงถามขึ้นอีกครั้งว่า “อย่างนั้น......หินทิพย์ที่พวกเราต้องการ พี่หลินได้มันมาแล้วหรือยัง? ”

หลินหยุนพยักหน้า จากนั้นก็เกิดประกายแสงขึ้น และพูดว่า “ได้มันมาแล้ว! ”

ขณะที่พูด

ในมือของหลินหยุนก็เกิดประกายแสงขึ้น

นำแหวนเก็บของที่ก่อนหน้านี้เธอนั้นได้มอบให้กับเขาออกมา

ซึ่งภายในมีหินทิพย์หนึ่งแสนก้อน

หลินหยุนพูดว่า “นี่คือหินทิพย์หนึ่งแสนก้อนของเธอ เธอเก็บมันเอาไว้! ”

โม่หยู่เห็นดังนั้น ก็รีบพูดขึ้นว่า “ไม่ต้องหรอก พี่หลินเก็บเอาไว้เถอะ! พี่หลินสามารถพาพวกเราร่วมเดินทางไปด้วย ก็ถือว่าเป็นเกียรติอย่างที่สุดของฉันแล้ว! ”

“หินทิพย์เหล่านี้ สมควรที่จะมอบให้กับพี่หลินอยู่แล้ว! ”

“หลินหยุนส่ายศีรษะ และพูดว่า “ไม่เป็นไร ฉันยังไม่ถึงกับต้องใช้หินทิพย์เหล่านี้ของเธอ! เก็บไว้เถอะ! ”

เห็นหลินหยุนพูดขึ้นด้วยความหนักแน่น

โม่หยู่ลังเลใจเล็กน้อย

แล้วก็เก็บหินทิพย์เอาไว้

ในขณะเดียวกันก็รู้สึกเหลือเชื่อเป็นอย่างมาก คิดไม่ถึงว่าจะได้หินทิพย์มาในจำนวนที่มากพอ

ไปเข้าร่วมงานประมูลฤดูใบไม้ร่วงของหอซิวซินหนึ่งครั้ง

นึกไม่ถึงว่าจะได้รับหินทิพย์กลับมาตั้งห้าแสนก้อน

หลินหยุนยิ่งทำให้เธอรู้สึกว่า น่าอัศจรรย์มากขึ้นไปอีกแล้ว

เหมือนว่าตั้งแต่ที่หลินหยุนปรากฏตัวขึ้น ก็ได้สร้างสิ่งที่น่าอัศจรรย์ขึ้นให้กับเธอทีละเรื่องทีละเรื่อง

เริ่มจากการปลดล็อกผนึกสายเลือดในร่างของเธอ

ไปจนถึงการเข้าสู่แดนเหมันต์สูงสุดได้สำเร็จ และก็เอาตัวรอดออกมาจากวิกฤตอันตรายในแดนเหมันต์สูงสุดได้สำเร็จอีกเช่นกัน

จนถึงตอนนี้ นึกไม่ถึงว่าในช่วงเวลาสั้นเท่านี้ ก็ยังสามารถสรรหาหินทิพย์ได้ถึงห้าแสนก้อนด้วย

ทุกสิ่งทุกอย่างแสดงให้เห็นว่า หลินหยุนก็คือผู้ที่สามารถสร้างความน่าเหลือเชื่อให้เกิดขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง

เป็นผู้ที่สร้างความอัศจรรย์!

แน่นอนว่า

ถ้าหากเธอนั้นรู้ว่า ภายในระยะเวลาอันสั้นนี้

หลินหยุนสามารถสรรหาหินทิพย์ได้ไม่เพียงแค่ห้าแสนก้อน

แต่กลับมีจำนวนกว่าสองล้านก้อน

ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเธอจะมีความรู้สึกอย่างไรบ้าง

ทั้งสามคนมุ่งหน้าเดินทางกันต่อไป

ห้าเดือนต่อมา

โดยเดินทางกันทั้งกลางวันและกลางคืน

ในที่สุดทั้งสี่คนก็เดินทางมาถึงเหนือขอบฟ้าตามที่โม่หยู่ได้พูดเอาไว้

บริเวณที่ห่างออกไปหนึ่งพันลี้จากเหนือขอบฟ้านั้น

มีเมืองใหญ่อยู่เมืองหนึ่ง

คงจะเป็นเมืองทางตอนใต้สุดของเขตเหนือแล้ว

เมืองนี้มีชื่อว่าเมืองเมฆ

ตามที่โม่หยู่พูดนั้น ตั้งชื่อขึ้นจากความหมายที่ว่าเมฆลอยอยู่บนทะเล

เพราะว่าสถานที่แห่งนี้อยู่ใกล้กับทะเลไม่สิ้นอย่างมากแล้ว!

ก็จะมาออกทะเลที่นี่เช่นกัน

ดังนั้น ที่จริงแล้วเหนือขอบฟ้าเป็นสถานที่ที่คึกคักเป็นอย่างมากทีเดียว

เนื่องจากมีผู้บำเพ็ญเซียนจำนวนมากออกทะเลเพื่อไปล่าสังหารอสุรกายใต้น้ำ ดังนั้นก็จะมีพวกพ่อค้านักธุรกิจอยู่ไม่น้อยด้วย

ขณะที่หั่วหยุนพูดอยู่นั้น

สายตาก็ได้จ้องมองไปที่ฉินหลันและโม่หยู่โดยตลอด

สำหรับหลินหยุน ก็แค่กวาดสายตามองเล็กน้อยเท่านั้น

หลินหยุนดวงตาเป็นประกาย

ครุ่นคิดชั่วครู่ และพูดขึ้นว่า “ไม่ต้องหรอก พวกเราต่างก็เป็นคนแปลกหน้าไม่รู้จักกัน พวกเราแยกกันเดินทางของใครของมันจะดีกว่า! ”

ได้ยินหลินหยุนปฏิเสธ หั่วหยุนก็ไม่ได้โกรธเคือง

ขณะนั้นก็ได้หัวเราะ และพูดขึ้นว่า “สหายไม่ต้องเกรงใจไป! ของวิเศษที่ใช้เหาะเหินของพวกเรามีขนาดใหญ่มาก และสบายมากด้วย ฉันว่าพวกเราไปด้วยกันเถอะ! ”

“อีกทั้งบริเวณแห่งนี้เข้าใกล้ทะเลไม่สิ้นแล้ว”

“ซึ่งมีความอลหม่านวุ่นวายเป็นอย่างมาก”

“หากประสบกับอันตราย ยังสามารถดูแลซึ่งกันและกันได้! ”

“สหายอย่าได้ปฏิเสธไปเลย! ”

“เมื่อพบเจอกันแล้ว อย่างนั้นพวกเราก็เป็นเพื่อนกัน! ”

“ฉันคนนี้ โดยปกติมักจะชอบผูกมิตรเป็นเพื่อนกับคนอื่นอยู่แล้ว! ”

“วันนี้พบเจอกับพวกสหายทั้งหลาย เหมือนว่าได้พบเจอกับเพื่อนเก่าแก่ที่สนิทสนมอย่างไรอย่างนั้น”

“หวังว่าสหายอย่าได้ปฏิเสธไปเลย! ”

หลินหยุนยิ้มเยาะอยู่ในใจ

หั่วหยุนคนนี้

หน้าตาค่อนข้างขาวซีด

สารจิงและเลือดอ่อนแอมาก

ชัดเจนว่าโดยปกติมั่วโลกีย์ปล่อยเนื้อปล่อยตัวมากจนเกินไปจึงเป็นเช่นนี้

สำหรับที่ว่าโดยทั่วไปชอบผูกมิตรเป็นเพื่อนนั้น ยิ่งเหลวไหลสิ้นดี

สายตาของหลินหยุนเฉียบขาดขนาดไหน

ไอ้คนที่ไม่ได้เรื่องได้ราวแบบนี้ เมื่ออยู่ต่อหน้าเขาก็เหมือนกับน้ำถ้วยหนึ่ง

มองแวบเดียวก็ทะลุปรุโปร่งแล้ว

จุดประสงค์ของเขานั้น

ก็คือฉินหลันกับโม่หยู่ก็เท่านั้นเอง!

ถ้าหากเขายังคงปฏิเสธอีก เกรงว่าหั่วหยุนผู้นี้คงจะแปรเปลี่ยนสีหน้าท่าทางเป็นแน่

สีหน้าของหลินหยุนเย็นชาลงเล็กน้อย จากนั้นก็พูดว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ อย่างนั้นก็ไปด้วยกันเถอะ! แต่ว่าพวกเราจะไม่ใช้ของวิเศษที่ใช้เหาะเหินของท่าน! ”

ขณะที่พูด หลินหยุนก็หันหลังไปมองโม่หยู่ และพูดขึ้นว่า “โอเค พวกเราเดินทางกันต่อได้! ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์