ถ้าหากไม่ใช่หลินหยุน
เธอไม่มีทางปลดล็อกผนึกบนตัว!
ถ้าหากไม่ใช่หลินหยุน!
เธอไม่มีทางเข้ามาถึงแดนเหมันต์ เห็นตระกูลเดียวกันเหล่านั้นอยู่รอดในแดนเหมันต์!
ถ้าหากไม่ใช่หลินหยุน!
เธอก็ยิ่งไม่มีทางไปเขตกลางฟ้าในตอนนี้!
นี่ล้วนเป็นการปรากฏตัวของหลินหยุน นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องให้แก่เธอ
ผู้คนเริ่มขึ้นเรือกันอย่างไม่ขาดสาย
หลินหยุนก็เริ่มพาผู้หญิงทั้งสามขึ้นเรือเช่นกัน
หาที่ของตัวเอง
รู้สึกว่าไม่เลวเลยทีเดียว
สภาพแวดล้อมก็ใช้ได้
แต่ว่านอกจากสิ่งเหล่านี้แล้ว
สิ่งที่ทำให้หลินหยุนรู้สึกแปลกใจมากที่สุดยังคงเป็นเรือใหญ่ลำนี้ที่บรรจุคนได้ถึง1000คน
นี่เป็นการรวมเรือสมบัติ
เพียงแค่กลัวว่าผู้บำเพ็ญเซียนที่ทรงพลังแห่งขั้นแดนดั่งเทพก็ไม่สามารถทำลายได้
เพียงแค่เรือสมบัติลำเดียวแบบนี้ก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าปัญหาเยอะมากพอแล้ว
ก่อนอื่นก็คือทะเลไม่สิ้นผืนนี้เป็นอันตรายที่ผิดปกติจริงๆ
ไม่เช่นนั้นก็ไม่ใช้เรือสมบัติที่แข็งแรงอย่างไม่อาจจะเทียบได้เช่นนี้หรอก
นอกจากแข็งแรงแล้ว บนเรือลำนี้ยังมีค่ายกลการโจมตีที่แข็งแกร่ง
น่าจะนำมาใช้เผชิญกับโชคร้ายที่เกิดขึ้นกะทันหัน!
ทั้งสี่คนล้วนแต่เป็นห้องเดี่ยวทั้งหมด
แต่หลังจากที่หลินหยุนและฉินหลันขึ้นเรือ ก็ไปอยู่ในห้องเดียวกันก่อน
เพราะว่าสถานการณ์บนเรือนี้ ยังไม่ทราบอย่างแน่ชัด
เพราะงั้นเขาไม่มีทางให้ฉินหลันเสี่ยงอันตรายคนเดียวแน่
ยังมีอีกหน่อย
ห้องเฟิร์สคลาสนี้ จริงๆแล้วเตรียมเพื่อผู้บำเพ็ญเซียนโดยเฉพาะ
เข้าออกประตูใหญ่ ล้วนแต่ต้องใช้พลังแห่งดวงวิญญาณของตัวเอง หรือไม่ก็เป็นพลังแห่งดวงจิตถึงจะได้
แต่ว่าฉินหลันเป็นคนธรรมดา
ถ้าหากตัวเองอยู่ห้อง แม้แต่เข้าออกประตูใหญ่ก็ล้วนแต่เป็นปัญหา
และทางฝั่งสาวน้อยซินเอ๋อ
ก็เป็นแบบนี้เช่นกัน
โม่หยู่และซินเอ๋ออยู่ห้องเดียวกัน
แม้ว่าว่างสองห้อง แต่ก็เป็นเรื่องที่ไม่มีทางเลือกอื่น
ตอนที่หลินหยุนต้องการฝึกตน ค่อยไปอีกห้องหนึ่งก็ได้แล้ว
หลังจากที่ทุกคนขึ้นเรือเรียบร้อยแล้ว
เรือใหญ่ค่อยๆเคลื่อนไหว เริ่มออกจากเหนือขอบฟ้าแล้ว
ตอนที่เรือใหญ่ออกจากชายฝั่งโดยสิ้นเชิงแล้ว
หลินหยุนก็มอบฉินหลันให้กับโม่หยู่แล้วเช่นกัน
ตัวเองก็ไปฝึกตนที่ห้องส่วนตัวอีกห้องแล้ว
ตอนนี้หินทิพย์ที่อยู่ในมือของเขายังมีอีกเยอะ
เพียงพอที่เขาจะใช้ได้ช่วงเวลาหนึ่ง
อย่างรวดเร็ว
ตามการแล่นของเรือใหญ่
สัมผัสได้ถึง กลิ่นคาวที่ฉุนอย่างไม่อาจจะเทียบได้อย่างง่ายดายมาก
ถ้าหากเทียบกับตอนที่อยู่ในเมือง ฉุนกว่ามาก
อีกอย่าง คุณภาพอากาศก็ลดลงอย่างไม่หยุดหย่อน
แม้แต่ทางฝั่งของหลินหยุนก็สัมผัสได้อย่างชัดเจนมากเป็นพิเศษ
ถ้าหากไม่ได้อยู่ห้องที่มีค่ายกลรวมพลัง ไม่สามารถฝึกตนได้เลยด้วยซ้ำ
และในเวลานี้
หั่วหยุนที่อยู่ห้องเฟิร์สคลาสเหมือนกัน ยังมีผู้อาวุโสสามท่าน ก็รวมตัวอยู่ในห้องเช่นกัน
ในเวลานี้หั่วหยุน สีหน้าเคร่งขรึมอย่างมาก
มองไปยังผู้อาวุโสทั้งสองพร้อมกล่าวว่า “ผู้อาวุโสทั้งสองท่าน ฉันได้ฟังมาแล้ว!เด็กคนนี้มีชื่อว่าหลินหยุน!สำนักที่โดดเด่นในเขตเหนือของเรา ไม่มีบุคคลที่มีพละกำลังและสำคัญมากนี้เลย ”
“และผู้หญิงสองคนที่ติดตามอยู่ข้างกายของเขา”
“คนๆนั้นที่สวมใส่ชุดกระโปรงยาวสีเหลือง ก็เป็นลูกสาวของตระกูลเล็กๆทางเหนือของแคว้นน้ำแดง!”
“สรุปเลยว่า น่าจะไม่ได้มีเบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่อะไร!”
“ผู้อาวุโสสองท่าน”
“นี่เป็นโอกาสที่ดีมาก!”
“คนที่ชื่อหลินหยุนนั่น แม้ว่าผลการฝึกตนไม่ได้อ่อนแอ แต่ว่าก็เป็นเพียงจิตปฐมตอนต้นเท่านั้น!”
“ถ้าหากว่าพวกเราสามารถสับฆ่าเขาได้ หินทิพย์ที่เขาพกติดตัวทั้งหมด งั้นก็จะเป็นของพวกเราหมดเลย!”
“แล้วก็ พวกเขามีห้องเฟิร์สคลาสสี่ห้อง”
“ถึงตอนนั้นพวกเราก็ขายในราคาห้องละ 2แสนหินทิพย์!”
“นั่นก็คือ8แสนหินทิพย์!”
“ผู้อาวุโสทั้งสอง นี่เป็นรายรับก้อนโตเลยนะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...