เมืองนกนางนวลมีขนาดใหญ่มากจริง ๆ
แต่จะตั้งอยู่ในเขตใจกลางของเกาะนกนางนวลทั้งหมด
ซึ่งเป็นเกาะขนาดใหญ่ที่มีอาณาเขตโดยรอบกว่าหนึ่งหมื่นลี้
ต่อให้พลังบำเพ็ญของหลินหยุนในตอนนี้
หากต้องการที่จะเดินไปทั่วทั้งบริเวณแล้วก็จะต้องใช้เวลาหนึ่งวันเต็มเลยทีเดียว
หลินหยุนเดินตามอยู่ด้านหลังของพวกกลุ่มนางฟ้าปรวนแปร
เห็นผู้บำเพ็ญเซียนกลุ่มหนึ่ง กำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองนกนางนวล
หลินหยุนจึงไม่ได้ตามติดในระยะที่ใกล้จนเกินไป
ไม่อย่างนั้น ก็จะถูกพบเจอได้โดยง่าย
เพราะยายเฒ่าจิวซานนั้นเป็นถึงผู้เก่งกาจแดนดั่งเทพเลยทีเดียว!
ผ่านไปประมาณครึ่งวัน
ในที่สุดทุกคนก็มาถึงด้านนอกของเมืองนกนางนวลแล้ว
เมืองนกนางนวลนี้ ต้องพูดเลยว่า มีการออกแบบที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์อย่างมาก
มีรูปทรงลักษณะที่คล้ายกับนกนางนวล
ที่มีขนาดใหญ่โตอย่างที่สุด
อีกทั้งภายในนั้นเหมือนกับว่ามีพลังจิตพิเศษอย่างหนึ่งแฝงอยู่ด้วย
หลินหยุนดวงตาเป็นประกาย ขณะนั้นเจียซินก็พูดขึ้นว่า “ในตอนที่สร้างเมืองแห่งนี้นั้น น่าจะมีการไล่ล่าสังหารอสูรกายใต้น้ำเป็นจำนวนมาก! ภายในเมืองนี้มีความอาฆาตแค้นอย่างหนักหน่วงของแต่ละอสูรกายใต้น้ำ”
หลินหยุนพยักหน้า
แล้วก็เดินเข้าไปในเมือง
นางฟ้าปรวนแปรและคนอื่น ๆ ได้เดินทางไปยังคฤหาสน์ใหญ่หลังหนึ่งที่อยู่ในเมือง
ด้านนอกของคฤหาสน์ มีค่ายกลคุ้มกันที่แข็งแกร่ง
ถ้าหากไม่มีคนของพวกเขาพาเข้าไป โดยคิดที่จะบุกรุกเข้าไปด้านในเองนั้น
คงจะเป็นไปไม่ได้เลย
หลินหยุนสัมผัสรับรู้เล็กน้อย
เขาสามารถที่จะทำลายค่ายกลนี้ลงได้ เพียงแต่ว่าหากจะกระทำการอย่างเงียบเชียบนั้น คงจะไม่มีทางเป็นไปได้เลย!
ไม่นานนัก นางฟ้าปรวนแปรก็ได้พาฉินหลันกับโม่หยู่เข้าไปด้านในคฤหาสน์
แม้แต่รอยประทับบนร่างของหญิงสาวทั้งสองคนที่หลินหยุนได้ประทับเอาไว้นั้น ก็ไม่สามารถที่จะสัมผัสรับรู้ได้แล้ว
ชัดเจนว่าเป็นเพราะค่ายกลของคฤหาสน์หลังนี้
ค่ายกลมีพลังความสามารถในการปกปิดกลิ่นอายลมหายใจได้อย่างดีเยี่ยม
หลินหยุนขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย แล้วก็ลองส่งข้อความผ่านยันต์สื่อสารไปให้กับโม่หยู่
แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ
ทำให้สีหน้าของหลินหยุน ยิ่งจะหม่นหมองลงไปอีก
เขาคิดไม่ถึงว่า เมื่อเข้าไปด้านในคฤหาสน์หลังนี้แล้วจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
แต่ตอนนี้ก็คงทำอะไรไม่ได้ จำต้องรอต่อไปอีกสักระยะหนึ่งแล้วค่อยว่ากัน
สองวันติดแล้ว
ก็ยังไม่มีคนเข้าออกจากคฤหาสน์เลย
หลินหยุนจึงพูดกับเจียซินว่า “ปล่อยให้ร่างแยกหนอนชั่วของเธอเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ที่นี่ ส่วนพวกเราไปเดินเล่นในเมืองนกนางนวลกัน! ”
เจียซินได้ยินดังนั้นก็พยักหน้า พร้อมกับปล่อยหนอนชั่วสองสามตัวที่ปิดกลิ่นอายลมหายใจเอาไว้อย่างเงียบ ๆ
เพื่อเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ที่ด้านนอกของคฤหาสน์
หลินหยุนหันหลังแล้วเดินจากไป
ซึ่งในขณะที่หลินหยุนกำลังเดินจากไปนั้น ยายเฒ่าจิวซานก็มองไปที่นางฟ้าปรวนแปร และพูดขึ้นว่า “เทพธิดา คนผู้นั้นได้จากไปแล้ว”
นางฟ้าปรวนแปรพยักหน้า และพูดว่า “แน่ใจใช่ไหม? ”
ยายเฒ่าจิวซานได้ยินดังนั้น ก็ส่ายศีรษะ “ไม่แน่ใจ นอกจากจะอยู่ในระยะที่ใกล้กันมาก แต่ฉันคาดว่าไม่น่าจะใช่คนผู้นั้น เพราะจากพลังบำเพ็ญของเขาแล้วไม่สามารถที่จะมีชีวิตรอดออกมาจากสถานการณ์นั้นได้! ”
“อีกทั้งกลิ่นอายลมหายใจก็ไม่ใช่ด้วย! ”
“ผู้บำเพ็ญเซียนขั้นแดนจิตปฐม หากต้องการที่จะปรับเปลี่ยนกลิ่นอายลมหายใจทั้งหมด เพื่อปกปิดต่อผู้บำเพ็ญเซียนแดนดั่งเทพ นั่นคงเป็นเรื่องที่ยากมาก! ”
นางฟ้าปรวนแปรหัวเราะ “อาจารย์อา อย่าได้มองข้ามคนผู้นี้! คนผู้นี้กล้าที่จะตัดสินใจในช่วงสถานการณ์แบบนั้น ฉันไม่เชื่อว่าเขาจะเลือกตัดสินใจกระทำแบบนั้น ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าจะต้องจบชีวิตลง! ”
ยายเฒ่าจิวซานไม่ได้พูดอะไรต่ออีก
คำพูดนี้ของเทพธิดาไม่ใช่ว่าจะไม่ถูกต้อง
ผู้ใดกันที่รู้อยู่แก่ใจว่าจะต้องจบชีวิตลงในสถานการณ์นั้น แล้วยังจะเลือกตัดสินใจกระทำแบบนั้นอีก?
ซึ่งไร้เหตุผลโดยสิ้นเชิง
แต่เธอเองก็คิดไม่ออกว่า พวกมดแมลงที่มีพลังบำเพ็ญแค่ขั้นแดนจิตปฐม แม้แต่แดนจิตปฐมตอนกลางก็ยังไม่ใช่ จะสามารถมีชีวิตรอดมาจากสถานการณ์นั้นได้อย่างไร
สงบนิ่งไปชั่วครู่
นางฟ้าปรวนแปรก็พูดขึ้นว่า “ไม่ต้องไปสนใจเขาแล้ว ไม่ว่าจะใช่หรือไม่ใช่ ก็ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไร! ถ้าหากเป็นเขาจริง ๆ แล้ว ถ้าอย่างนั้นเป้าหมายของเขาก็คือหญิงสาวสามคนนั้นก็เท่านั้น! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...