จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1553

เมืองนกนางนวลมีขนาดใหญ่มากจริง ๆ

แต่จะตั้งอยู่ในเขตใจกลางของเกาะนกนางนวลทั้งหมด

ซึ่งเป็นเกาะขนาดใหญ่ที่มีอาณาเขตโดยรอบกว่าหนึ่งหมื่นลี้

ต่อให้พลังบำเพ็ญของหลินหยุนในตอนนี้

หากต้องการที่จะเดินไปทั่วทั้งบริเวณแล้วก็จะต้องใช้เวลาหนึ่งวันเต็มเลยทีเดียว

หลินหยุนเดินตามอยู่ด้านหลังของพวกกลุ่มนางฟ้าปรวนแปร

เห็นผู้บำเพ็ญเซียนกลุ่มหนึ่ง กำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองนกนางนวล

หลินหยุนจึงไม่ได้ตามติดในระยะที่ใกล้จนเกินไป

ไม่อย่างนั้น ก็จะถูกพบเจอได้โดยง่าย

เพราะยายเฒ่าจิวซานนั้นเป็นถึงผู้เก่งกาจแดนดั่งเทพเลยทีเดียว!

ผ่านไปประมาณครึ่งวัน

ในที่สุดทุกคนก็มาถึงด้านนอกของเมืองนกนางนวลแล้ว

เมืองนกนางนวลนี้ ต้องพูดเลยว่า มีการออกแบบที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์อย่างมาก

มีรูปทรงลักษณะที่คล้ายกับนกนางนวล

ที่มีขนาดใหญ่โตอย่างที่สุด

อีกทั้งภายในนั้นเหมือนกับว่ามีพลังจิตพิเศษอย่างหนึ่งแฝงอยู่ด้วย

หลินหยุนดวงตาเป็นประกาย ขณะนั้นเจียซินก็พูดขึ้นว่า “ในตอนที่สร้างเมืองแห่งนี้นั้น น่าจะมีการไล่ล่าสังหารอสูรกายใต้น้ำเป็นจำนวนมาก! ภายในเมืองนี้มีความอาฆาตแค้นอย่างหนักหน่วงของแต่ละอสูรกายใต้น้ำ”

หลินหยุนพยักหน้า

แล้วก็เดินเข้าไปในเมือง

นางฟ้าปรวนแปรและคนอื่น ๆ ได้เดินทางไปยังคฤหาสน์ใหญ่หลังหนึ่งที่อยู่ในเมือง

ด้านนอกของคฤหาสน์ มีค่ายกลคุ้มกันที่แข็งแกร่ง

ถ้าหากไม่มีคนของพวกเขาพาเข้าไป โดยคิดที่จะบุกรุกเข้าไปด้านในเองนั้น

คงจะเป็นไปไม่ได้เลย

หลินหยุนสัมผัสรับรู้เล็กน้อย

เขาสามารถที่จะทำลายค่ายกลนี้ลงได้ เพียงแต่ว่าหากจะกระทำการอย่างเงียบเชียบนั้น คงจะไม่มีทางเป็นไปได้เลย!

ไม่นานนัก นางฟ้าปรวนแปรก็ได้พาฉินหลันกับโม่หยู่เข้าไปด้านในคฤหาสน์

แม้แต่รอยประทับบนร่างของหญิงสาวทั้งสองคนที่หลินหยุนได้ประทับเอาไว้นั้น ก็ไม่สามารถที่จะสัมผัสรับรู้ได้แล้ว

ชัดเจนว่าเป็นเพราะค่ายกลของคฤหาสน์หลังนี้

ค่ายกลมีพลังความสามารถในการปกปิดกลิ่นอายลมหายใจได้อย่างดีเยี่ยม

หลินหยุนขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย แล้วก็ลองส่งข้อความผ่านยันต์สื่อสารไปให้กับโม่หยู่

แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ

ทำให้สีหน้าของหลินหยุน ยิ่งจะหม่นหมองลงไปอีก

เขาคิดไม่ถึงว่า เมื่อเข้าไปด้านในคฤหาสน์หลังนี้แล้วจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น

แต่ตอนนี้ก็คงทำอะไรไม่ได้ จำต้องรอต่อไปอีกสักระยะหนึ่งแล้วค่อยว่ากัน

สองวันติดแล้ว

ก็ยังไม่มีคนเข้าออกจากคฤหาสน์เลย

หลินหยุนจึงพูดกับเจียซินว่า “ปล่อยให้ร่างแยกหนอนชั่วของเธอเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ที่นี่ ส่วนพวกเราไปเดินเล่นในเมืองนกนางนวลกัน! ”

เจียซินได้ยินดังนั้นก็พยักหน้า พร้อมกับปล่อยหนอนชั่วสองสามตัวที่ปิดกลิ่นอายลมหายใจเอาไว้อย่างเงียบ ๆ

เพื่อเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ที่ด้านนอกของคฤหาสน์

หลินหยุนหันหลังแล้วเดินจากไป

ซึ่งในขณะที่หลินหยุนกำลังเดินจากไปนั้น ยายเฒ่าจิวซานก็มองไปที่นางฟ้าปรวนแปร และพูดขึ้นว่า “เทพธิดา คนผู้นั้นได้จากไปแล้ว”

นางฟ้าปรวนแปรพยักหน้า และพูดว่า “แน่ใจใช่ไหม? ”

ยายเฒ่าจิวซานได้ยินดังนั้น ก็ส่ายศีรษะ “ไม่แน่ใจ นอกจากจะอยู่ในระยะที่ใกล้กันมาก แต่ฉันคาดว่าไม่น่าจะใช่คนผู้นั้น เพราะจากพลังบำเพ็ญของเขาแล้วไม่สามารถที่จะมีชีวิตรอดออกมาจากสถานการณ์นั้นได้! ”

“อีกทั้งกลิ่นอายลมหายใจก็ไม่ใช่ด้วย! ”

“ผู้บำเพ็ญเซียนขั้นแดนจิตปฐม หากต้องการที่จะปรับเปลี่ยนกลิ่นอายลมหายใจทั้งหมด เพื่อปกปิดต่อผู้บำเพ็ญเซียนแดนดั่งเทพ นั่นคงเป็นเรื่องที่ยากมาก! ”

นางฟ้าปรวนแปรหัวเราะ “อาจารย์อา อย่าได้มองข้ามคนผู้นี้! คนผู้นี้กล้าที่จะตัดสินใจในช่วงสถานการณ์แบบนั้น ฉันไม่เชื่อว่าเขาจะเลือกตัดสินใจกระทำแบบนั้น ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าจะต้องจบชีวิตลง! ”

ยายเฒ่าจิวซานไม่ได้พูดอะไรต่ออีก

คำพูดนี้ของเทพธิดาไม่ใช่ว่าจะไม่ถูกต้อง

ผู้ใดกันที่รู้อยู่แก่ใจว่าจะต้องจบชีวิตลงในสถานการณ์นั้น แล้วยังจะเลือกตัดสินใจกระทำแบบนั้นอีก?

ซึ่งไร้เหตุผลโดยสิ้นเชิง

แต่เธอเองก็คิดไม่ออกว่า พวกมดแมลงที่มีพลังบำเพ็ญแค่ขั้นแดนจิตปฐม แม้แต่แดนจิตปฐมตอนกลางก็ยังไม่ใช่ จะสามารถมีชีวิตรอดมาจากสถานการณ์นั้นได้อย่างไร

สงบนิ่งไปชั่วครู่

นางฟ้าปรวนแปรก็พูดขึ้นว่า “ไม่ต้องไปสนใจเขาแล้ว ไม่ว่าจะใช่หรือไม่ใช่ ก็ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไร! ถ้าหากเป็นเขาจริง ๆ แล้ว ถ้าอย่างนั้นเป้าหมายของเขาก็คือหญิงสาวสามคนนั้นก็เท่านั้น! ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์