สุ่ยหยุนพูดว่า “ไม่จำเป็นต้องขอบคุณหรอก ก็แค่คุณหนูของเราให้ฉันมาคอยอารักขาส่งคุณชายหลินหยุนก็เท่านั้นเอง! ”
เมื่อพูดจบ
สุ่ยหยุนก็กวัดแกว่งแขน
เรือมังกรก็ลอยกลับไปทันที
ในเมื่อเธอปรากฏตัวขึ้น และก็ทำการหยุดขัดขวางแล้ว
นั่นก็เพียงพอแล้ว
ไม่จำเป็นที่จะต้องคอยอารักขาต่อไปอีก
หลินหยุนเห็นฝ่ายตรงข้ามจากไป
ก็ชะงักไปชั่วครู่ จากนั้นก้พูดกับฉินหลันและโม่หยู่ว่า “พวกเราก็ไปกันเถอะ! ”
ครึ่งวันผ่านไป
ทั้งสี่คนก็ขึ้นเรืออีกครั้ง
แต่ว่า เพราะหลินหยุนปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์
รวมถึงกลิ่นอายลมหายใจเดิม
ดังนั้นก็เลยไม่มีใครจดจำเขาได้
ที่เกาะนกนางนวลนี้ก็มีผู้คนขึ้นเรือมาจำนวนไม่น้อย
ทั้งหมดล้วนเป็นผู้บำเพ็ญเซียนของแต่ละสำนักใหญ่ ภายในเมืองนกนางนวล
แน่นอนว่า ในจำนวนนั้นก็มีผู้ฝึกอิสระอยู่บ้าง
หลังจากที่ขึ้นเรือแล้ว
หลินหยุนก็เข้าไปในห้องพักส่วนตัวเพื่อที่จะเก็บตัวบำเพ็ญฝึกฝน
เขาเพิ่งจะกลืนกินแก้วหินวิญญาณของพญาค้างคาวนั้นเข้าไป
ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เขาจะต้องสร้างความแข็งแกร่งให้กับจิตวิญญาณอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้นจึงไม่อยากที่จะเสียเวลาไปมากกว่านี้
ทุกคนขึ้นเรือเรียบร้อย
และหลังจากที่ผู้อารักขาได้นับตรวจสอบจำนวนคนที่ขึ้นเรือแล้ว เรือใหญ่ก็ค่อย ๆ ขับเคลื่อนออกจากเกาะนกนางนวลอีกครั้ง
มุ่งหน้าเดินทางไปยังเขตกลางฟ้า
สำหรับหลินหยุน
ตอนที่ผู้อารักขาได้ทำการตรวจสอบสถานะนั้น ก็พบเข้าโดยตรง
ขณะมองไปที่หลินหยุน
ความตื่นตระหนกตกใจนั้น ช่างมากมายเกินกว่าที่จะบรรยาย
แต่หลังจากที่ตื่นตกใจแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม
เดินออกไปจากห้องพักส่วนตัวของหลินหยุน
เรือใหญ่ขับเคลื่อนมุ่งหน้าไปยังทิศใต้
ยังเหลือระยะเวลาการเดินทางอีกหนึ่งปีกว่า
จะว่านานก็ไม่นาน จะว่าเร็วก็ไม่เร็ว
แต่หลินหยุนก็ไม่ได้ลดความระมัดระวังตัวลง
ทำตามที่สุ่ยหยุนได้เคยพูดเตือนเอาไว้
เฮยเฟิงของสมาคมออมชอมทะเลคือน้องชายแท้ ๆ ของเจ้าสำนักพญาทะเล
ถ้าเป็นเช่นนี้
ถ้าอย่างนั้นเรือใหญ่ลำนี้ก็เทียบเท่ากับว่าเป็นของทางเฮยเฟิงแล้ว
แม้ว่าก่อนหน้านี้ เฮยเฟิงเหมือนอยากที่จะกำหนดกรอบความสัมพันธ์ที่ชัดเจนกับสำนักพญาทะเล
แต่ดูแล้ว
ใครก็ไม่กล้าที่จะกระทำจริง ๆ เป็นแน่!
ด้วยสถานะของสำนักพญาทะเล
ในเกาะนกนางนวลแห่งนี้ ในบริเวณทะเลไม่สิ้นแห่งนี้
แม้ต่อให้เป็นถึงสำนักเลือนรางเองก็ยังคงมีความหวาดกลัวอยู่บ้าง
ไม่อยากที่จะทะเลาะหักหน้าฝ่ายตรงข้ามอย่างเป็นจริงเป็นจัง
นั่นแสดงว่าสำนักพญาทะเลนั้นมีความแข็งแกร่งมากขนาดไหน!
แต่เมื่อเดินทางไปนานหลายเดือนแล้ว พวกคนของสมาคมออมชอมทะเลนั้นก็ไม่ได้ปรากฏตัวออกมาเลย
เขาถึงขนาดทำการสำรวจเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่พบแม้แต่เงาของพวกคนเหล่านั้น
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก
ครึ่งปีผ่านไป
ในที่สุดเส้นชายฝั่งทะเลที่ยาวไร้ขอบเขตนั้นก็ปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าแล้ว
เขตกลางฟ้า
ในที่สุดก็ใกล้จะถึงแล้ว
แม้ว่าเวลานี้จะยังคงอยู่ในทะเลไม่สิ้น
แต่ระดับความหนาแน่นของชี่ทิพย์ในอากาศนั้น มีมากกว่าทางเขตเหนือแล้ว
นับตั้งแต่ที่เห็นเส้นชายฝั่งทะเลที่ทอดยาว
เรือใหญ่ก็ยังคงขับเคลื่อนอยู่อีกสองเดือน ถึงจะได้เข้าใกล้ชายฝั่ง
และเมื่อยิ่งเข้าใกล้กับพื้นดินมากขึ้น
ชี่ทิพย์ในอากาศนั้นก็จะยิ่งมีความหนาแน่นมากขึ้น
สภาพกลิ่นในอากาศโดยทั่วไป เต็มไปด้วยกลิ่นหอมหวาน
วันนี้
ในที่สุดเรือใหญ่ก็ได้เข้าเทียบชายฝั่งแล้ว
บนเรือก็มีเสียงตะโกนโห่ร้องแสดงความยินดีดังขึ้นเป็นระยะ
เขตกลางฟ้า!
ใช้เวลาในการเดินทางทั้งสิ้นสามปี
ในที่สุดก็ผ่านพ้นอันตรายความเสี่ยงจนมาถึงที่หมายแห่งนี้แล้ว
พวกคนเหล่านี้โชคดีเป็นอย่างมาก
เพราะมีผู้คนจำนวนไม่น้อย ที่ต้องตายลงในระหว่างการเดินทาง
ร่างศพถูกฝังอยู่ท่ามกลางทะเลไม่สิ้นที่กว้างใหญ่ไพศาล
ซึ่งในบริเวณที่ห่างออกไปนับพันลี้ด้านหลังของเรือใหญ่นั้น
หลังจากที่รอให้เรือใหญ่เทียบท่าชายฝั่งทะเลแล้ว
ร่างที่ใหญ่มหึมานั้นก็หยุดการติดตามลง
หลังจากที่หยุดพักสักชั่วครู่แล้ว ก็ได้ย้อนกลับไปยังทะเลไม่สิ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...