คำพูดของหลินหยุน ทำให้ฉินหลันกับโม่หยู่เป็นกังวลกันขึ้นมา
โดยเฉพาะทางฝั่งโม่หยู่
ถึงขั้นไม่เข้าใจ ว่าทำไมหลินหยุนถึงได้มีอคติกับซินเอ๋อขนาดนี้
จริงๆ แล้วแต่ตั้งตอนแรก
หลินหยุนไม่เคยมองหน้าซินเอ๋อตรงๆ เลย
ไม่ว่าจะสำหรับฉินหลัน
หรือว่าสำหรับโม่หยู่
ล้วนไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะอะไร
แต่ตอนนี้
คำพูดของหลินหยุน
ก็ยิ่งทำให้พวกเธอมึนเข้าไปใหญ่
นี่มันไม่ใช่การพูดกับเด็กคนหนึ่ง
แต่มันเป็นการพูดกับคนเก่งที่มีความคิดทางด้านแผนการอย่างลึกซึ้ง
แต่ว่าก่อนหน้านี้
ฉินหลันไม่ได้พูดอะไร
เพราะว่าเธอรู้ว่าตนเองไม่ค่อยเข้าใจสิ่งพวกนี้
และยิ่งไม่เข้าใจเด็กผู้หญิงคนนี้
แต่เธอรู้ว่า
อยู่ดีๆ หลินหยุนคงจะไม่พูดกับคนอื่นด้วยกิริยาท่าทางแบบนี้
ที่หลินหยุนทำแบบนี้
คงจะต้องมีเหตุผลของเขา
ดังนั้น
พอคิดไปเสียแบบนี้
ถึงแม้ฉินหลันจะสนิทกับนิดหน่อย
แต่จริงๆ แล้วมันก็มีข้อจำกัด
ส่วนโม่หยู่
เธอก็แค่คิดไม่ตกเท่านั้นเอง
ตอนนี้ก็เห็นซินเอ๋อก้มหัวไปจนจะถึงหน้าอก ท่าทางเหมือนจะร้องไห้
โม่หยู่มองไปทางหลินหยุน แล้วก็พูดออกมาเบาๆ ว่า “พี่หลิน คือพี่......เข้าใจอะไรผิดกับซินเอ๋อหรือเปล่า......”
หลินหยุนยกมือขัดจังหวะเธอพูด สายตาก็จ้องไปที่ตัวของซินเอ๋ออีกครั้ง แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “ผมหวังว่าคำพูดที่ผมพูดออกไปทั้งหมด คุณจะจำมันไว้ให้ดี”
ซินเอ๋อได้ยินดังนั้นก็พยักหน้ารัวๆ พร้อมพูดว่า “พี่หลินวางใจได้ ซินเอ๋อจะจดจำให้ขึ้นใจ!”
ท่าทางที่กลัวๆ ใครเห็นก็สงสารนี้
ไม่รู้ว่าทำให้ใครหลายคนมีใจคิดชั่วไปมากเท่าไรแล้ว
ทำท่าเหมือนตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรม
แต่หลินหยุนก็ยังคงทำใบหน้าเย็นชาเหมือนเดิม ไม่ใช้คำพูดหรือสีหน้าอะไรมากปกปิดอารมณ์
นิ่งไปครู่หนึ่ง
หลินหยุนก็พูดว่า “แบบนี้ก็ดี!”
พูดไป ก็มองไปยังฉินหลันกับโม่หยู่ “พวกคุณออกไปก่อน ผมจะปลดการผนึกสายเลือดให้กับเธอ!”
สองสาวพยักหน้า
แล้วก็หันตัวเข้าถ้ำวิมานไป
หลินหยุนก็เริ่มปลดผนึกให้กับซินเอ๋อ
ระยะเวลาที่ลงมือ ยาวนานถึงสามวันสามคืน
ถึงจะจบสำเร็จเรียบร้อยทั้งหมด
พอมีเสียงตะโกนเสียงต่ำๆ ออกมา
ผนึกก็ถูกปลดออกทั้งหมด
หลินหยุนก็กระอักเลือดออกมากองใหญ่
สีหน้าก็ขาวซีด
มันเหมือนกับที่เขาคาดการณ์ไว้
ครั้งนี้ที่ถูกพลังสะท้อนกลับ มันรุนแรงจนเขาเกือบจะรับไว้ไม่ไหว
อีกอย่าง
การปลดผนึกครั้งนี้
จะต้องถูกฝั่งตรงข้ามรับรู้ได้ถึงพลังที่แข็งแกร่งกว่าเดิม!
ก็เลยเก็บตัวฝึกวิชาอยู่ในถ้ำวิมานเกือบครึ่งเดือน
พอฟื้นตัวมาได้บ้างแล้ว
หลินหยุนก็ค่อยออกมา
แล้วพาผู้หญิงสามคนมุ่งหน้าลงใต้ต่อไป
พอปลดผนึกให้กับซินเอ๋อแล้ว
ก็เหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
แต่ว่า
กลับไม่เห็นใบหน้าที่มีอารมณ์ดีใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าอันอ่อนโยนของเธอเลย
คนที่ตื่นเต้นที่สุด
ก็คือโม่หยู่
พอเห็นว่าบนตัวของซินเอ๋อมีการเปลี่ยนแปลง
ความตื่นเต้นของโม่หยู่มันก็เกินคำที่ใช้คำอะไรมาบรรยายได้
จากนั้นก็เดินทางกันอีกหลายเดือน
ในที่สุดก็มาถึงยังเมืองใหญ่แห่งหนึ่ง
นั่นก็คือจุดหมายที่ตั้งไว้ก่อนหน้านี้
เมืองฉงเซียว
มองไปยังเมืองที่กว้างใหญ่และมีความยิ่งใหญ่อยู่ตรงหน้า
ผู้หญิงสามคนระทึกใจจนต้องหายใจเข้ากันอย่างลึก
หลินหยุนก็มีสายตาเย็นชา
ระแวดระวังอย่างมาก
นิ่งไปครู่ใหญ่
หลินหยุนก็ส่ายหัว แล้วไม่เลือกเข้าไปในเมือง
อันตรายเกินไป
เมืองใหญ่แบบเมืองฉงเซียวนี้
จะต้องมีหมายจับลาล่าที่สำนักพญาทะเลประกาศแล้วแน่นอน
พอเข้าเมืองไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...