เมื่อข่าวสารเรื่องนี้แพร่กระจายออกมา ทำให้ทุกคนในเมืองให้ความสนใจเรื่องนี้ทันที
เพราะเขาเป็นไท่จื่อนะ! คือคนที่จะสืบทอดบัลลังก์คนต่อไป!
ในอนาคตข้างหน้า เขาจะเป็นคนที่มีอำนาจมากที่สุด!
จนถึงตอนนี้ สุดยอดอัจฉริยะที่สามารถเทียบกับรัชทายาทนั้นมีน้อยมากๆ
ประเด็นหลักคือทุกคนคาดคิดไม่ถึงจริงๆ คนที่มาจัดงานในปีนี้จะเป็นไท่จื่อ
งานสรรเสริญเก้าสำนักทุกๆปีที่ผ่านมา ราชวงศ์จะส่งองค์ชายมาแค่คนเดียวเท่านั้น
และไม่ได้ส่งองค์ชายคนไหนมาเป็นประจำเลย
ครั้งนี้รัชทายาทมาด้วยตัวเอง เรื่องนี้ทำให้ทุกคนคาดคิดไปต่างๆนาๆ
แน่นอนว่าเรื่องเหล่านี้ สำหรับหลินหยุนแล้ว เขาไม่สนใจอะไรอยู่แล้ว
เขาคิดเพียงแค่ใช้โอกาสครั้งนี้เพื่อรู้จักกับวัยรุ่นที่มีฐานะไม่ธรรมดาเท่านั้น
เรื่องนี้มันเป็นผลดีมากๆกับการที่เขาสืบค้นเรื่องราวของสนามรบหมื่นจักรวาล
หลังจากผ่านไปสามวัน หลินหยุนพาฉินหลันมาถึงหน้าวัง
เพราะที่นี่คือวังของราชวงศ์ มีกฎระเบียบเยอะมากๆ คนที่มาที่นี่ก็มีเยอะเหมือนกัน อย่างน้อยก็คงมีหลายร้อยคน พวกเขาต่างเป็นวัยรุ่น มีทั้งผู้ชายและผู้หญิง ทั้งหมดอายุไม่ถึงสามสิบปี พวกเขาทุกคนต่างเป็นยอดฝีมือแดนจิตปฐม
เมื่อหลินหยุนพาฉินหลันมาถึง และต่อแถวเพื่อเดินเข้าไป คนที่อยู่บริเวณโดยรอบ พวกเขามองหลินหยุนแค่ครั้งเดียวเท่านั้น แต่เมื่อพวกเขามองเห็นฉินหลัน ทำให้พวกเขาขมวดคิ้วทันที เพราะบนตัวของฉินหลันไม่มีพลังชี่ทิพย์แม้แต่นิดเดียวเลย
ในประกาศของรัชทายาทมีระบุไว้อย่างชัดเจน คนที่เข้ามาต้องอายุไม่เกินสามสิบปี และต้องฝึกฝนถึงแดนจิตปฐมเท่านั้น อายุของฉินหลันนั้นไม่ถึงสามสิบปีจริงๆ แต่เธอกลับไม่มีพลังอะไรเลย เรื่องนี้ทำให้ทุกคนขมวดคิ้วทันที แต่ไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลย
ผ่านไปไม่นาน หลินหยุนพาฉินหลันเดินมาถึงหน้าประตูที่มีทหารเฝ้าประตูอยู่
ทหารเฝ้าประตูมองหน้าหลินหยุนเพียงแค่ครั้งเดียว จากนั้นก็หยิบหินหมึกเทาออกมา
มันเอาไว้ตรวจสอบพลังของนักบำเพ็ญเซียนโดยเฉพาะ
หลินหยุนวางมือไว้ด้านบน มีแสงสีเหลืองพุ่งออกมาจากหินหมึกเทาทันที
แดนจิตปฐมตอนต้น
ทหารเฝ้าประตูมอบป้ายหยกแสดงฐานะให้หลินหยุนและพูดอย่างเคร่งขรึม"หลังจากเข้าไปแล้ว ห้ามเดินไปไหนมาไหนเองโดยพลการ! ต้องทำตามคำสั่งเท่านั้น!"
หลินหยุนรับป้ายหยกเอาไว้ทันที จากนั้นเขาก็พาฉินหลันเข้าไปด้านในวังทันที
แต่ในเวลานี้ ทหารเฝ้าประตูสองคนพูดอย่างเคร่งขรึมอีกครั้ง"รอเดี๋ยวก่อน!"
หลินหยุนทำตัวเหมือนไม่รู้อะไรเลย เขาหยุดเดินและหันหน้ากลับไปมองทหารเฝ้าประตูสองคน"พวกคุณสองคนยังมีเรื่องอะไรอีกเหรอ?"
ทหารเฝ้าประตูสองคนขมวดคิ้วทันที มีคนหนึ่งชี้ไปที่หลินหยุนและพูดอย่างเย็นชา"อนุญาตให้คุณเข้าไปได้เพียงแค่คนเดียว! ถ้าเธออยากเข้าไปด้วย ก็ต้องตรวจสอบพลังก่อน! ถ้าพลังตรงตามหลักเกณฑ์ที่ไท่จื่อกำหนดไว้ถึงจะสามารถเข้าไปได้!"
หลินหยุนพูดเบาๆ"ฉันพาเพื่อนมาด้วย ดูเหมือนฉันก็ไม่ได้ทำผิดกฎระเบียบอะไรเลย?"
เมื่อทหารเฝ้าประตูได้ยิน สีหน้าของเขาก็โกรธมากๆ"ถ้าอายุหรือพลังชี่ไม่ตรงตามหลักเกณฑ์ ไม่สามารถเข้าไปได้ และไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมงานย่องเยาว์!"
หลินหยุนพูด"ฉันจำได้ว่าบนประกาศ ไม่ได้ระบุว่าห้ามพาคนอื่นๆเข้ามาด้วย?"
สีหน้าของทหารเฝ้าประตูแย่มากๆ เขารีบเก็บหินหมึกเทาที่อยู่ในมือทันที และมืออีกครั้งหนึ่งก็จับกระบี่ที่พกอยู่ที่เอว
เขาพูดอย่างเคร่งขรึม"คุณตั้งใจมาหาเรื่องใช่ไหม?"
หลินหยุนพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบ"มีคนพูดว่า ทั่วทั้งแผ่นดิน ต่างเป็นของราชวงศ์! ถึงฉันจะใจกล้ามากแค่ไหน ฉันก็ไม่กล้าหาเรื่องไท่จื่อในเมืองซวูอู๋อยู่แล้ว"
"อย่างไรก็ตาม!"
"ไท่จื่อของพวกคุณจัดงานงานย่องเยาว์ขึ้นมา!"
"เพราะเขาอยากจะรู้จักยอดฝีมือวัยรุ่นเยอะๆ และคนพวกนี้ก็จะเป็นกำลังให้เขาในอนาคต!"
"เรื่องเหล่านี้ทุกคนต่างก็รู้ดี!"
"การที่ฉันมาที่นี่!"
"มันแสดงให้เห็นแล้วว่าฉันให้เกียรติไท่จื่อมากๆ!"
"พูดกันตามตรงเลย ให้โอกาสกับไท่จื่อของพวกคุณได้รู้จักฉัน!"
"ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ฉันพาเพื่อนมาด้วยคนหนึ่ง ไท่จื่อของพวกคุณจะไม่อนุญาตเลยเหรอ?"
"ประการแรก ฉันไม่ได้ทำผิดกฎระเบียบที่เขาตั้งเอาไว้!"
"ประการที่สอง การที่ฉันพาเพื่อนเข้าไปด้วย แสดงให้เห็นถึงความใจกว้างของไท่จื่อด้วย!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...