ยาวยู่!
เขาเป็นคนที่มีชื่อเสียงมากๆ!
เขาเป็นสุดยอดอัจฉริยะไม่กี่คนที่สามารถเปรียบเทียบกับลูกศิษย์อัจฉริยะของเก้าสำนักใหญ่ได้!
สำนักอสูรฟ้าฝึกฝนมรรคาร่างกายและฝึกฝนดวงจิตย์เทพด้วย พลังทั้งสองอย่างคอยเกื้อหนุนกัน
ทำให้วิชาอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของคุณยาวยู่แข็งแกร่งมากๆ
พลังร่างกายแข็งแกร่งจนยากจะคาดเดาได้!
ถ้าเป็นนักบำเพ็ญเซียนทั่วไป ถึงแม้จะฝึกฝนถึงแดนจิตปฐมตอนปลาย พลังร่างกายก็สู้คุณชายยาวยู่ไม่ได้
คุณชายยาวยู่คนนี้ ดูแล้วอายุน่าจะประมาณสิบเจ็ดสิบแปดปี แต่ว่ามันก็ดูเหมือนคนอายุน้อยๆเท่านั้น
เขาเป็นคนหัวล้าน มีดวงตาที่ใสและมีฟันที่ขาวสะอาด ดูแล้วเป็นคนที่อบอุ่นมากๆ
แต่ในสายตาของเขาดูร้ายกาจมากๆ คนประเภทนี้ ถ้าอยู่ในวงการดาราในโลกไกอา หน้าตาอันหล่อเหลาของเขา น่าจะได้รับความนิยมมากๆ
เมื่อยาวยู่เดินออกมา สายตาของหลินหยุนก็เปล่งประกายทันที คนๆนี้มีพลังที่ไม่ธรรมดาเลย!
จากพลังของเขา ทำให้หลินหยุนรู้สึกได้ถึงอันตรายทันที
พลังร่างกายของเขามีเยอะมากๆ มันเคลื่อนไหวไปทั่วทั้งร่างกาย ราวกับร่างกายของเขาเป็นจุดศูนย์กลางของพลังทั้งหมด
วิชาฝึกฝนร่างกายของคนๆนี้จะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
แน่นอนว่าหลินหยุนก็ไม่ได้หวาดกลัวอีกฝ่ายอยู่แล้ว ร่างเทพเบญจธาตุของเขาฝึกฝนได้ระดับหนึ่งแล้ว
เมื่อเห็นอีกฝ่ายเดินเข้ามาอย่างช้าๆทีละก้าวๆ หลินหยุนก็เดินออกมาทันที ทั้งสองคนยืนประจันหน้ากัน
คุณชายยาวยู่หยุดเดินทันที จากนั้นก็มองหลินหยุนและพูด"ตำแหน่งนี้ไม่ใช่ที่ๆคุณควรมานั่ง! ไม่ต้องพูดถึงอัจฉริยะจากเก้าสำนักใหญ่เลย แม้แต่พวกเราก็ไม่พอใจที่คุณมานั่งตำแหน่งนี้อยู่แล้ว!"
"ดังนั้น คุณออกจากตำแหน่งนี้ได้แล้ว"
"ฉันจะไม่ลงมือทำร้ายคุณ!"
"ถ้าให้คุณนั่งอยู่ในตำแหน่งนี้จริงๆ!"
"มันก็เหมือนพวกเราทุกคนที่อยู่ตรงนี้โดนตบหน้า เรื่องนี้พวกเรายอมรับไม่ได้!"
"ฉันเข้าใจว่าคุณอยากจะกลายเป็นจุดสนใจของทุกคน!"
"แต่ตำแหน่งนี้ คุณไม่ควรเข้ามานั่งจริงๆ!"
"หวังว่าคุณจะเข้าใจในสิ่งที่ฉันพูด!"
เมื่อหลินหยุนได้ยิน ก็หัวเราะออกมาทันทีและพูด"ดูเหมือนคุณจะเป็นคนที่มีมารยาทมากๆ ถึงแม้ร่างกายของคุณจะมีสายเลือดของเผ่าปีศาจ แต่คุณกลับดูเหมือนคนมากว่าวัยรุ่นที่ลงมือเมื่อสักครู่!"
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินหยุน ภายในชั่วพริบตา สีหน้าของคุณชายยาวยู่เปลี่ยนไปทันที
ดวงตาของเขาเย็นชาขึ้นมาทันที ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็หายใจเร็วด้วยความตกตะลึง
ต้องรู้ไว้เรื่องหนึ่ง ไม่เพียงแค่คุณชายยาวยู่เท่านั้น ทุกคนในสำนักอสูรฟ้าเกลียดเรื่องหนึ่งมากๆ เรื่องนั้นก็คือการเรียกพวกเขาว่าเป็นเผ่าปีศาจ
เนื่องจากพวกเขาไม่ใช่เผ่าปีศาจ ถึงแม้พวกเขาจะฝึกฝนทักษะวิชาฝึกร่างอสูรฟ้า
เมื่อฝึกฝนทักษะวิชาฝึกร่างของเผ่าปีศาจได้ระดับหนึ่งแล้ว ร่างกายของพวกเขาก็จะเปลี่ยนเป็นเผ่าปีศาจทันที
เรื่องนี้ไม่มีใครสามารถแก้ไขได้ ถ้าพวกเขาฝึกฝนต่อไปเรื่อยๆ อาจจะทำให้พวกเขามีสายเลือดอสูรฟ้าอีกด้วย
มีบางคนอาจจะพูดว่ามนุษย์ธรรมดาทั่วไป หลังจากฝึกฝนทักษะวิชาฝึกร่างอสูรฟ้าแล้ว ก็ไม่น่าจะมีสายเลือดอสูรฟ้านะ มันไม่สมเหตุสมผลเลย
พูดกันตามตรง ถ้าพูดด้วยหลักการแล้ว มันก็ควรจะเป็นแบบนั้น
แต่ทักษะวิชาฝึกร่างอสูรฟ้านั้น ก่อนที่จะฝึกฝน จำเป็นต้องดื่มเลือดสดของอสูรฟ้า
เรื่องนี้คือเงื่อนไขแรกและเป็นสิ่งที่ต้องทำ
และเป็นการกำหนดด้วยว่านักบำเพ็ญเซียนสามารถฝึกฝนถึงระดับไหน
การดื่มเลือดอสูรฟ้าและให้ร่างกายของตัวเองกับเลือดอสูรฟ้ารวมเข้าด้วยกัน
ถ้ามีคนฝึกฝนสิบคน มีแปดคนที่ร่างกายเกิดการระเบิดจนเสียชีวิต
ที่เหลืออีกสองคน ถึงแม้ร่างกายจะไม่ระเบิด แต่ก็จะถูกพลังสายเลือดอสูรฟ้าทำลายทันที
กลายเป็นคนบ้าหรือคนโง่ มันยังถือว่าโชคดีมากๆ
ถ้ามีคนฝึกฝนหนึ่งหมื่นคน อาจจะทำสำเร็จแค่คนเดียวก็ได้ คนที่ทำสำเร็จนั้น ถึงจะมีสิทธิ์ฝึกฝนทักษะวิชาฝึกร่างอสูรฟ้า
และยังต้องดูว่าเลือดอสูรฟ้าของคนๆนั้นจะรวมเข้ากับร่างกายได้ดีขนาดไหน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...