ดังนั้น ยาวยู่ก็เลยไม่ได้พูดอะไรอีก เขาหันหลังและเดินเข้าไปในฝูงชนทันที
และในเวลานี้ มีพลังที่เย็นชามากๆ ปะทุออกมาจากฝูงชน จากนั้นก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมาทันที
เมื่อเห็นผู้หญิงคนนี้เดินออกมา สายตาของทุกคนเบิกกว้างทันที เพราะผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน เธอคือสุ่ยซิง เป็นอัจฉริยะจากสำนักปี้สุ่ย!
ในลูกศิษย์รุ่นนี้ของสำนักปี้สุ่ย เธอแข็งแกร่งมากๆและอยู่ในสามอันดับแรกด้วย
ตอนนี้เธออายุยี่สิบเจ็ดปีและฝึกฝนถึงแดนจิตปฐมตอนกลางแล้ว
เธอฝึกฝนเพลงกระบี่ปี้สุ่ยอยู่ในระดับที่สูงมากๆเช่นกัน
ทั่วทั้งเก้าสำนักใหญ่กับสำนักระดับสองในเขตกลางฟ้าและยังมีสำนักต่างๆ ความแข็งแกร่งของสุ่ยซิง น่าจะอยู่ในร้อยอันดับแรก
ร้อยอันดับแรก เป็นอันดับที่ไม่ต่ำแล้ว!
ต้องรู้ไว้เรื่องหนึ่ง เขตกลางฟ้านั้นกว้างใหญ่ไพศาลมากๆ มีสำนักต่างๆนับไม่ถ้วน อย่าคิดว่าสำนักใหญ่ๆมีแค่เก้าสำนักเท่านั้น แต่สำนักระดับสองกับสำนักระดับสามมีอยู่หลายร้อยสำนักเลย
ถ้าพูดถึงคุณชายยาวยู่ละก็ ลูกศิษย์ของแปดสำนักใหญ่ที่อยู่ในเหตุการณ์และสามารถเอาชนะเขาได้ หนึ่งในนั้นต้องมีสุ่ยซิงอย่างแน่นอน
สุ่ยซิงใส่ชุดสีฟ้า และมือจับกระบี่ยาวเล่มหนึ่งอยู่ พลังของเธอเยือกเย็นมากๆและเธอก็ค่อยๆเดินออกมา สายตาอันเย็นชาของเธอ กำลังจ้องมองหลินหยุนอยู่
ในเวลานี้ หลินหยุนก็มองหน้าอีกฝ่ายเหมือนกัน
จากนั้นก็หัวเราะอย่างเย็นชาและพูด"ฉันคิดว่าพวกคุณควรเลือกคนที่แข็งแกร่งที่สุดออกมาต่อสู้กับฉันจะดีกว่า การขึ้นมาต่อสู้กับฉันทีละคนๆแบบนี้ มันเหมือนกับพวกแมลงวันที่บินไปมา ทำให้ฉันรู้รังเกียจมากๆ!"
เมื่อพูดคำนี้พูดออกมา มันเป็นคำพูดที่อวดดีมากๆ!
คนส่วนใหญ่ที่อยู่ในเหตุการณ์ พวกเขาแสดงความไม่พอใจออกมาทันที
นี่เป็นคำพูดที่ควรพูดออกมาเหรอ ?
เมื่อสัมผัสได้ถึงความโกรธของคนส่วนใหญ่ หลินหยุนก็หัวเราะออกมาอีกครั้ง นี่คือจุดประสงค์ที่เขาต้องการอยู่แล้ว
การที่เขามาที่นี่ในวันนี้ ก็เพื่อแสดงความเย่อหยิ่งอวดดีของตัวเองออกมา
นี่จะทำให้เขาสามารถได้รับความสนใจจากไท่จื่อหรือองค์หญิงเก้าได้ง่ายขึ้น
สำหรับการแก่งแย่งชิงดีกันของทั้งสองคน ?
เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับหลินหยุนอยู่แล้ว!
เขาไม่สนใจเรื่องนี้ด้วย!
เรื่องที่เขาสนใจมีเพียงเรื่องเดียวก็คือจะเข้าในสนามรบหมื่นจักรวาลได้ยังไง และอยากจะรู้ข้อมูลของสนามรบหมื่นจักรวาลให้มากขึ้น
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินหยุน สีหน้าของสุ่ยซิงก็เย็นชาขึ้นมาทันที
เธอถูกหลินหยุนดูถูกแล้ว!
เธอคาดคิดไม่ถึงจริงๆ เธอเดินมาด้านหน้าหลินหยุนและหยุดทันที
เธอเปล่งเสียงไม่พอใจออกมาและพูดอย่างดูถูก"วางใจได้ ฉันอาจจะไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งที่สุดในสถานที่แห่งนี้ แต่ถ้าคุณสามารถเอาชนะฉันได้ คุณอยากจะนั่งอยู่บนตำแหน่งนั้น ก็คงไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีก!"
สายตาของหลินหยุนเปล่งประกายทันทีและพูดเบาๆ"ดูเหมือนว่าฐานะของคุณจะไม่ธรรมดาเลย คุณน่าจะเป็นลูกศิษย์ของเก้าสำนักใหญ่! น่าเสียดายจริงๆที่ฉันไม่รู้จักคุณ!"
เมื่อหลินหยุนพูดจบ มีชายวัยรุ่นใส่ชุดสีแดงตะโกนออกมาด้วยความโกรธ"ไอ่หนุ่ม นายอวดดีมากเกินไปแล้ว!"
ทุกคนไม่ใช่คนโง่ พวกเขาฟังออกอยู่แล้ว คำพูดของหลินหยุน ไม่ได้พูดถึงสุ่ยซิงเพียงแค่คนเดียว
เขาพูดถึงเก้าสำนักใหญ่ด้วย เขาใจกล้ามากๆที่กล้าพูดแบบนี้ออกมา
หลินหยุนไม่ได้สนใจชายชุดแดงเลย เขามองหน้าสุ่ยซิงแล้วพูด "โอเค เอาอย่างนี้ก็ได้ งั้นพวกเราก็ลงมือได้เลย !"
เมื่อสุ่ยซิงได้ยิน เธอก็ไม่ได้พูดอะไรอีก กระบี่ยาวก็ถูกดึงออกมาทันที รังสีกระบี่สีน้ำเงินปกคลุมไปทั่ว มีหยดน้ำนับไม่ถ้วนตกลงมา หยดน้ำทุกหยุด เป็นรังสีกระบี่ที่เย็นยะเยือกมากๆ
เมื่อมองเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ทุกคนหายใจเร็วด้วยความตกใจ
จิตใจของพวกเขาก็ตกตะลึงมากๆ เพลงกระบี่ปี้สุ่ยของสำนักปี้สุ่ย
ถ้าอยากจะหลบหนีจากการโจมตีกระบวนท่านี้ มันเป็นไปได้ยากมากๆ
หยดน้ำสองหยดปกคลุมก็กลายเป็นขอบเขตพลังทันที
เมื่อโดนพลังของอีกฝ่ายล็อกตัวไว้แล้ว ทำให้ไม่สามารถหลบหนีได้
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงในห้องโถงใหญ่เลย เพราะไม่มีที่ให้หลบหนีได้อยู่แล้ว!
นี่ก็คือเหตุผลหลังที่สุ่ยซิงเลือกโจมตีด้วยวิชาอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์อันนี้
ในเมื่อเธอเลือกที่จะลงมือแล้ว
ในเมื่อเด็กหนุ่มที่อยู่ด้านหน้าคนนี้อวดดีมากๆ
ในเมื่อไท่จื่อได้สั่งเรื่องนี้ลงมาแล้ว
เธอต้องทำเรื่องนี้ให้สำเร็จให้ได้!
ทางด้านไท่จื่อนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนว่าไท่จื่ออยากให้เธอสร้างโอกาสครั้งนี้ขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...