เมื่อพูดจบ หลินหยุนก็ยกแก้วเหล้าขึ้นมาและดื่มหมดแก้วทันที เมื่อได้ยินคำพูดของหลินหยุน ดวงตาอันเย็นชาขององค์หญิงเก้าก็เปล่งประกายทันที
จากนั้นเธอก็พูดเบาๆ "มันเป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น ฉันไม่ได้ช่วยเหลืออะไรคุณมากมายนัก!"
องค์หญิงเก้านิ่งไปชั่วครู่และมองไปที่หลินหยุนแล้วเอ่ยปากพูด"คิดไม่ถึงจริงๆ วันนี้คุณจะสามารถนั่งยังตำแหน่งนี้ได้"
หลินหยุนหัวเราะเบาๆ"ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ใจกว้างมากกว่า! ฉันไม่มีฐานะอะไรเลยและไม่ได้แข็งแกร่งมากด้วย การที่ฉันสามารถนั่งอยู่ตำแหน่งนี้ได้ เพราะทุกคนที่อยู่ตรงนี้ให้เกียรติฉันต่างหาก!"
เขาไม่ได้พูดจาข่มขู่คนอื่นหรือพูดจาอวดดี!
และยังยอมรับว่าตัวเองอวดฉลาดตอนที่เขาอยู่หน้าประตูวัง
เรื่องนี้ทำให้ไท่จื่อกับองค์หญิงเก้ารู้สึกตกใจเหมือนกัน
เดิมทีพวกเขาคิดว่าหลินหยุนมีจุดประสงค์ของตัวเอง และเขาก็คาดเดาสถานการณ์ต่างๆได้อย่างแม่นยำ แต่เมื่อดูจากตอนนี้ มันไม่ได้มีเพียงแค่นี้
การกระทำต่างๆของหลินหยุนนั้น ดูเหมือนเขารู้ตัวดีว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ เรื่องแบบนี้ไม่ธรรมดาเลย ดังนั้นทั้งสองคนจึงแอบสบตากัน และเห็นความตกใจจากสายตาของอีกฝ่าย
มันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้ว แต่ละก้าวของหลินหยุน แต่ละเรื่องที่หลินหยุนกระทำ การแสดงออกของหลินหยุน อันที่จริงเขารู้มาโดยตลอดว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่
สำหรับวัยรุ่นคนหนึ่ง เรื่องพวกนี้มันยากมากๆ ไม่เพียงแค่องค์หญิงเก้า แม้แต่ไท่จื่อ เขามองหลินหยุนสูงขึ้นอีกหนึ่งระดับทันที!
ในเวลานี้ สายตาของไท่จื่อมองไปที่สุ่ยซิงที่นั่งอยู่เก้าอี้ตัวที่ห้าที่อยู่ฝั่งเดียวกับหลินหยุนทันที
เมื่อมองเห็นสีหน้าอันขาวซีดของสุ่ยซิง ไท่จื่อทำเหมือนไม่รู้เรื่องและถามทันที "สุ่ยซิง ดูเหมือนสีหน้าของคุณไม่ค่อยดีเลย เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?"
นางฟ้าสุ่ยซิงยังไม่ทันได้เอ่ยปากพูด
ชายชราที่อยู่ด้านหลังของไท่จื่อก็พูดทันที"กราบเรียนไท่จื่อ เมื่อสักครู่……นางฟ้าสุ่ยซิงกับคุณชายหลินหยุนต่อสู้กัน ทำให้นางฟ้าสุ่ยซิงได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย!"
เมื่อได้ยินคำพูดของชายชรา ทำให้ไท่จื่อตกตะลึงทันที
จากนั้นเขาก็มองหน้าหลินหยุนและพูด"หลินหยุน นางฟ้าสุ่ยซิงพ่ายแพ้ให้คุณใช่ไหม?"
หลินหยุนพูดเบาๆ "ไท่จื่อ เมื่อสักครู่ฉันกับนางฟ้าสุ่ยซิงประลองฝีมือกัน ฉันหวังว่าไท่จื่อจะไม่โกรธพวกเรา!"
เมื่อไท่จื่อได้ยิน เขาก็หัวเราะออกมาทันทีและพูด"ไม่เป็นไร อันที่จริงการจัดงานย่องเยาว์ทุกครั้ง ก็จะมีการประลองเกิดขึ้นเสมอ"
"ในงานย่องเยาว์นั้น จะไม่มีการจัดลำดับที่นั่ง!"
"อันที่จริงแล้ว เพื่อให้ทุกคนได้ประลองเพื่อเลือกที่นั่งกัน!"
"อย่างไรก็ตาม……"
"หลินหยุน คุณเป็นคนที่เหนือความคาดหมายของฉันจริงๆ!"
"คุณสามารถเอาชนะนางฟ้าสุ่ยซิง!"
"คูณรู้หรือเปล่า ในวัยรุ่นทั้งหมดของเขตกลางฟ้า นางฟ้าสุ่ยซิงมีความแข็งแกร่งและอยู่ในร้อยอันดับแรก!"
หลินหยุนพูดเบาๆ"เรื่องนี้ฉันไม่ทราบ ดูเหมือนว่านางฟ้าสุ่ยซิงไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดเพื่อประลองกับฉัน! ตอนแรกฉันยังนึกว่าตัวเองแข็งแกร่งกว่านางฟ้าสุ่ยซิงซะอีก!"
"เมื่อได้ยินคำพูดของไท่จื่อแล้ว!"
"ดูเหมือนนางฟ้าสุ่ยซิงจะออมมือให้ฉันมากกว่า!"
นางฟ้าสุ่ยซิงที่นั่งอยู่ข้างๆ เมื่อเธอได้ยินคำพูดเหล่านี้ เธอก็เปล่งเสียไม่พอใจออกมาทันที แต่เธอไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย
แต่สีหน้าของเธอกลับแย่มากๆ การต่อสู้ของพวกเขาสองคนเมื่อสักครู่ ทุกคนต่างมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น คำพูดของหลินหยุน ไม่ได้ไว้หน้าเธอเลย มันเป็นการดูถูกเธอชัดๆ!
ไท่จื่อหัวเราะออกมาและพูด"หลินหยุนไม่ต้องพูดจาเกรงใจแบบนี้ก็ได้ ชนะก็คือชนะ!"
ขณะพูด สายตาของเขาก็มองไปที่ทุกคนทันที
จากนั้นก็พูดเบาๆ" การจัดงานย่องเยาว์ทุกครั้ง จะต้องมีการประลองเกิดขึ้น !"
"นี่เป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำ!"
"ก่อนที่งานเลี้ยงจะจัดขึ้น!"
"พวกเราก็เริ่มการประลองตอนนี้เลย!"
"ไม่รู้ว่าใครอยากจะเป็นคนแรกที่ขึ้นมาประลอง ทำให้พวกเราเห็นความสามารถของเขา?"
ในงานย่องเยาว์ทุกครั้ง จะมีการประลองเกิดขึ้นเสมอ!
นี่เป็นการประลองที่สามารถสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองได้!
และเป็นโอกาสที่ดีมากๆสำหรับการสังเกตคนๆหนึ่ง!
ถ้าสามารถแสดงพลังที่แข็งแกร่งมากๆออกมา ก็จะได้รับความสนใจจากราชวงศ์!
คนๆนั้นก็จะมีอนาคตที่สดใส!
สำหรับทุกคนแล้ว นี่คือโอกาสที่ดีมากๆ!
แน่นอนว่าครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อนๆ
"ดังนั้น ทุกท่านไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้!"
"ถ้าใครอยากจะลงมาประลอง ก็ลงมือได้เลย!"
คำพูดของไท่จื่อ ดูเหมือนจะช่วยลดแรงกดดันและความเครียดให้ทุกคน
แต่ทุกคนต่างรู้ดีอยู่แกใจ คำพูดเหล่านี้ มันเป็นแค่คำพูดที่สวยหรูเท่านั้น
เก้าสำนักใหญ่และสำนักระดับสองพวกนั้น พวกเขาไม่ได้กังวลใจเพราะการลงมือประลองเลย
สำหรับสำนักอื่นๆที่ไม่ใช่เก้าสำนักใหญ่และสำนักระดับสองละ?
มันต่างกันทันที
นอกจากพวกเขาจะยืนอยู่ด้านหน้าไท่จื่อกับองค์หญิงเก้าแล้วแสดงจุดยืนของตัวเองออกมา
แต่คนพวกนี้จะกล้าทำแบบนี้เหรอ?
โอกาสที่จะทำแบบนี้มีน้อยมากๆ!
เรื่องเหล่านี้ ทุกคนต่างรู้ตัวดี
ดังนั้น ถึงแม้ไท่จื่อจะพูดแบบนี้ออกมา แต่ก็ไม่มีใครกล้าขยับตัวเลย
แต่ในเวลานี้ หลินหยุนค่อยๆยืนขึ้นมา
หลินหยุนใช้มือคำนับให้ไท่จื่อกับองค์หญิงเก้าแล้วพูด "ไท่จื่อ องค์หญิงเก้า ในเมื่อไม่มีใครกล้าลงมาประลอง งั้นก็ให้ฉันโยนหินถามทางและลงมาประลองเป็นคนแรกละกัน! เพราะฉันก็อยากจะรู้เหมือนกัน ทุกท่านที่อยู่ตรงนี้จะแข็งแกร่งแค่ไหนกันแน่ !"
เมื่อพูดจบ หลินหยุนก็เดินออกไปทันที ตอนนี้สายตาของทุกคนต่างมองไปที่หลินหยุน
สายตาของคนเหล่านี้เต็มไปด้วยความโกรธ พลังและความแข็งแกร่งของหลินหยุน พวกเขาเคยเห็นมาก่อนหน้านี้แล้ว แม้แต่นางฟ้าสุ่ยซิงก็พ่ายแพ้อย่างราบคาบ
คนอื่นๆอยากจะเอาชนะหลินหยุนให้ได้ มันเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก!
วันนี้หลินหยุนเพียงคนเดียวทำตัวโดดเด่นและแย่งซีนของคนอื่นๆไปทั้งหมด
หลินหยุนเดินมาถึงตรงกลางห้องโถงใหญ่ จากนั้นก็พูดเบาๆ"ถ้ามีใครอยากจะประลองกับฉัน ก็ลงมือได้เลย!"
เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดนี้ พวกเขาสบตากันทันที สีหน้าของทุกคนแย่มากๆ
ออกไปประลองกับเขา?
พวกเราจะเอาอะไรไปประลองกับเขา?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...