จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1581

สรุปบท บทที่ 1581 ขยะทั้งนั้น: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

บทที่ 1581 ขยะทั้งนั้น – ตอนที่ต้องอ่านของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

ตอนนี้ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1581 ขยะทั้งนั้น จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เห็นหลินหยุนเดินไปยังใจกลางของตำหนัก

สายตาของทุกคนก็จ้องมองไปที่ร่างของเขา

แต่ว่า

สายตาของหลายคนก็ยังคงมีความโมโหอยู่

ความหมายของหลินหยุนนั้น

ชัดเจนว่าต้องการที่จะเอาชนะอัจฉริยะภายในงานย่องเยาว์ทั้งหมด

ทุกคนภายในงานต่างก็มีอายุที่ไม่มาก

แม้สามสิบปีก็ยังไม่ถึง ก็สำเร็จขั้นแดนจิตปฐมแล้ว

ใครบ้างล่ะที่จะไม่หยิ่งยโส?

ซึ่งการถูกกดขี่ข่มเหงแบบนี้

และยังจะอยู่ต่อหน้าของไท่จื่อและองค์หญิงเก้าอีกด้วย

ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่โมโห

แต่ว่า

ต่อให้จะโมโหไปก็ไม่มีประโยชน์

เพราะก่อนหน้านี้ที่หลินหยุนได้แสดงออกมานั้นมันช่างแข็งแกร่งอย่างมากเลยทีเดียว

คนแรกคือเจี้ยนอู๋เฉิน

จากนั้นก็คุณชายยาวยู่

สุดท้ายแม้แต่นางฟ้าสุ่ยซิงก็ยังพ่ายแพ้ให้กับน้ำมือของหลินหยุน

คนอื่นที่อยู่ภายในสถานที่แห่งนี้นอกจากพวกกี่คนนี้แล้ว

ล้วนไม่มีผู้ใดกล้าที่จะออกมาท้าประลองกับหลินหยุนเลย

และในขณะนั้นเอง

นางฟ้าสุ่ยซิงที่มีสีหน้าขาวซีดก็ได้ลุกยืนขึ้นทันใด และชักกระบี่ที่อยู่ในมือออกมาจากด้าม

แล้วก็ลอยตัวมายังฝั่งตรงข้ามของหลินหยุน

พร้อมกับตะโกนเสียงแข็งใส่หลินหยุนด้วยสีหน้าที่ไม่เป็นมิตรว่า “ในเมื่อไม่มีใครลงมือ งั้นฉันก็จะต่อสู้กับนายอีกสักครั้ง! ฉันอยากที่จะดูให้แน่ใจว่า นายมีความแข็งแกร่งมากขนาดนั้นจริง ๆ หรือไม่! ”

เมื่อพูดจบ

กระบี่ยาวในมือก็สั่นไหว ชี้ตรงไปที่หลินหยุน

แสดงออกถึงความหมายได้อย่างชัดเจน

สำหรับการพ่ายแพ้ก่อนหน้านี้นั้น แม้ว่าเธอจะตกตะลึงอยู่บ้าง แต่เวลานี้ดูเหมือนจะไม่ยอมแพ้เสียมากกว่า!

หลินหยุนเอาชนะเธอได้เพราะอาศัยวิชาจิตญาณ

วิชาจิตญาณนั้นเพียบพร้อมด้วยการโจมตีแบบฉับพลัน

ซึ่งเป็นเคล็ดลับในการลอบจู่โจม

ในขณะที่กำลังต่อสู้กับศัตรูนั้น

สามารถที่จะใช้วิชานี้ลอบโจมตีได้โดยง่าย

หากยิ่งไม่ได้เตรียมพร้อมมาเป็นอย่างดีด้วยแล้ว

ยากที่จะต้านทานเหลือเกิน

เธอถามตัวเองว่า พลังจิตญาณของเธอเองนั้นก็ไม่ถึงกับว่าอ่อนด้อย

เธอมีพลังบำเพ็ญแดนจิตปฐมตอนกลาง

ส่วนหลินหยุนแค่แดนจิตปฐมตอนต้น

ถึงแม้หลินหยุนจะเป็นผู้บำเพ็ญจิตญาณ พลังจิตญาณจะแข็งแกร่งกว่าหล่อนอยู่บ้างก็ตาม

แต่ก็ต้องแข็งแกร่งกว่าอย่างมีจำกัด

เพราะก่อนหน้านี้ในสภาวะที่เธอไม่ได้เตรียมพร้อมรับมือนั้น ได้รองรับแส้วิญญาณของหลินหยุนเข้าอย่างจัง

จึงทำให้เธอได้รับบาดเจ็บและต้องพ่ายแพ้ไป

แต่เธอก็เชื่อว่า

ถ้าหากในสภาวะที่เธอเตรียมพร้อมรับมือนั้น

คงจะไม่มีทางพ่ายแพ้อย่างเด็ดขาด

ความพ่ายแพ้เมื่อสักครู่นั้น

ไม่เพียงแต่จะอับอายขายหน้า

และยังอ่อนแอไร้ความสามารถด้วย!

ดังนั้นเธอจึงไม่อยากที่จะพลาดโอกาสในครั้งนี้แน่นอน

เพียงแค่สามารถเอาชนะหลินหยุนได้ในตอนนี้

เธอก็คงจะไม่ใช่ผู้ที่หลินหยุนใช้เหยียบย่ำเพื่อเชิดหน้าชูตาแล้ว!

เธอสามารถที่จะรักษาชื่อเสียงของตนเองเอาไว้!

และรวมถึงศักดิ์ศรีของลูกศิษย์ในสำนักด้วย!

เห็นสุ่ยซิงเดินออกมาด้วยความโมโห ไท่จื่อที่นั่งอยู่แถวหลักก็เคลื่อนสายตาไปมา และเข้าใจได้ว่าสุ่ยซิงกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ

ขณะนั้นจึงได้หัวเราะขึ้น พร้อมกับมองไปที่สุ่ยซิงและพูดว่า “นางฟ้าสุ่ยซิงยังต้องการจะต่อสู้อีกสักรอบเหรอ? ”

แม้ว่าจะกำลังโมโห แต่กับไท่จื่อแล้ว สุ่ยซิงก็ยังไม่กล้าที่จะทำอะไรบุ่มบ่ามลงไป

กระบี่ยาวในมือยังคงชี้ตรงไปที่หลินหยุน และหันหน้ามองไปที่ไท่จื่อพร้อมกับพูดว่า “ถูกต้อง! ไท่จื่อ แม้ว่าเมื่อครู่จะพ่ายแพ้ แต่ฉันก็ยังไม่ยอม หวังว่าไท่จื่อจะให้โอกาสฉันต่อสู้กับคนผู้นี้อีกสักครั้งเถอะ! ”

จะได้ต่อสู้อีกครั้งหรือไม่นั้น

ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของไท่จื่อ

ตรงจุดนี้เธอก็ยังเข้าใจได้เป็นอย่างดี

ไท่จื่อพยักหน้า

ที่จริงแล้ว

เขาเองก็ยังรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก ที่หลินหยุนสามารถเอาชนะสุ่ยซิงได้

แม้ว่าจะได้ฟังรายงานโดยละเอียดมาจากลูกน้องข้าทาสแล้วก็ตาม

แต่ต่อให้เป็นแบบนี้

เขาก็ยังคงรู้สึกว่าน่าเหลือเชื่อ!

สุ่ยซิงเป็นคนของเขา

เวลานี้แต่ละคนต่างก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปเป็นระยะ ดวงตาสองข้างแทบจะพ่นเปลวเพลิงแห่งความโกรธแค้นออกมาในทันที

อะไรคือการยั่วยุให้ทุกคนเกิดความโกรธแค้น?

ก็คืออย่างนี้เอง!

“ไอ้หนุ่ม พวกเราต่างก็เป็นอัจฉริยะของแต่ละสำนักใหญ่ในเขตกลางฟ้า! ส่วนนายก็แค่คนแปลกหน้าที่แม้แต่มีชื่อว่าอะไรก็ยังไม่รู้จัก และยิ่งไม่มีภูมิหลังอะไรอีกด้วย ทำไมถึงได้มาทำตัวเย่อหยิ่งต่อหน้าพวกเราขนาดนี้? ”

“ช่างกำเริบเสิบสานมากเกินไปแล้ว! ”

“อย่าได้ทำตัวกำเริบมากนัก! ระวังตัวเอาไว้ด้วยบางทีแม้แต่ตอนที่ตนเองตายก็ยังไม่รู้ว่าด้วยซ้ำว่าตายลงไปได้อย่างไร! ”

“......”

ทุกคนต่างพากันโมโห และทยอยดุด่ากันขึ้น

หากว่าเวลานี้นี้ไม่ได้อยู่ในงานย่องเยาว์

หากว่าเวลานี้ไม่มีไท่จื่อกับองค์หญิงเก้าอยู่ในที่แห่งนี้ เกรงว่าพวกคนเหล่านี้คงจะรุมโจมตีเข้าใส่หลินหยุนกันแล้ว

ได้ยินคำที่ทุกคนพูด

หลินหยุนก็ยิ้มเยาะ

สายตาของเขาได้กวาดมองไปยังใบหน้าของทุกคนที่อยู่ทั้งสองฝั่ง

จากนั้นก็พูดขึ้นอย่างเย้ยหยันว่า “ถูกต้อง พวกคุณพูดได้ถูกต้อง! ฉันผู้นี้ไม่มีชื่อเสียงโด่งดัง และยิ่งไม่มีภูมิหลังอะไรอีกด้วย ซึ่งไม่เหมือนกับสหายทุกท่านที่นั่งกันอยู่ในที่แห่งนี้! ”

“พวกคุณทุกคน จำนวนไม่มากก็น้อยต่างก็ยังมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่ว! ”

“เพียงแค่พูดชื่อออกมา ทุกคนก็จะทราบว่าเป็นอัจฉริยะชั้นยอด! ”

“เบื้องหลังของพวกคุณแต่ละคน ต่างก็มีอิทธิพลอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่เป็นภูมิหลังให้กันทั้งนั้น! ”

“แต่......”

“ฉันกำลังคิดว่า ถ้าหากพวกคุณไม่เอ่ยถึงภูมิหลังของตนเองแล้ว พวกคุณจะยังคงกล้าพูดตามปกติอยู่หรือไม่? ”

“พวกคุณไม่สามารถที่จะสร้างผลกระทบด้านบวกอะไรเพิ่มเติมให้กับอิทธิพลอำนาจเบื้องหลังของตนเองได้เลย! ”

“แต่กลับตรงกันข้าม! ”

“พวกคุณได้แต่อาศัยอิทธิพลอำนาจเบื้องหลังของตนก็เท่านั้น! ”

“มองดูพวกคุณแต่ละคนสิ”

“พวกคุณมีใครสักคนที่กล้าจะมายืนต่อหน้าของฉัน และท้าประลองกับฉันบ้างไหม? ”

“พวกคุณไม่กล้า! ”

“เพราะว่าพวกคุณอ่อนแอเกินไป! ”

“คำเรียกขานที่ว่าอัจฉริยะ ผู้เก่งกาจ เหล่านี้เมื่อนำมาใช้เรียกขานพวกคุณแล้ว มันช่างเป็นการดูถูกคำเหล่านี้อย่างมากเลยทีเดียว! ”

“พวกคุณ ไม่คู่ควร! ”

“กลับกลายเป็นนางฟ้าสุ่ยซิง ที่คนอื่นมองว่าเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดา แต่มีจิตใจที่ไม่ยอมแพ้ ซึ่งหาได้ยากอย่างยิ่ง! ”

“แม้ว่าเธอจะอ่อนแอมาก! ”

“แต่ก็ทำให้ฉันยกย่องเธอมากขึ้น! ”

“สำหรับพวกคุณแล้ว? ”

“ต่างก็เป็นเพียงแค่ขยะที่ทำได้เพียงอาศัยอิทธิพลอำนาจเบื้องหลังไปหลอกลวงคนอื่นก็เท่านั้น! ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์