เห็นหลินหยุนเดินไปยังใจกลางของตำหนัก
สายตาของทุกคนก็จ้องมองไปที่ร่างของเขา
แต่ว่า
สายตาของหลายคนก็ยังคงมีความโมโหอยู่
ความหมายของหลินหยุนนั้น
ชัดเจนว่าต้องการที่จะเอาชนะอัจฉริยะภายในงานย่องเยาว์ทั้งหมด
ทุกคนภายในงานต่างก็มีอายุที่ไม่มาก
แม้สามสิบปีก็ยังไม่ถึง ก็สำเร็จขั้นแดนจิตปฐมแล้ว
ใครบ้างล่ะที่จะไม่หยิ่งยโส?
ซึ่งการถูกกดขี่ข่มเหงแบบนี้
และยังจะอยู่ต่อหน้าของไท่จื่อและองค์หญิงเก้าอีกด้วย
ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่โมโห
แต่ว่า
ต่อให้จะโมโหไปก็ไม่มีประโยชน์
เพราะก่อนหน้านี้ที่หลินหยุนได้แสดงออกมานั้นมันช่างแข็งแกร่งอย่างมากเลยทีเดียว
คนแรกคือเจี้ยนอู๋เฉิน
จากนั้นก็คุณชายยาวยู่
สุดท้ายแม้แต่นางฟ้าสุ่ยซิงก็ยังพ่ายแพ้ให้กับน้ำมือของหลินหยุน
คนอื่นที่อยู่ภายในสถานที่แห่งนี้นอกจากพวกกี่คนนี้แล้ว
ล้วนไม่มีผู้ใดกล้าที่จะออกมาท้าประลองกับหลินหยุนเลย
และในขณะนั้นเอง
นางฟ้าสุ่ยซิงที่มีสีหน้าขาวซีดก็ได้ลุกยืนขึ้นทันใด และชักกระบี่ที่อยู่ในมือออกมาจากด้าม
แล้วก็ลอยตัวมายังฝั่งตรงข้ามของหลินหยุน
พร้อมกับตะโกนเสียงแข็งใส่หลินหยุนด้วยสีหน้าที่ไม่เป็นมิตรว่า “ในเมื่อไม่มีใครลงมือ งั้นฉันก็จะต่อสู้กับนายอีกสักครั้ง! ฉันอยากที่จะดูให้แน่ใจว่า นายมีความแข็งแกร่งมากขนาดนั้นจริง ๆ หรือไม่! ”
เมื่อพูดจบ
กระบี่ยาวในมือก็สั่นไหว ชี้ตรงไปที่หลินหยุน
แสดงออกถึงความหมายได้อย่างชัดเจน
สำหรับการพ่ายแพ้ก่อนหน้านี้นั้น แม้ว่าเธอจะตกตะลึงอยู่บ้าง แต่เวลานี้ดูเหมือนจะไม่ยอมแพ้เสียมากกว่า!
หลินหยุนเอาชนะเธอได้เพราะอาศัยวิชาจิตญาณ
วิชาจิตญาณนั้นเพียบพร้อมด้วยการโจมตีแบบฉับพลัน
ซึ่งเป็นเคล็ดลับในการลอบจู่โจม
ในขณะที่กำลังต่อสู้กับศัตรูนั้น
สามารถที่จะใช้วิชานี้ลอบโจมตีได้โดยง่าย
หากยิ่งไม่ได้เตรียมพร้อมมาเป็นอย่างดีด้วยแล้ว
ยากที่จะต้านทานเหลือเกิน
เธอถามตัวเองว่า พลังจิตญาณของเธอเองนั้นก็ไม่ถึงกับว่าอ่อนด้อย
เธอมีพลังบำเพ็ญแดนจิตปฐมตอนกลาง
ส่วนหลินหยุนแค่แดนจิตปฐมตอนต้น
ถึงแม้หลินหยุนจะเป็นผู้บำเพ็ญจิตญาณ พลังจิตญาณจะแข็งแกร่งกว่าหล่อนอยู่บ้างก็ตาม
แต่ก็ต้องแข็งแกร่งกว่าอย่างมีจำกัด
เพราะก่อนหน้านี้ในสภาวะที่เธอไม่ได้เตรียมพร้อมรับมือนั้น ได้รองรับแส้วิญญาณของหลินหยุนเข้าอย่างจัง
จึงทำให้เธอได้รับบาดเจ็บและต้องพ่ายแพ้ไป
แต่เธอก็เชื่อว่า
ถ้าหากในสภาวะที่เธอเตรียมพร้อมรับมือนั้น
คงจะไม่มีทางพ่ายแพ้อย่างเด็ดขาด
ความพ่ายแพ้เมื่อสักครู่นั้น
ไม่เพียงแต่จะอับอายขายหน้า
และยังอ่อนแอไร้ความสามารถด้วย!
ดังนั้นเธอจึงไม่อยากที่จะพลาดโอกาสในครั้งนี้แน่นอน
เพียงแค่สามารถเอาชนะหลินหยุนได้ในตอนนี้
เธอก็คงจะไม่ใช่ผู้ที่หลินหยุนใช้เหยียบย่ำเพื่อเชิดหน้าชูตาแล้ว!
เธอสามารถที่จะรักษาชื่อเสียงของตนเองเอาไว้!
และรวมถึงศักดิ์ศรีของลูกศิษย์ในสำนักด้วย!
เห็นสุ่ยซิงเดินออกมาด้วยความโมโห ไท่จื่อที่นั่งอยู่แถวหลักก็เคลื่อนสายตาไปมา และเข้าใจได้ว่าสุ่ยซิงกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ
ขณะนั้นจึงได้หัวเราะขึ้น พร้อมกับมองไปที่สุ่ยซิงและพูดว่า “นางฟ้าสุ่ยซิงยังต้องการจะต่อสู้อีกสักรอบเหรอ? ”
แม้ว่าจะกำลังโมโห แต่กับไท่จื่อแล้ว สุ่ยซิงก็ยังไม่กล้าที่จะทำอะไรบุ่มบ่ามลงไป
กระบี่ยาวในมือยังคงชี้ตรงไปที่หลินหยุน และหันหน้ามองไปที่ไท่จื่อพร้อมกับพูดว่า “ถูกต้อง! ไท่จื่อ แม้ว่าเมื่อครู่จะพ่ายแพ้ แต่ฉันก็ยังไม่ยอม หวังว่าไท่จื่อจะให้โอกาสฉันต่อสู้กับคนผู้นี้อีกสักครั้งเถอะ! ”
จะได้ต่อสู้อีกครั้งหรือไม่นั้น
ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของไท่จื่อ
ตรงจุดนี้เธอก็ยังเข้าใจได้เป็นอย่างดี
ไท่จื่อพยักหน้า
ที่จริงแล้ว
เขาเองก็ยังรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก ที่หลินหยุนสามารถเอาชนะสุ่ยซิงได้
แม้ว่าจะได้ฟังรายงานโดยละเอียดมาจากลูกน้องข้าทาสแล้วก็ตาม
แต่ต่อให้เป็นแบบนี้
เขาก็ยังคงรู้สึกว่าน่าเหลือเชื่อ!
สุ่ยซิงเป็นคนของเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...