จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1587

พูดถึงการระงับความกำเริบเสิบสานเมื่อครู่นี้กันหน่อย

ที่จริงแล้วก็แค่ต้องการกำจัดยับยั้งความหยิ่งผยองของหลินหยุนลงเท่านั้น

หลินหยุนเองจะรู้ตัวหรือไม่?

ไท่จื่อมองว่า หลินหยุนเป็นคนที่เฉลียวฉลาด เขาคงน่าจะรู้ตัวอย่างแน่นอน

ไม่เพียงแต่เขาจะรู้ เขายังพูดโพล่งขึ้นมาอีกด้วยซ้ำ

เขาพูดว่าอย่างไรกัน?

“วันนี้ดูเหมือนว่าการแสดงอำนาจข่มขู่นั้นฉันเองจะต้องรับเคราะห์แล้วจริง ๆ ด้วย! ”

นี่คือคำพูดเดิมของหลินหยุน

ดังนั้นหลินหยุนเข้าใจอย่างชัดเจนว่าตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น

ถ้าอย่างนั้นเขาต้องทำอย่างไรล่ะ?

ถ้าเป็นคนอื่น เห็นว่ายอดฝีมือแดนดั่งเทพกำลังที่จะข่มเหงรังแกตนเอง เกรงว่าคงจะไม่มีแม้แต่ความคิดที่จะลงมือ!

ยินยอมแต่โดยดี!

แต่หลินหยุน ไม่ใช่อย่างนั้น!

เขาถึงขนาดที่ยั่วยุท้าทายยอดฝีมือแดนดั่งเทพเลยด้วย!

ท้ายที่สุดผู้ที่มีพลังบำเพ็ญแดนจิตปฐมตอนต้น ก็สามารถที่จะได้รับผลเสมอในการต่อสู้กับยอดฝีมือแดนดั่งเทพตอนต้นได้สำเร็จ

ลักษณะนิสัยแบบนี้ คือนิสัยที่จะไม่มีทางยินยอมอ่อนข้อ

และก็ไม่ใช่นิสัยที่จะยอมถูกควบคุมจัดการได้ง่าย ๆ

จุดนี้คือสิ่งเดียวที่เขาเป็นกังวล!

แต่เมื่อคิดทบทวนดูอีกทีเขาก็โล่งใจขึ้นบ้างแล้ว

อัจฉริยะที่แท้จริงนั้นต่างก็มีนิสัยเฉพาะของตน! ต่างก็ไม่ยอมที่จะถูกใครมาควบคุมบังคับแน่นอน!

ในตอนนั้นเสด็จพ่อเองก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน

โดยข้างกายของเขามีพี่น้องร่วมสาบานอยู่คนหนึ่ง ที่แข็งแกร่งทรงพลังอย่างมาก ถ้าพูดกันตามคุณูปการแล้ว ที่ราชวงศ์สามารถดำรงอยู่มาจนถึงวันเวลานี้ อย่างเจริญรุ่งเรืองได้นั้น คนผู้นั้นไม่ได้ทำคุณประโยชน์น้อยไปกว่าเสด็จพ่อของเขาเลย!

โดยไม่ใช่สิ่งที่เสด็จพ่อของเขานั้นจะสามารถบังคับควบคุมบังคับอะไรได้

ซึ่งเสด็จพ่อของเขาก็ยินยอมอนุญาตให้เกิดเรื่องอย่างนั้นขึ้น

กำเริบเสิบสาน!

หลงระเริง!

เผด็จการ!

และต่อให้จะหยาบคายเสียมารยาท!

อันที่จริงในระดับความรุนแรงของพฤติกรรมเหล่านี้ ล้วนอยู่ในขอบเขตที่เสด็จพ่อสามารถยอมรับได้ทั้งหมด

เพียงแค่ทำตามคำสั่งของฉัน อย่างนั้นทุกอย่างก็ไม่เป็นปัญหา

ในเมื่อเสด็จพ่อของเขากระทำได้ เขาเองก็กระทำได้เช่นกัน!

คิดถึงเรื่องนี้แล้ว ไท่จื่อก็หัวเราะเหอะเหอะและพูดว่า “หลินหยุน สามวันหลังจากนี้ ก็คือวันเริ่มต้นงานสรรเสริญเก้าสำนักอย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อถึงเวลานั้นนายติดตามฉันไปเข้าร่วมงานด้วย หลังจากที่งานจบลง ก็ติดตามฉันกลับไปที่พระราชวัง! ”

ขณะที่พูด ในมือของไท่จื่อก็เกิดประกายแสงขึ้น แหวนเก็บของวงหนึ่งก็ลอยเหาะมาทางหลินหยุน

หลินหยุนรีบยื่นมืออกไปรับ และก็ฟังไท่จื่อพูด “ในแหวนเก็บของวงนี้มีหินทิพย์ชั้นกลางอยู่จำนวนหนึ่งหมื่นก้อน เอาไปใช้สำหรับการบำเพ็ญฝึกฝนของนายก่อน จากนั้นเมื่อนายได้อบรมสั่งสอนซื่อจื่อทั้งสองแล้ว ในทุกเดือนจะมีค่าตอบแทนประจำให้ เมื่อเข้าไปในสถาบันราชภัฏ ก็สามารถที่จะรับภารกิจที่สถาบันราชภัฏได้มอบหมายให้ ซึ่งเมื่อดำเนินภารกิจสำเร็จแล้วก็จะได้รับทรัพยากรจำนวนมากเป็นของรางวัล! ”

“สรุปว่า เพียงแค่นายตั้งใจทำตามหน้าที่ ฉันจะไม่มีทางทำให้นายผิดหวังแน่นอน! ”

หลินหยุนไม่ได้แสดงท่าทีเกรงใจเลย จากนั้นก็เก็บแหวนเก็บของขึ้น และยกมือแสดงความเคารพต่อไท่จื่อ “ขอบคุณไท้จื่อเป็นอย่างมากเลย! ”

ดูกันสิ มิน่าล่ะที่เขาเป็นถึงไท่จื่อ!

จ่ายครั้งหนึ่งก็เป็นจำนวนที่มากถึงหินทิพย์ชั้นกลางหนึ่งหมื่นก้อนเลย!

จากที่คำนวณ จำนวนนี้เทียบเท่าได้กับหินทิพย์ชั้นล่างจำนวนหนึ่งล้านก้อนเลยทีเดียว

อีกทั้งยังบอกว่าให้มาใช้ในการบำเพ็ญฝึกฝน ที่จริงแล้วหินทิพย์ชั้นล่างหนึ่งล้านก้อน ยังเทียบเท่าไม่ได้กับหินทิพย์ชั้นกลางหนึ่งหมื่นก้อนเลยด้วยซ้ำ

ระดับความบริสุทธิ์ของชี่ทิพย์ ไม่สามารถที่จะนำมาเปรียบเทียบกันได้

หินทิพย์ชั้นกลางหนึ่งหมื่นก้อนก็เพียงพอที่จะใช้ได้ในระยะเวลาหนึ่งแล้ว

งานย่องเยาว์สิ้นสุดลง หลินหยุนก็พาฉินหลันมาพักอาศัยอยู่ในตำหนัก

ส่วนเขาก็ได้เก็บตัวบำเพ็ญฝึกฝนโดยตลอด

เพราะว่ามันช่างน่าเหลือเชื่ออย่างมาก!

ดังนั้นจึงกลับกลายเป็นว่าพวกอัจฉริยะจำนวนไม่น้อย รวมถึงพวกยอดฝีมือที่ไม่ได้วางแผนจะเข้าร่วมงานสรรเสริญเก้าสำนัก ต่างก็ทยอยเดินทางมาที่เมืองซวูอู๋

ไม่ใช่ว่าจะมาเป็นสักขีพยานงานสรรเสริญเก้าสำนัก

เพียงแค่ต้องการจะมารู้จักและพบเห็นหลินหยุน ผู้ที่มีชื่อเสียงเป็นที่ร่ำลืออย่างน่าอัศจรรย์กันไปทั่ว ว่าเขานั้นจะมีพลังความสามารถที่เก่งกาจอย่างที่พูดกันจริง ๆ หรือไม่

แต่เวลานี้เมื่อพบเห็น กลับทำให้คนจำนวนไม่น้อยพากันดูถูกเหยียดหยามไปต่าง ๆ นานา

หลินหยุนมีกลิ่นอายลมหายใจที่ปกติ

ก็แค่ยอดฝีมือแดนจิตปฐมตอนต้นธรรมดา

อีกอย่างก็คือ แม้ว่าจะมีรูปลักษณ์ที่ถือไม่ว่าไม่เลว แต่ก็แค่ไม่เลวเท่านั้น!

เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายก็ธรรมดาจนไม่รู้ว่าจะธรรมดาอย่างไรแล้ว

คนแบบนี้ สามารถที่จะเอาชนะอัจฉริยะทั้งหมดของเขตกลางฟ้าในงานย่องเยาว์ได้อย่างนั้นเหรอ?

ช่างน่าขันเสียจริง!

ดังนั้นหลังจากที่ไท่จื่อกับองค์หญิงเก้า ได้พาหลินหยุนเดินเข้ามาในงานแล้ว ก็มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ต่างก็คิดว่า หลินหยุนผู้นี้เป็นคนที่ไท่จื่อจงใจที่จะเสนอตัวออกมาหรือไม่

สรุปได้ว่า ยิ่งจะทำให้เกิดความสงสัยมากขึ้น กับข่าวที่ร่ำลือกันก่อนหน้านี้แล้ว

ขณะที่ไท่จื่อกำลังเดินไปข้างหน้านั้น พลางหัวเราะและพูดขึ้นว่า “หลินหยุน ดูเหมือนว่าครั้งนี้มีคนจำนวนมากต่างก็แปลกใจในตัวของนายทีเดียว! ”

หลินหยุนพูดขึ้นว่า “ก็แค่พวกที่ไร้ความสามารถไม่จำเป็นต้องไปใส่ใจหรอก! ฉันไม่อยากที่จะพิสูจน์อะไรต่อหน้าพวกคนเหล่านี้ด้วยซ้ำ! ”

ได้ยินเขาพูดขึ้นแบบนี้ แม้แต่ไท่จื่อเองก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบตาขาวใส่อย่างไม่สบอารมณ์ และส่ายศีรษะอย่างจำใจ “นายนี่นะ จะต้องปรับเปลี่ยนนิสัยที่กำเริบหลงระเริงลงไปเสียบ้าง ไม่อย่างนั้นไม่ช้าหรือเร็วก็จะต้องพบความเสียหาย! งานสรรเสริญเก้าสำนักในวันนี้ ผู้ที่มาร่วมงานต่างก็เป็นยอดฝีมือที่มีชื่อเสียงในเขตกลางฟ้า ส่วนในกลุ่มคนรุ่นใหม่ก็จะเป็นสุดยอดอัจฉริยะที่แท้จริง! ”

“ฉันจะบอกกับนายว่า สุ่ยซิงไม่สามารถที่จะเทียบเคียงกับพวกสุดยอดอัจฉริยะเหล่านั้นได้เลย! ”

“นายอย่าไม่เห็นใครอยู่ในสายตาแบบนี้โดยเด็ดขาด เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมา! ”

“แม้ว่าตอนนี้นายจะอยู่ในสังกัดของฉัน คนจำนวนมากต่างก็ไม่กล้าที่จะลงมือทำอะไรกับนายอย่างเปิดเผย แต่ถ้าหากล่วงเกินมากเกินไป ก็จะมีผู้ที่แอบลอบลงมือ ถ้าเป็นอย่างนั้นฉันเองก็อาจจะไม่สามารถรับรองความปลอดภัยของนายได้! ”

หลินหยุนกลับไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย โดยยิ้มและพูดว่า “ไท่จื่อ ฉันเองก็อยากที่จะลองดูสักหน่อยว่าอัจฉริยะที่แข็งแกร่งมากกว่าสุ่ยซิงนั้น จะเป็นอย่างไรกันแน่! ”

“ฉันผู้นี้ ไม่ใช่ว่าจะกำเริบเสิบสาน และหลงระเริงไปทุกเมื่อหรอก! ”

“เพียงแค่ฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่งมากกว่าฉันจริง ฉันไม่เพียงจะไม่กำเริบเสิบสาน ไม่หลงระเริงแล้ว ยังจะชื่นชมเลื่อมใสเขาผู้นั้นอีกด้วย! ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์